ประธาน กรธ. ชี้ 5 กกต.ต้อง เลือก ปธ.เตรียมเดินหน้าเลือกตั้ง ชี้ ยันสง่างาม-ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (31 ก.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษา กรธ.ตีความมาตรา 12 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ศ. 2560 ว่า หากให้ 5 กกต.เลือกประธานไปก่อน สุ่มเสี่ยงจะขัดกม.เลือกตั้งโดยต้องรอให้สรรหาอีก 2 คน จนครบ 7 คนก่อน ว่า ได้คุยกับนายเจษฎ์แล้ว เขาบอกว่า ไม่ได้พูดแบบนั้น พูดเพียงว่า 5 คน ก็สามารถเลือกประธานได้ แต่ถ้าครบ 7 คนแล้วค่อยเลือกจะดีกว่า ซึ่งกฎหมาย กกต.ก็เขียนไว้แล้ว มี กกต.5 คน ก็เลือกประธานได้ไม่มีปัญหา ตอนนี้ต้องเดินไปข้างหน้า จำเป็นต้องเลือกก็ต้องเลือก รอได้ก็ต้องรอ แต่นี่รอไม่ได้ เพราะจะเลือกตั้งกันอยู่แล้ว ส่วนรวมต้องเดินหน้า จะรอกันสัก 2 ปี ให้สรรหาจนครบ 7 ค่อยเลือกประธานรอกันไหวหรือไม่ อีกทั้งการเลือกประธานโดย 5 กกต. ไม่ใช่การตัดโอกาสอีก 2 คน ที่เหลือ ซึ่ง กกต. 5 คน ก็มีความสง่างามและชอบด้วยกฎหมาย
“เจตนารมณ์ของกฎหมายก็บอกอยู่ชัดๆ โดยเขียนไว้ว่า หากสรรหา กกต.ได้ครบ 5 คน ก็ให้เลือกคนหนึ่งเป็นประธาน ถ้าไม่มีเหตุต้องรีบร้อนจะรอจนครบ 7 ก็รอได้ แต่นี่ก็จะเลือกตั้งกันอยู่รอมร่อ ซึ่งถ้าไม่เลือกประธาน ก็นำรายชื่อทั้ง 5 คน ขึ้นทูลเกล้าฯไม่ได้ กกต.ชุดเก่าก็พะว้าพะวังอยู่ไปก็ทำงานไม่ได้ ครั้งนี้ตำแหน่งประธานก็กำหนดชัดให้เป็นรวดเดียว เพื่อไม่ให้มาตกลงผลัดกันเป็น หากใครออกจากตำแหน่งประธานก็ต้องพ้นตำแหน่ง กกต.ด้วย” นายมีชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกประธาน กกต. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. มาตรา 12 วรรคเก้า ระบุว่า ถ้ามี มีจํานวนถึงห้าคน ก็ให้ดําเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้ และเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว ให้คณะกรรมการดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไปพลางก่อนได้ โดยในระหว่างนั้นให้ถือว่า คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ และให้ดําเนินการสรรหาหรือคัดเลือกเพิ่มเติมให้ครบ ตามจํานวนที่ต้องสรรหาหรือคัดเลือกต่อไปโดยเร็ว