xs
xsm
sm
md
lg

แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง!! “ค่าขนม 20 ล้าน”ไม่เกี่ยวประมูลโรงไฟฟ้า แค่สินบนนำเข้าอุปกรณ์ “ขนอมโรง 4” **ลำบากก็ไม่น่าไป!! ส่งตำรวจตามอารักขา“เทพเทือก”บุกหาเสียงใน “ดงเสื้อแดง” **ปีนี้งดดราม่า!! แต่งตั้ง “บิ๊กตุลาการ”หวนใช้ “นิติประเพณี”ยึดหลักอาวุโส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



**แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง!! “รมว.พลังงาน -ปธ.บอร์ดเอ็กโก้”โล่งอก โวลั่น “ค่าขนม 20 ล้าน”ไม่เกี่ยวประมูลโรงไฟฟ้า แค่สินบนนำเข้าอุปกรณ์โครงการ “ขนอมโรง 4”ประจาน “ราชการไทย”หารับประทานได้ทุกขั้นตอน แบบนี้คงเหมารวมไม่ได้ว่า โครงการที่เกี่ยวกับ “โรงไฟฟ้า”จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ขนาด “โปรเจกต์แสนล้าน” แถวๆ คลองหลอดยังไม่ไปถึงไหน “ลูกผู้มีอำนาจ”ยังเรียก “เมกฯละล้าน - เมกฯละโล”เป็นล่ำเป็นสัน
 ศิริ จิระพงษ์พันธ์  และ วิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์
โล่งอกกันเป็นแถว .. กรณี “สื่อญี่ปุ่น”ตีข่าวว่า “ทางการแดนปลาดิบ”กำลังสืบสวนกรณี บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ (MHPS)จ่ายสินบน 60 ล้านเยน หรือ 20 ล้านบาทให้ “เจ้าหน้าที่ทางการของประเทศไทย” ..โดยเป็น “สินบน” ที่เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนในประเทศไทย เมื่อปี 2556 .. ก่อนจะมีการชี้แจงว่า “ค่าขนม 20 ล้าน”ไม่ได้เกี่ยวกับกระบวนการ “ประมูล”อย่างที่เข้าใจกันทีแรก .. ทำเอาผู้เกี่ยวข้องออกมาตีอกชกลมกันเป็นแถว ทั้ง ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ที่ยืนกรานเสียงดังว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประมูลโรงไฟฟ้า แต่เป็นขั้นตอนขนส่งอุปกรณ์เครื่องกำเนิดโรงไฟฟ้า .. ก่อนที่ วิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะประธานบอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และประธานบอร์ด บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก้) จะยืนยันอีกเสียงว่า เป็นการติดสินบนด้านการนำเข้า การขนส่ง เครื่องจักรเข้ามายังไทยเท่านั้น .. พร้อมยอมรับเป็นนัยๆ ว่า “โครงการต้องสงสัย”ที่ทางญี่ปุ่นสอบอยู่คือ “โรงไฟฟ้าขนอมหน่วยที่ 4” ที่ MHPS เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์หลักต่างๆ เมื่อช่วงปี 2556-57 ..

แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการประมูล หากแต่ข้อมูลทางญี่ปุ่นยืนยันว่า มีการจ่าย “สินบน” จริง และจ่ายให้ “เจ้าหน้าที่รัฐไทย” จริงๆ .. ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการใดนั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบหา “ผู้กระทำความผิด”มาลงโทษ ไม่ใช่ว่าความผิดพ้นตัวแล้วก็แล้วกันไป .. และแม้ว่าจะไม่มี “หน่วยงานหลักด้านพลังงาน”เกี่ยวข้อง แต่ “ค่าขนม 20 ล้านบาท” ที่อาจจะมูลค่าไม่สูง แต่ก็เสมือน “ยอดภูเขาน้ำแข็ง”ที่ประจานว่า “เงินใต้โต๊ะ”เป็นของคู่กับ “ราชการไทย” .. เรื่องขี้หมูขี้หมาอย่างการขนส่งอุปกรณ์ที่จำเป็น ก็ยังมีช่องทาง “หารับประทาน” เรียก “สินบาทคาดสินบน” กันแบบนี้ แล้วเรื่องใหญ่ๆ อภิมหาโปรเจกต์ “ใต้ภูเขาน้ำแข็ง” จะจ่ายกันมหาศาลขนาดไหน .. แล้วก็ไม่ใช่ว่า จะไปสรุปเหมารวมว่า โครงการที่เกี่ยวกับ “โรงไฟฟ้า” จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้ข้อครหา .. ก็สมัยนี้อะไรมันก็เป็นเงินเป็นทอง ขนาดโปรเจกต์ยังไม่ไปถึงไหน ยังมีข่าว “ลูกผู้มีอำนาจ”หารับประทานเป็นล่ำเป็นสัน “เมกฯละล้าน - เมกฯละโล” เกี่ยวกับ “โครงการแสนล้าน” แถวๆ คลองหลอด นั่นปะไร

** ลำบากก็ไม่น่าไป!! “สภ.อ.สุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด” จัดให้ ส่งตำรวจ 10 กว่านาย ตามอารักขา-อำนวยความสะดวก “เทพเทือก”ที่บุก “หาเสียง”ใน “ดงเสื้อแดง”เจอโซเชียลวิจารณ์หึ่ง รู้ตัวเป็น “สายล่อฟ้า”ไม่ควรลงพื้นที่ให้เป็น “ภาระ” ทำตำรวจเสียกำลังพล “ในเวลาราชการ”โดยใช่เหตุ ขยี้ปมร้อน “ตำรวจในราชการ”ตามก้น “อดีตนักการเมือง”ไม่ต่าง “ผู้กำกับหนุ่ย”ที่ลาราชการไป รปภ. “ยิ่งลักษณ์”จนเป็นเรื่อง
สุเทพ เทือกสุบรรณ
เพิ่งตกเป็นขี้ปากไปเหม็บๆ .. เมื่อปรากฏ “ตำรวจในราชการ” อย่าง “ผู้กำกับหนุ่ย”พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย โผล่ไปติดตามอารักขา “นายแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร - “นายปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคดี ที่ต่างประเทศ .. จนเป็นเหตุให้ “ต้นสังกัด”ยกเลิกวันลา และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นผลให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง “เด้งเข้ากรุ” ให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ขาดจากตำแหน่งเดิม .. กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์พฤติการณ์ไม่เกรงกลัว “ผู้บังคับบัญชา” และไม่เกรงใจ “ประชาชนผู้เสียภาษี” .. อีกทั้งยังสะท้อนภาพของ “นักการ เมือง” ที่ยังเป็น “อภิสิทธิ์ชน” เหนือคนทั่วไป .. แล้วก็ยังเป็น “ปัญหาเรื้อรัง” ที่ “กรรมการปฏิรูปตำรวจ” กำลังวางมาตรการห้ามให้ “ตำรวจ” ไปติดตาม “อดีตนักการเมือง-ผู้มีอิทธิพล” เพื่อแก้ปัญหาการเสียกำลังพลโดยไม่จำเป็น ..

ไม่ทันไรก็มีเรื่องในทำนองเดียวกันอีกจนได้ เมื่อใน “โลกออนไลน์” แชร์เอกสารคำสั่ง “งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสุวรรณภูมิ จ. ร้อยเอ็ด”เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ลงวันที่ 18 ก.ค.61 .. ในคำสั่งดังกล่าวแจ้งถึงกำหนดการลงพื้นที่ ใน ต.ทุ่งกุลา และโรงสีไฟฟ้าชีวะมวล อ.สุวรรณภูมิ ของ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในวันเดียวกัน .. เป็นคำสั่งให้จัดกำลัง “ตำรวจ”ไปรักษาความสงบเรียบร้อย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับ “สุเทพ”และคณะ .. มีการระบุคำสั่งชัดเจน ทั้งการจัดรถตำรวจนำขบวน อำนายความสะดวกด้านการจราจร และรักษาความปลอดภัยในบริเวณที่มีการลงพื้นที่ .. จนเกิดคำถามถึงความเหมาะสมขึ้น เป็นกิจของ “ตำรวจในราชการ”ที่สมควรทำ “ในเวลาราชการ” หรือไม่ .. แม้ไม่ได้ไปติดตามอย่างเป็นกิจลักษณะ หรือ “สุเทพ” จะไม่ใช่ “นักโทษหนีคุก”แต่ก็เป็น “นักการเมือง” ที่ชัดเจนว่า เป็นการลงพื้นที่ “หาเสียง” .. จริงอยู่ จ.ร้อยเอ็ด อาจจะเป็น “พื้นที่เสื้อแดง” ที่หากปล่อย “อดีตแกนนำนกหวีด”และคณะไปเดินดุ่มๆ อาจเกิดความวุ่นวาย และไม่ปลอดภัยขึ้น .. แต่ก็ไม่น่าจำเป็นต้องเสียกำลังพลมากกว่า 10 นาย ไปดูแลอำนวยความสะดวก ในกิจที่ “ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนรวม”เช่นนี้ .. หรือหาก “สุเทพ”สำเหนียกตัวเองว่าเป็น “สายล่อฟ้า”จู่ๆไปโผล่กลาง “ดงเสื้อแดง” อาจเป็น “ชนวน”ให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ก็ไม่น่าจะดึงดันไปให้เป็น “ภาระ”แบบนี้เลย.

**ปีนี้งดดราม่า!! ถึงฤดูแต่งตั้ง “บิ๊กตุลาการ”ที่ปีนี้เก้าอี้ว่างถึง 15 ตำแหน่ง หวนใช้ “นิติประเพณี” ยึดหลักอาวุโสเหมือนเดิม คาด “อุบลรัตน์ ลุยวิกกัย” สร้างประวัติศาสตร์ ประธานศาลอุทธรณ์หญิงคนแรก “จินดา ปัณฑะโชติ” ขึ้นประธานแผนกคดีเลือกตั้ง ส่วน “โสฬส สุวรรณเนตร์”คุมคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีคดีดังยาวเป็นหางว่าว
    ชีพ จุลมนต์ และ อุบลรัตน์ ลุยวิกกัย
มาก่อนใครเพื่อน .. ฤดูแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญของ “ฝ่ายตุลาการ”ที่นัดหมายเคาะรอบสุดท้าย ศุกร์ที่ 20 ก.ค.นี้ ที่จะมีการประชุม “บอร์ดศาล” หรือ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม .. โดยปีนี้ ถือว่ามีผู้อายุครบ 65 ปี ถึงคราวต้องลงจากตำแหน่งไปเป็น “ผู้พิพากษาอาวุโส” .. ทำให้มีเก้าอี้ “ผู้บริหารศาลยุติธรรม” ว่างถึง 15 ตำแหน่ง มากกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา .. แล้วก็ต้องจับตาว่าจะมี “ดราม่า”เหมือนเมื่อปีกลายหรือไม่ ด้วยฝ่ายตุลาการมี “นิติประเพณี”ที่ปฏิบัติมายาวนาน .. ยกเว้นเมื่อปีกลายที่ “คนที่มีอาวุโสอันดับ 1” ไม่ได้ขึ้นเป็น “ประมุขศาล” เหมือนที่ผ่านมา .. โดยตำแหน่ง “เบอร์ 1 ตุลาการ” จะยังเป็นของ ชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบัน ที่ยังมีวาระเหลืออีก 1 ปี .. ขณะที่ ตำแหน่งใหญ่ที่สุดที่ว่างปีนี้ คือ “ประธานศาลอุทธรณ์” ที่ ธนฤกษ์ นิติเศรณี เป็นประมุขศาลอุทธรณ์ ต้องลงไปหลังเป็นได้แค่ปีเดียวเท่านั้น .. คาดกันว่าจะเป็นคิวของ อุบลรัตน์ ลุยวิกกัย รองประธานศาลฎีกา คนที่ 1 จะได้ครองเก้าอี้ “ประธานศาลอุทธรณ์”ที่ถือเป็น “เบอร์ 2 ของศาลยุติธรรม” .. หากไม่พลิกโผ ก็จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของศาลยุติธรรมที่ “อุบลรัตน์”จะเป็นประธานศาลอุทธรณ์หญิงคนแรก ..
วัฒนา เมืองสุข และ ทักษิณ ชินวัตร
แล้วยังมีตำแหน่ง “รองประธานศาลฎีกา”ว่างลง 3 ตำแหน่ง ตำแหน่ง “ประธานแผนกคดีในศาลฎีกา”ก็ว่างลงถึง 6 จาก 11 แผนก .. ทำท่าจะเป็นไปตาม “นิติประเพณี” ที่ให้ความสำคัญในเรื่อง “หลักอาวุโส” เป็นสำคัญ หากไม่มี “ตำหนิ” ให้เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยจริงๆ .. ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ ประธานแผนกคดีในศาลฎีกา อย่างน้อย 4 แผนก ที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก และจะมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับ “นักการเมือง - การเลือกตั้ง” .. ไล่ตั้งแต่ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจ ที่คาดว่าน่าจะเป็น อนันต์ วงษ์ประภารัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา .. ประธานแผนก คดีภาษีอากร คาดว่าจะเป็น ประทีป ดุลยพินิจธรรม ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา .. ประธานแผนกคดีเลือกตั้ง คาดว่าจะเป็น จินดา ปัณฑะโชติ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 9 .. และที่สำคัญสุดๆ ในยุคที่ “นักการเมือง - ข้าราชการ” กระทำความผิดกันมโหฬารบานตะไท คือ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ปีนี้จะเป็นคิวของ โสฬส สุวรรณเนตร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาล .. เอาแค่ที่รับฟ้องเป็นคดีอยู่ในชั้นศาลไต่สวนพิจารณา ก็มีทั้ง คดีมากมายของ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็น คดีทีพีไอ คดีหวยบนดิน คดีกล้ายาง คดีเอ็กซิมแบงก์ และคดีแปลงสัญญาสัมปทาน .. ส่วนคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ที่มีจำเลยคนดัง วัฒนา เมืองสุข - อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นัดเริ่มไต่สวนเดือน ก.ย.นี้ เช่นเดียวกับคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินของ “มาดามนก” ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ศรีภรรยาของ อริสมันต์ .. เดือน ก.ย.อีกเช่นกัน ที่จะมีการอ่านคำพิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติของ สุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดคมนาคม .. ขณะที่ศุกร์ 20 ก.ค.นี้ มีนัดเริ่มไต่สวนคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ต.ค.51 .. ที่ ป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์เฉพาะ “บิ๊กเบื๊อก” พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เพียงคนเดียว เป็นงานหลักๆ ที่รอท่า “ท่านโสฬส” อยู่ .. เอาเป็นว่าปีนี้การแต่งตั้ง “บิ๊กศาล” คงไม่มีดราม่าซ้ำรอยปีก่อน แต่ปีหน้าที่เบอร์ 1 - เบอร์ 2 ทั้ง ประธานศาลฎีกา-ประธานศาลอุทธรณ์ จะลงจากตำแหน่งพร้อมกัน คงจะบันเทิงไม่น้อย.

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น