มหาดไทย ทุ่ม 4 ล้าน จ้างที่ปรึกษาประเมิน โครงการการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ “หมู่บ้าน/ชุมชน ละ 2 แสนบาท” ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในพื้นที่ 82,371 หมู่บ้าน/ชุมชน วงเงินกว่า 1.6 หมื่นล้าน กำหนดสเปกทีมประเมินครบ ต้องมีความเชี่ยวชาญในงานวิจัย ประสบการณ์ ไม่ต่ำกว่า 20 ปี
วันนี้ (17 ก.ค.) แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศจัดจ้างที่ปรึกษา 14 คน เพื่อดำเนินการประเมินโครงการการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน (ตำบลละ 2 แสนบาท) โครงการของรัฐบาล โดยได้จัดสรรงบประมาณไว้ 4,000,000 บาท ล่าสุด ได้ประกาศราคากลาง (13 ก.ค.) วงเงิน 3,943,204 บาท โดยแบ่งเป็นงบค่าตอบแทนบุคลากร เพื่อว่าจ้างบุคลากรหลัก 7 คน เป็นที่ปรึกษาการประเมิน วงเงิน 1,328,000 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรสนับสนุน/คน วงเงิน 672,000 บาท โดยว่าจ้างเป็นระยะเวลา 4 เดือน
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ที่ปรึกษาการประเมิน จะต้องเป็นกลุ่มวิชาชีพด้านการวิจัย ทางด้านรัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์/บริหารธุรกิจ หรือสาขาอื่นๆ ประกอบด้วย หัวหน้าโครงการ วุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าระดับปริญญาโท ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ค่าจ้าง 62,000 บาท/4 เดือน นักวิจัย วุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าระดับปริญญาโท ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 11 ปี ค่าจ้าง 45,000 บาท/4 เดือน และผู้ช่วยนักวิจัยหรือเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลภาคสนาม วุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าระดับปริญญาตรี ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ค่าจ้าง 24,000 บาท/4 เดือน นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณสำหรับดำเนินการเพื่อทำการประเมิน จำนวน 1,943,204 บาท
โดยจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ เป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินผล หรือสถาบันการศึกษา หรือสถาบันวิชาการของรัฐ หรือองค์กรที่ปรึกษาของรัฐ หรือสถาบันอื่นที่มีกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรีให้การสนับสนุน ที่มีความชำนาญพิเศษในด้านวิชาการ มีความรอบรู้ เชี่ยวชาญในการติดตามและประเมินผล/การบริหารงานโครงการ/นโยบายสาธารณะ มีประสบการณ์ที่เกี่ยวช้องกับเนื้องานตามขอบเขตงาน ที่กำหนด มีความเป็นธรรมและไม่มีส่วนได้เสียกับการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน
“จดทะเบียนเป็นที่ปรึกษากับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา สำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และไม่ได้ถูกเพิกถอน หรือยกเลิกการขึ้นทะเบียนนั้น โดยหัวหน้าโครงการต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาโท และมีผลงานในด้านที่เกี่ยวข้องกับขอบเขตเนื้องาน ที่กำหนด มีความรู้และประสบการณ์ในต้านการติดตามและประเมินผล/นโยบายสาธารณะ การบริหารงานโครงการ/การเก็บข้อมูล/การวิเคราะห์และวิจัยข้อมูล ไม่ต่ำกว่า 20 ปี และมีบุคลากรที่มีคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เหมาะสมที่เกี่ยวข้องกับ การติดตามและประเมินผล และขอบเขตเนื้องานที่กำหนด หรืออื่นๆ ที่ต้องใช้ความรู้และทักษะในทำนองเดียวกัน ในจำนวนที่เพียงพอ เพื่อการดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและแล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด”
สำหรับ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ตาม “โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” (หมู่บ้าน/ชุมชนละสองแสนบาท) มีระยะเวลาดำเนินการ 120 วัน (เดือนเมษายน-กรกฎาคม 2561) มีเป้าหมาย 82,371 หมู่บ้าน ชุมชน สนับสนุนงบหมู่บ้าน ชุมชนละไม่เกิน 200,000 บาท เป็นเงิน 16,474.20 ล้านบาท
