“กระทรวงท่องเที่ยวฯ” บูรณาการทำงานดึง อพท.เข้าสังกัด ชี้ ยุค 4.0 คือ ยุคของความร่วมมือ อพท. เผยผลจากการใช้ “ใจ” ทำงานความสุขชุมชนล้นแตะระดับ 86.3% กูรูแนะภาครัฐเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศ เพื่อเป็นเงินใช้ดูแลนักท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว
วันนี้ (28 ก.ค.) พันเอก ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) กล่าวในงานเสวนา DASTA Forum2018 โดยระบุว่าตลอด 15 ปีของการทำงานในรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ด้วยกระบวนการทำงานที่มีส่วนร่วมแบบ Co-Creation (ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับผลประโยชน์) ภายใต้แนวคิด “Thailand Sustainable Development Panorama” โดยใช้เครื่องมือการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) และใช้ “ใจ” ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนเผยรายได้เสริมจากการท่องเที่ยวโตถึง 38.5% ระดับความอยู่ดีมีสุขของชุมชนสูงแตะระดับ 86.36% ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสชุมชนมีความสุข 79.17% มูลค่าเศรษฐศาสตร์ของทรัพยากรการท่องเที่ยวที่พัฒนาไปมีมูลค่าสูงถึง 4.4939 ล้านล้านบาท ตอกย้ำการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการสร้างความสุข สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา บรรยายพิเศษ หัวข้อ “แนวทางการปฏิรูปหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยุคใหม่ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0” ระบุมีความจำเป็นต้องรวมหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการท่องเที่ยวที่หนุนเสริมกันไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะการโอนย้าย อพท. มาเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เพราะ อพท. เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญสูงและมีองค์ความรู้ด้านการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานโลก มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรมจากชุมชนใน 6 พื้นที่พิเศษที่ อพท. พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
“องค์ความรู้ของ อพท. มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องนำไปใช้กับชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว (คลัสเตอร์) รวมถึงการรวมเรื่องกฎหมายต่างๆ ใน 3 กลุ่มภารกิจหลักของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันมากขึ้น และรวมพลังบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตามสังกัดหน่วยงานต่างๆ ให้สามารถแลกเปลี่ยนการทำงานและเรียนรู้ และพัฒนาชุมชนให้มีการท่องเที่ยวไทยไปด้วยกัน” รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวย้ำ
อย่างไรก็ตาม ภายในงานช่วงสนทนาพูดคุย ประเด็น “ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยยุค 4.0” โดยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศาสตราจารย์ ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ประธานมูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ นางดวงกมล จันสุริยวงศ์ ที่ปรึกษาสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย โดยเวทีเสวนามีความเห็นว่าสิ่งสำคัญกว่าการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและต้องทำเป็นอันดับแรก คือ ระบบการขนส่งที่เข้าถึงแหล่งท่องท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย ความสะอาดของห้องน้ำ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้ จะไม่เกิดผลเลยหากนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมเสนอให้มีการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวเพื่อใช้เป็นค่าประกันภัยนักท่องเที่ยวและนำมาใช้ดูแลแหล่งท่องเที่ยว