“ประยุทธ์” นำคณะพบนายกฯ-ฝ่ายค้านศรีลังกา พร้อมร่วมพิธีสักการะพระธาตุเขี้ยวแก้ว ก่อนบินกลับไทยถึงดึกคืนนี้ สั่งกำชับฟื้นฟูถ้ำหลวงให้กลับสภาพเดิมมากที่สุด ย้ำ ดูแลจิตใจเด็ก ไม่ยุ่งกับ 13 คนมาก
วันนี้ (13 ก.ค.) เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะ เดินทางไปยังเทมเปิลทรีส์ เพื่อรับประทานอาหารเช้าร่วมกับ นายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรมแชงกรี-ลา และพบปะผู้นำพรรคฝ่ายค้านของศรีลังกา ในเวลา 10.05 น.ตามเวลาท้องถิ่น
จากนั้น ในเวลา 12.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีและคณะกลุ่มเล็ก ออกเดินทางไปสวนพฤกษศาสตร์เพอราเดนิยา เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา เพื่อเยี่ยมชมและปลูกพันธุ์ไม้ท้องถิ่นของศรีลังกา ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับมะกอกน้ำ หรือสารภีน้ำ ก่อนจะออกเดินทางไปวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เพื่อร่วมพิธีสักการะพระธาตุเขี้ยวแก้วของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อมาในเวลา 15.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีและคณะออกเดินทางจากเมืองแคนดี้ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ บันดารานายาเก กรุงโคลัมโบ โดยเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่ในเวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากกรุงโคลัมโบ กลับประเทศไทย ใช้เวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง 35 นาที โดยนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางถึงประเทศไทย ในเวลา 23.05 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ การเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ถึงการดำเนินการหลังจากช่วยเหลือ 13 ทีมหมูป่า อะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ได้แล้วว่า จากนี้ต้องฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด ในส่วนที่ขุดและเจาะก็ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย เพราะเป็นทางน้ำไหลใต้ภูเขา และหากจะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ต้องพิจารณากันต่อไป ว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวปลอดภัย
“สิ่งสำคัญขณะนี้ คือ การดูแลและเยียวยาด้านจิตใจให้กับเด็ก ขออย่าไปยุ่งกับเด็กและโค้ชทั้ง 13 คนมากนัก และขอให้รักษาความรักความสามัคคี ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ไว้ อย่าให้สูญหายไป เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหวังให้คนไทยรักกันเช่นนี้ และรักษาสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ตลอดจนทุกฝ่ายที่เข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งเกษตรกรด้วย นี่คือ ประเทศไทยของเรา อย่าให้ใครมาแบ่งแยก ส่วนการทำบุญหลังจากนี้ ก็จะให้จังหวัดเชียงรายเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนตัวอยากให้ทุกคนร่วมกันสวดมนต์ เพื่อให้ชีวิตดีขึ้นและมีความปลอดภัย” นายกรัฐมนตรี กล่าว