“บิ๊กเจี๊ยบ” แจงเหตุเครื่องบินตก จ.แม่ฮ่องสอน ไม่ได้ตกเพราะสภาพอากาศ คาดเครื่องอาจขัดข้อง สั่งศูนย์การบินทหารบกเร่งหาสาเหตุ อ้างไม่ซื้อเครื่องใหม่เพราะกองทัพไม่ได้รวย
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่ เครื่องบินตรวจการณ์ U-17 ของกองทัพบกประสบอุบัติเหตุตกที่ ต.ห้วยผา อ.เมืองฯ จ.แม่ฮ่องสอน ขณะบินลาดตระเวนตรวจพื้นที่ และการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณแนวชายแดน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีกำลังพลเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย ว่าเป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่เราสูญเสียกำลังพล 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจของหน่วย ตามแผนป้องกันชายแดนของกองทัพภาคที่ 3 ด้วยการใช้เครื่องบินอากาศ บท.17 หรือ U-17 บินลาดตระเวนตามห้วงเวลา คือ 1. ดูแลความมั่นคง หากมีการบุกรุก เขตแดน 2. ภารกิจป้องกันยาเสพติด และ 3. ภารกิจการดูแลป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าสาเหตุเครื่องบินตกว่าไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศ แต่เครื่องอาจขัดข้อง แต่ยังหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งทางศูนย์การบินทหารบกต้องดำเนินการหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ผู้ที่บาดเจ็บคงจะให้ข้อมูลได้ว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น
“เครื่องรุ่นดังกล่าวเราใช้งานมาตั้งปี 2524 มีจำนวน 9 เครื่อง ใช้งานไปด้วยดี และซ่อมไปด้วย และในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ 3 เครื่อง และที่ผ่านมาเราซ่อมปรนนิบัติบำรุงเครื่องตลอด 9 เครื่องก็ไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้น ผมจึงสั่งการให้ศูนย์การบินทหารบก เร่งตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ส่วนการดูแลสิทธิของน้องๆ ที่เสียชีวิตทั้ง 3 ท่าน ผมสั่งให้ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศพิเศษ และสิทธิพิเศษต่างๆ เราต้องดูแลเต็มที่ รวมถึงดูแลครอบครัวน้องๆ ด้วย” ผบ.ทบ.กล่าว และว่าการทำงานของทหารจะมีความเสี่ยงอันตราย ทั้งกรณีหน่วยซีลที่เสียชีวิตในภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า อะคาเดมี และเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ถือเป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องทำ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงแต่ต้องทำด้วยความรอบคอบ
เมื่อถามว่าเครื่องรุ่นดังกล่าวมีความเก่าทำไม่ไม่พิจารณาจัดหาเครื่องใหม่ทำทดแทน พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า กองทัพบกไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย งบประมาณแต่ละปีเราต้องใช้จ่ายตามความจำเป็น