เมืองไทย 360 องศา
วันก่อน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวในเชิงตอบโต้ นายทักษิณ ชินวัตร ว่า ทางรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ “ก้าวข้าม” ไปแล้ว เพราะไม่ต้องการเสียสมาธิในการทำงาน และเดินหน้าไปตามโรดแมปที่กำหนดเอาไว้
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตร มักจะใช้ช่วงเวลาวันเกิดของตัวเองเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายรูปแบบอยู่ตลอดเวลา เช่น ฉวยโอกาสโจมตีรัฐบาลและฝ่ายตรงข้าม ประกาศท่าทีทางการเมือง มักมีการพบปะพูดคุยกับพวก ส.ส.ในพรรคของตัวเอง
ในปีนี้ก็เช่นเดียวกันในวันเกิดครบรอบ 69 ปีของตัวเองเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เขาก็ทำแบบเดียวกันในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษที่มาปักหลักที่นั่นพร้อมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของเขาที่มีสถานะเดียวกัน คือ “นักโทษหนีคดี” เพียงแต่ว่าในปีนี้หากสังเกตให้ดีจะผิดไปจากปีก่อนๆที่ผ่านมา
นั่นคือ “ซอฟ” ลงมามาก การเคลื่อนไหวจะออกมาในแบบเลี้ยงสังสรรค์กันแบบครอบครัวคนใกล้ชิดหรืออย่างมากก็มีการพวก “เขยใหญ่ เขยเล็ก” เข้ามาร่วมเท่านั้น เรียกว่าลดดีกรีลงไปเยอะเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆมา เพราะหากลองย้อนกลับไปจะเห็นว่าเคยแม้กระทั่งการให้สัมภาษณ์พูดจาท้าทาย โจมตีสถาบันหลักของชาติแทบทุกปี โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม หรือบางปีก็มีการเผยให้เห็นภาพที่พบปะกับพวก ส.ส.ในพรรคของเขาอย่างท้าทายกฎหมาย ไม่สนใจว่าเขาเป็นนักโทษหลบหนีคดี
ขณะเดียวกัน ในอีกมุมหนึ่งไม่ว่าเขาจะท้าทายกฎหมายหรือ ทำผิดแค่ไหนเหล่าพวกเจ้าหน้าที่ที่รักษากฎหมายในประเทศไทยก็มัก “เอาหูไปนาเอาตาไปไร่” หรือบางทีก็ถึงขั้นอำนวยความสะดวกและเคยมีที่มีนายตำรวจบางคนย่ำยีกฎหมายด้วยไปพบกับนักโทษเพื่อขอตำแหน่งจนเกิดวลีอัปยศ “มีวันนี้เพราะพี่ให้”
อย่างไรก็ดี ในปีนี้บรรยากาศผิดไปกว่าทุกปี นั่นคือ นายทักษิณ ชินวัตร อยู่ในอาการสงบกว่าเดิม การเคลื่อนไหวทางการเมืองในสื่อสัญลักษณ์ก็น้อยลง ไม่เห็นพวกอดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยที่ไปพบเหมือนเช่นเคย แม้จะมีบางคนไปพบแต่ก็เป็นแบบลับๆ ไม่มีการถ่ายรูปโชว์ในสื่อโซเชียลฯ ที่เห็นก็มีเพียงแค่โชว์ “ว่าที่ลูกเขยคนเล็ก” ให้เห็นเท่านั้น
สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะส่วนคำคัญเป็นเพราะ “คสช.เอาจริง” งัดมาตรการทางกฎหมายมาจัดการอย่างเข้มข้นกว่าทุกปี และบังเอิญว่ามีการออกหมายจับเพิ่มเป็นหมายจับใบที่ 5 ในคดี “หวยบนดิน” หลังจากเบี้ยวไม่ไปศาลตามกำหนดนัด หลังจากก่อนหน้านี้โดนไปแล้วเป็นหางว่าว โดยก่อนหน้านี้โดนไปแล้ว เช่น คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย คดีทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารส่งออกและนำเข้า(เอ็กซิมแบงก์) คดีออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตร คดีฟื้นฟูกิจการทีพีไอโดยมิชอบ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยตามกฎหมายใหม่
นอกเหนือจากนี้ คดยังเชื่อมโยงไปถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของเขา ที่ล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่วนตัวให้กับพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องในคดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร โดยมีหลักฐานจากการทำธุรกรรมการเงินโอนเงินเข้าบัญชีจำนวน 26 ล้านบาทและ 10 ล้านบาท ซึ่งคดีหลังสุดนี้ถือว่า นายพานทองแท้ เข้าใกล้ศาลมากทุกขณะแล้ว
สำหรับพวก อดีต สส.ทั้งหลายที่ปีนี้ไม่กล้าขยับ เพราะทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ขู่เอาไว้ว่าห้ามทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง โดยเฉพาะการให้คนนอกเข้ามาชี้นำพรรคอีกเป็นอันขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกยุบพรรค จะด้วยเหตุนี้หรือไม่ หรือเพราะมีคดีติดตัวเพิ่มขึ้นทั้งลูกทั้งพ่อหรือเปล่าทำให้งานวันเกิดปีนี้ถึงมีรายการโชว์น้อยลง มีเพียงการเผยแพร่คลิปของ พานทองแท้ ชินวัตร ออกมาให้เห็นบ้างเท่านั้นเอง แต่ไม่มีรายการโจ่งแจ้งเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ในทางการเมืองถือว่สทางฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เปิดเกมรุกเข้าใส่ ฝ่ายทักษิณ อย่างหนักเช่นกัน ภาพที่เห็นนอกเหนือจากกระแสพลังดูดที่เกินต้านทานแล้ว เป้าหมายหลักก็คือ"ย่อยสลาย"พรรคเพื่อไทย และกลุ่มมวลชนเสื้อแดง ในภาคอีสานและภาคเหนือที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงหลัก
และการที่ทางรัฐบาลและคสช.บอกว่าเวลานี้ได้ “ก้าวข้าม” นายทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว หรือไม่ หรือว่าก้าวข้ามพ้นไปแล้วหรือยัง อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่สำหรับ นายทักษิณ ทั้งในตอนนี้หรือในอนาคตข้างหน้าเขามีแนวโน้มต้องพเนจรอยู่ต่างประเทศตลอดไปจนตาย เพราะหากยังคิดกลับมา “อย่าเท่” ในแบบที่ไม่ต้องรับความผิด รับโทษถือว่าเป็นแค่ความฝันเท่านั้น เพราะเวลานี้นอกเหนือจากโทษจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษกแล้ว ยังมี 5 คดีในศาลที่กำลังถูกพิจารณาลับหลังจำเลยตามกฎหมายใหม่ และนี่คือของจริง ไม่ใช่มายา!!