รองโฆษก ทบ. เผย หนึ่งเดียวทหารที่รอดเหตุเครื่องบินตก แม่ฮ่องสอน เสียชีวิตแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่าติดเชื้อในกระแสโลหิต รวมระยะเวลารักษา 13 วัน ทบ. แสดงความเสียใจ พร้อมปูนบำเหน็จ 7 ชั้น เลื่อนยศเป็นพันโท
วันนี้ (18 ก.ค.) พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากเหตุการณ์เครื่องบินของกองทัพบกประสบอุบัติเหตุตกที่ ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ขณะบินลาดตระเวนตรวจพื้นที่ และพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ บริเวณแนวชายแดน เป็นเหตุให้มีกำลังพลเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย นั้น ล่าสุด จ่าสิบเอก ชัชชนันท์ เขื่อนแก้ว ตำแหน่งปกติ ผู้บังคับหมู่ หมู่เครื่องยิงลูกระเบิด กองบังคับการหมวดเครื่องยิงลูกระเบิดที่ 60 กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17 ตำแหน่งในสนาม นายสิบส่งกำลังบำรุง กองร้อยทหารราบที่ 1743 ซึ่งได้รับบาดเจ็บมีแผลไฟไหม้ตามร่างกาย และได้ถูกส่งไปรับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตั้งแต่เกิดเหตุ ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 แพทย์ลงความเห็นว่าติดเชื้อในกระแสโลหิต โดยเมื่อวันที่ 12.00 น. วันนี้ (18 กรกฎาคม 2561) รวมระยะเวลา 13 วัน ทั้งนี้ หน่วยต้นสังกัดได้จัดกองทหารเกียรติยศในพิธีส่งร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ ณ ภูมิลำเนา ที่ จ.พะเยา โดยจะมีพิธีนมัสการพระเจ้าในวันที่ 18-20 กรกฎาคม 2561 และมีกำหนดประกอบพิธีพระราชทานดินฝังศพ ณ คริสตจักรศรีบานเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ในวันที่ 21กรกฎาคม 2561
จ่าสิบเอก ชัชชนันท์ เขื่อนแก้ว เป็นหนึ่งในกำลังพลที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ นับเป็นการสูญเสียบุคลากรของกองทัพบก ที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างสมศักดิ์ศรี กองทัพบกขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และพร้อมให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวอย่างดีที่สุดต่อไป โดยในเบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการและสินไหมประกันชีวิตจากกองทัพบก ประมาณ 1.8 ล้านบาท พร้อมกันนี้ กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และขอรับพระราชทานยศสูงขึ้น เลื่อนยศเป็น “พันโท”