รองโฆษก ทบ. เผย เร่งช่วยประชาชนรับมือน้ำโขงล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ภาคอีสาน เฝ้าระวัง หนองคาย-มุกดาหาร-บึงกาฬ-นครพนม-อุบลราชธานี
วันนี้ (31 ก.ค.) พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ยังคงติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสม เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย ดินสไลด์ และภาวะน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งขณะนี้มีจุดต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คือ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้น ทำให้หลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มได้รับผลกระทบ โดยการช่วยเหลือประชาชนของกองทัพบก ยังคงเน้นการแจ้งเตือนสภาพอากาศ สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมเจ้งเตือนประชาชนให้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน พื้นที่ลาดชัน พื้นที่ทางน้ำหลาก หรืออาจเกิดดินโคลนถล่ม สำหรับการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ขณะนี้ได้ใช้กำลังทหารพร้อมเรือท้องแบน และรถยนต์บรรทุกในการอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของ ช่วยในการสัญจร แจกจ่ายถุงยังชีพ การนำรถครัวสนามเข้าปรุงอาหารสดในพื้นที่เกิดน้ำท่วม การรักษาพยาบาล โดยชุดแพทย์สนามเคลื่อนที่ เป็นต้น
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ขณะนี้ หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบภาวะน้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องทั่วลำน้ำโขง ทำให้ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ, อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องเตรียมรับมือกับภาวะน้ำโขงล้นตลิ่ง อาทิ อ.เชียงคาน จ.เลย, อ.เมือง จ.หนองคาย, อ.เมือง จ.นครพนม, อ.เมือง จ.มุกดาหาร เป็นต้น ซึ่งขณะนี้หน่วยทหารในพื้นที่ได้บูรณาการร่วมส่วนราชการอย่างใกล้ชิด เพ่งเล็งพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงการแจ้งเตือนอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงและช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง โดยที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ ส่วนราชการได้จัดเตรียมอาคารเอนกประสงค์โรงเรียนบ้านด่านเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวแล้ว
สำหรับภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อื่นๆ มีดังนี้ ที่ จ.น่าน จากเหตุฝนตกหนัก ทำให้เกิดดินสไลด์ที่ ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ ล่าสุด ได้อพยพประชาชน 261 คน เข้าที่พักพิง ณ โรงเรียนบ้านสว้าเหนือ ต.ดงพญา เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้จัดชุดครัวสนามจาก มณฑลทหารบกที่ 38 ปรุงอาหารสด และจัดทีมแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ เข้าให้การรักษาพยาบาล ที่ จ.เชียงราย น้ำจากเขานางนอน ไหล่เข้าท่วมบ้านเรือน อ.แม่สาย ขณะนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 จัดกำลังพลพร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมตรวจสอบพื้นที่ทางการเกษตร ล่าสุด มณฑลทหารบกที่ 37 ได้เพิ่มกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในการอพยพ พร้อมเฝ้าระวังดินสไลด์ในพื้นที่
ที่ จ.มุกดาหาร ภาวะน้ำล้นตลิ่งทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,250 คน 4,250 ครัวเรือน, ถนน 12 สาย, สะพาน 1 แห่ง ใน 14 ตำบล 185 หมู่บ้าน ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ซึ่งกองพลทหารราบที่ 3 เข้าช่วยเหลือด้านการสัญจร ที่ จ.อุบลราชธานี มี 5 อำเภอ 9 ตำบล 29 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย โดยเฉพาะที่ อ.โขงเจียม และ อ.เขมราฐ มีภาวะน้ำล้นตลิ่ง มณฑลทหารบกที่ 22 เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว พร้อมมอบถุงยังชีพ นำเรือท้องแบน เข้าช่วยการสัญจรและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ จ.สกลนคร ภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในห้วง 2 วันที่ผ่านมา ได้เพิ่มระดับสูงขึ้น โดยประชาชนได้รับผลกระทบ 7อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.คำตากล้า อ.เจริญศิลป์ อ.พรรณานิคม อ.สว่างแดนดิน อ.พังโคน และ อ.โพนนาแก้ว ขณะนี้ มณฑลทหารบกที่ 29 จัดกำลังพลพร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถพยาบาล และเรือท้องแบน เข้าช่วยเหลือประชาชนร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากฝนตกต่อเนื่อง มีภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าสู่พื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง อาทิ จ.หนองคาย จ.มุกดาหาร จ.บึงกาฬ จ.นครพนม และ จ.อุบลราชธานี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ยังคงอำนวยการในภาพรวมในการช่วยเหลือประชาชนรับมือกับสภาวะฝนตกต่อเนื่อง พร้อมกับได้แจ้งให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 2 ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำรงการช่วยเหลือประชาชนร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ให้เป็นไปตามความห่วงใยของ ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งนโยบายของกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล อย่างดีที่สุด
