ปชป.ซัดถอยหลังลงคลองปิดห้องถกงบกองทัพ ฉะ คสช.เอาแต่ดูด ส.ส.ไม่เห็นหัว ปชช.

“อรรถวิชช์” อัด กมธ.งบ ปิดห้องถกงบกองทัพ ชี้ถอยหลังลงคลองเตือน ทหารต้องทำให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจ “แม่เลี้ยงติ๊ก” ซัด คสช.เอาแต่ดูด ไม่เห็นหัวประชาชนกำลังเดือดร้อน

วันนี้ (22 ก.ค.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีไม่มีการถ่ายทอดการการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ของกระทรวงกลาโหม เพราะเรื่องความมั่นคง ว่าตนเคยเป็น กมธ.งบประมาณหลายครั้งสมัยที่เป็นรัฐบาลเลือกตั้ง การถกงบประมาณของกระทรวงกลาโหม จะมีถ่ายทอดมาที่สื่อมวลชน กรณีมีเอกสารในเชิงลึกของกระทรวงกลาโหม จะมีชุดเดียวแล้วเวียนกันอ่านใน กมธ. กว่าจะวิวัฒนาการให้ท่าน ผบ.เหล่าทัพมาชี้แจง ส่งเอกสารประกอบเชิงลึก เป็นวิวัฒนาการในระบอบมาดีแล้ว ไม่อยากให้ถอยหลังกลับไปโดยใช้วิธีการปิดห้องประชุมลับ แล้วไม่ถ่ายทอด จะหนักเข้าไปอีกเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัย ไม่รู้ว่าคราวนี้ทำไมเขาต้องปิดลับ ไม่ใช่เพิ่งพิจารณางบกลาโหมกันครั้งนี้ครั้งแรก ในทางการเมืองก็เข้าใจกันอยู่ ว่าบางเรื่องเป็นเรื่องลับ แต่ตามกฎหมาย คณะ กมธ.เขาต้องทำการตรวจสอบ เวลามีข้อซักถาม ก็ต้องมีหนังสือชี้แจง การที่จะไม่ถ่ายทอดเลย ไม่รู้เลยว่าความเป็นมางบประมาณเป็นอย่างไร จะทำให้ถอยหลังเข้าคลองแน่นอน

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ระบบที่ปฏิบัติกันมาดีอยู่แล้ว ไม่ได้รั่วไหลอะไร หากเราทำให้เป็นแดนสนธยาความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประชาชนกับทหารจะน้อยลง ตอนนี้ทหารควรทำให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ได้ยากอะไรในอดีตเขาก็ทำกันตลอด ปกติ พ.ร.บ.งบประมาณมีรายละเอียดเป็นเอกสารไม่กี่แผ่น ซึ่งจะบอกว่าแต่ละกระทรวงจะทำอะไร แต่ในกล่องงบประมาณที่เขาใช้แจกทั่วไปเรียกว่า เล่มขาวคาดแดง ซึ่งรายละเอียดอยู่ในนั้น พออ่านแล้วถ้ามีประเด็นไหนที่ กมธ.สงสัย ผู้ถูกถามต้องส่งรายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งเอกสารชี้แจงรายละเอียด ต้องทำครบตามจำนวน กมธ. แต่ในกรณีของกระทรวงกลาโหม เป็นธรรมเนียมปฏิบัติพัฒนามาถึงจุดที่ว่าอย่างไรเสียก็ต้องส่งเอกสาร แม้เพียงแค่เล่มเดียวแล้ววนกันอ่านนั้นอยู่ในระดับที่กำลังพอดี ทุกคนในห้อง กมธ.ต้องเก็บเรื่องเป็นความลับ ถ้าปิดลับไม่เปิดเผยเลยแม้แต่ภาพรวม ระวังเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประชาชนกับทหารด้วย

“การที่ สนช.จะยกมือผ่านงบกลาโหม คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคสช.ตั้งมาเองอยู่แล้ว คงไม่มีเรื่องหลุดกรอบอะไรนักหนา แต่ไม่ควรปิดลับทั้งหมด ผมไม่อยากจะพูดอะไร ที่ไปกล่าวหาเขาว่างุบงิบหรือเปล่า แค่เล่าการพิจารณาที่ผ่านมาให้ฟัง แต่ถ้าไปสร้างบรรทัดฐานใหม่ ที่ต้องปิดลับทั้งหมดเลย อีกหน่อยในการพัฒนาการจะเลวลง ตรงนี้จะไม่ดี ความไว้เนื้อเชื่อใจน้อยลง” นายอรรถวิชช์กล่าว

ด้านนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลงานภาคเหนือ กล่าวถึงการลงพื้นที่ ครม.สัญจรของรัฐบาล คสช.และการเดินสายดูดอดีต ส.ส.ของกลุ่มสามิตร ว่าประชาชนในพื้นที่ตอนนี้ก็รู้ ว่าอะไรเป็นอะไร ภาพที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่าคนหนึ่งเดินสายงานการเมืองได้ทุกวีถีทาง แต่พรรคการเมืองพอลงพื้นที่แก้ปัญหาประชาชน ทั้งเรื่องผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาปากท้อง กลับถูกห้าม เพราะขัดกฎระเบียบกติกาที่ คสช.ประกาศล็อกกดทับเอาไว้ แบบนี้ถือว่าเอาเปรียบกันหรือเปล่า ยิ่งตอนนี้ชาวบ้านบ่นอะไรก็ไม่ดีสักอย่างเลยในพื้นที่ ภาครัฐไม่รู้หัวจิตหัวใจชาวบ้าน ชาวบ้านไม่มีที่พึ่ง ซ้ำร้ายยังมาเกิดกระแสข่าวแบ่งงานเดินสาย จนถูกครหาตามหน้าสื่อว่าเดินสายดูดอีก จริงไม่จริงไม่รู้ ถ้าจริงแบบนี้ไม่เรียกว่าแก้ความเดือดร้อน กลายเป็นระบบคนมีอำนาจได้เปรียบคนอื่นที่เขาตั้งใจช่วยเหลือประชาชน อยากถามว่า กลุ่มสามมิตรที่เดินสายอยู่นั้น นายกรัฐมนตรีและผู้ดูแลงานด้านความมั่นคง เห็นว่า เป็นการรวมตัวเกิน 5 คน และขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ อยากให้ คสช.ตอบมาให้ชัด แต่ทางที่ดีควรเปิดให้ทุกฝ่ายทำกิจกรรมได้ทั้งหมดจะดีกว่า เพื่อกันข้อครหาว่าเอาเปรียบคนอื่น และช่วยให้พรรคการเมืองแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้คล่องกว่าเดิมด้วย