นายกฯ เสียใจต่อเหตุการณ์ดินโคลนถล่มที่ จ.น่าน กำชับทุกพื้นที่เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนให้ทันท่วงที พร้อมย้ำความสำคัญของภาษาไทย
วันนี้ (29 ก.ค.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดินโคลนถล่มที่จังหวัดน่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ราย โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า สาเหตุของการเกิดดินโคลนถล่มในครั้งนี้ เกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ดินภูเขาไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทางจังหวัดช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
“นายกฯ เป็นห่วงพี่น้องประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ เพราะในช่วงนี้กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า จะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม หรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ” พลโท สรรเสริญ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ ด้วยว่า ประเทศไทยของเรามีภาษาของตัวเอง ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ให้ลูกหลาน โดยวันนี้ในอดีตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย เพื่อให้คนไทยได้รักษาและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม
การเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมเศรษฐกิจในปัจจุบันและการหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาไทยอย่างมาก รัฐบาลจึงมีนโยบายในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะภาษาไทยและภาษาถิ่น ส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นไทย และภาคภูมิใจที่เรามีสมบัติอันล้ำค่า ช่วยสร้างชาติให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงเรื่อยมา
“นายกฯ เน้นย้ำว่า แม้ภาษาไทยจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามสมัยนิยม แต่อยากให้เด็ก เยาวชน และคนไทยทุกคน เรียนรู้รากเหง้าที่แท้จริง พร้อมทั้งร่วมกันอนุรักษ์และใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เหมาะสม และกระตุ้นให้คนรอบข้างเห็นความสำคัญของมรดกไทย
เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่มีภาษาเป็นของตนเอง ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนอย่างสมบูรณ์ อันเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นไทยและความเจริญวัฒนาของประเทศชาติบ้านเมือง”