นายกฯ เผย เหลือฟื้นฟูทางการแพทย์ให้ทีมหมูป่า ก่อนส่งกลับบ้าน ชมการแสดงออกน้ำใจคนไทย สื่อเสนอข่าวดี แต่ให้ระวังความเป็นส่วนตัวเด็ก อย่าไปขยายความ ขออย่าดรามา “อีลอน มัสก์-ผบ.ศอร.” ยันรัฐดูแล “จ่าแซม” เต็มที่ ชี้ เอาเรื่องไปทำหนังต้องขออนุญาต ยันหมูป่าได้ไปพัทยาแน่
วันนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. กล่าวถึงการดำเนินการภายหลังช่วยเหลือทีมหมูป่าอะเคเดมี 13 คน ออกมาจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า เรื่องการช่วยเหลือวันนี้สำเร็จไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ยังเหลือขั้นตอนการฟื้นฟูทางการแพทย์ที่ดูแลให้เด็กๆ ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะส่งกลับไปอยู่ที่บ้านได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราทำตามขั้นตอนทั้งหมด สิ่งสำคัญที่เราได้มา คือ เรื่องการบูรณาการการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการแสดงออกถึงน้ำใจของคนไทยทั้งประเทศทุกภาคส่วน ตนเปิดโทรทัศน์ก็มีข่าวถ้ำหลวงทุกช่องแทบจะทุก 15นาที ต่างคนต่างเสนอข่าวในทางที่ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องระมัดระวัง ซึ่งตนเปิดโทรทัศน์ของต่างประเทศ มีการนำเสนอกรณีเหมืองถล่มที่ประเทศชิลี หลังจากนี้ ออกมาแล้วต้องระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของเด็ก เพราะภูมิต้านทานเด็กน้อย อยากฝากขอร้องสื่อบางครั้งการพูดตอบคำถามของเด็กก็พูดแบบเด็กๆ ของเขา ก็อย่าไปขยายความให้ดูไม่สวยงามไม่งดงาม ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ให้เขาได้เรียนหนังสือดีกว่า ถือว่าเขารอดชีวิตออกมาแล้วก็เป็นชะตาชีวิตของเขา ที่ต้องเป็นคนดีต่อไปในสังคม อย่างคนที่ติดอยู่ในเหมืองชิลีเขาออกมาสัมภาษณ์บอกหลังจากได้รับการช่วยเหลืออกมาแล้ว ชีวิตเปลี่ยนแปลงดูเหมือนดี ทุกคนมาสัมภาษณ์ มาเอาใจใส่สัญญาในเรื่องต่างๆ ถึงเวลาก็หายเงียบ ตนคิดว่าประเทศไทยคงไม่ใช่แบบนั้น เราต้องดูแลคนที่ประสบภัยในสิ่งควรจะดูแลเขา ในส่วนกำลังใจก็ควรให้กับคนที่เข้าไปช่วยเหลือทั้งที่มีส่วนข้างในและข้างนอก
นายกฯ กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสพบกับ อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเอกชนที่อาสามาช่วย โดยเอาเครื่องบินบินมาเอง นำแคปซูลมา ถึงไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้ ก็ไม่เป็นไร เพราะเหตุการณ์ไม่เหมือนที่อื่น เขาก็พร้อมที่จะทิ้งไว้ให้เราไปศึกษาเผื่อจะใช้ประโยชน์ได้ในวันหน้า อาจจะเกิดแนวคิดต่างๆ ที่ดีกว่านี้ เพราะธรรมชาติไม่เหมือนกันหมดทั้งโลก บางอย่างใช้ได้ในที่ที่หนึ่ง แต่ใช้ไม่ได้ในอีกที่ สิ่งที่ได้คือน้ำใจของเขา โดยที่ไม่ต้องไปว่าจ้างเรียกร้อง หรือขอความช่วยเหลือ เขามากันเองหมด และวันนี้เราได้ทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กจากผู้นำหลายประเทศที่ชื่นชมในความสำเร็จของเราในการช่วยชีวิตทั้ง 13 คนออกมาได้โดยปลอดภัย และขอแสดความเสียใจกับ จ.อ.สมาน กุนัน วีรบุรุษของเรา อดีตหน่วยซีลที่เสียชิวิต รัฐบาลจะดูแลให้เต็มที่ ทั้งที่ออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ก็เหลือขั้นตอนที่รัฐบาลจะทำเรื่องเสนอขึ้นไปในเรื่องบำเหน็จตอบแทนความดีความชอบ แต่ในส่วนบริษัทที่เขาทำงานก็ดูแลให้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแถลงของ ผบ.ศอร.กรณีแคปซูลของ อีลอน มัสก์ ใช้ไม่ได้กลายเป็นดรามา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า บางสถานการณ์ อีลอน มัสก์ ก็พูดกับตนแล้ว ให้ตนดูที่สนามบินแล้วว่าอุปกรณ์เป็นแบบนี้ ตนก็ให้คนเข้าไปลองนอนลองลากดู ไปดูในถ้ำว่าใช้ได้มากน้อยเพียงใด ถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ตนก็ขอบคุณที่นำมาช่วย อย่าให้ทุกเรื่องเป็นดรามาไปหมดเลย ตนไม่ได้หมายความว่ามันใช้ไม่ได้ มันก็ต้องทดสอบทดลองก่อน ของเขาได้ใช้ประโยชน์ในหลายสถานการณ์ แต่ในประเทศไทยพื้นที่แคบ บางอย่างจะไม่สามารถทะลุไปได้ แต่ถ้าเป็นทางน้ำโล่งๆ ก็ใช้ได้ ซึ่ง อีลอน มัสก์ บอกว่า จะไปหาวิธีการอื่นอีกที เพราะฉะนั้นอย่าพูดอะไรให้เสียหาย ตนคิดว่าผบ.ศอร.คงไม่ได้มีเจตนาพูดอย่างนั้น ทีมของเขามาด้วยความเต็มใจ เครื่องบินตัวเองบินมาเอง ตนก็รับทราบ ไม่ใช่ว่าไม่รู้เรื่องเลย ตนยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวช่วยตัดสินใจว่าใช้ได้หรือไม่ได้ สิ่งสำคัญคือเทคโนโลยี และความรู้ประสบการณ์คนของเรา ก็มีความพร้อมในระดับหนึ่ง พอแล้ว เรื่องดรามาเลิกได้แล้ว
เมื่อถามว่า ช่วงนี้นายกฯดูเหนื่อยล้า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายงาน ตั้งกี่สัปดาห์มาแล้ว เราทำงานมาโดยตลอด ที่จำได้ตั้งแต่ประชุม ครม.สัญจร เดินทางไปต่างประเทศ กลับมาทำงานต่อเจออีก 2 งาน พรุ่งนี้ต้องไปศรีลังกา และ ภูฏาน เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องเดินทุกอย่าง ไม่ใช่มาจมติดกับปัญหาอย่างเดียว อยู่ที่การบริหาร ไม่ใช่ว่าตนไม่รับผิดชอบอะไรเลย เพราะตนเป็นผบ.ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ถ้าสถานการณ์ไม่ใหญ่โตกินพื้นที่กว้างขวาง ก็ให้กระทรวงมหาดไทยโดยปภ.รับผิดชอบ รัฐบาลก็จะสนับสนุน วันนี้ต่างประเทศก็ชื่นชมยินดี เราอย่าทำให้ทุกอย่างเสียหายเลย ตนก็ทำหนังสือขอบคุณทุกประเทศและประกาศนียบัตรมอบให้ทีมช่วยเหลือทุกคน
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการจัดเลี้ยงต่างๆ จะพิจารณาในเวลาที่เหมาะสม โดยผู้ที่ทำงานทั้งหมดกำลังปรึกษาหารือกันอยู่กับ รมว.มหาดไทย ให้สถานการณ์มันจบจริงๆ ก่อน วันนี้ยังไม่เรียบร้อยๆ เมื่อไหร่เด็กออกจากโรงพยาบาลนั่นคือจบ วันนี้ ศอร.จะย้ายมาอยู่ที่จังหวัด และในพื้นที่จะเป็นส่วนหลังตามเก็บของเช็กบัญชีต่างๆ และสำนักบริหารจัดการน้ำ กรมชลประทานต้องไปปรับพื้นที่ สิ่งสำคัญที่เรากังวล คือ ต้องปรับสภาพพื้นที่คืนสู่สภาพธรรมชาติเดิมให้เร็วที่สุด และได้สั่งให้คิดต่อไปว่าในเมื่อมีน้ำมากจะทำอย่างไรกับน้ำจำนวนนี้ จะทำที่กักเก็บน้ำได้หรือไม่
เมื่อถามว่า นายกฯคิดอย่างไรกับเสียงสะท้อนชื่นชมบทบาท นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผบ.ศอร.ว่า คุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี นายกฯ กล่าวว่า “ท่านก็อยู่ตรงนั้นบทบาทของท่านก็ดี” แต่ในส่วนของตนต้องรู้ทุกเรื่อง เพราะต้องรับผิดชอบ ตนก็โทรศัพท์ดูภาพอยู่ทุกวัน ศูนย์บรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ (พีม็อก) มีเจ้าหน้าที่ติดตามอยู่ ถ้าไม่คับขันตนก็ไม่ลงสั่งการ เพราะให้กรอบการทำงานไปแล้วให้ชัดเจน ขอแค่นี้ให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ใช่ดูแผนที่คนละฉบับ ตนเอาวิชาการทหารแนะนำไปว่าการจัดศูนย์ควรจะเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้สับสนอลหม่าน ขอบคุณที่สื่อส่วนใหญ่เชื่อฟังเข้าใจเหตุและผลว่าทำไมต้องมีการปิดกั้นพื้นที่ต้องมีการควบคุม รู้ว่าทุกคนต้องการได้ข่าวแต่ต้องให้ทุกคนรู้ว่า เป็นเรื่องที่ดีแต่บางทีเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนเกิดขึ้นมา แล้วประเมินสถานการณ์ไว้ก่อน บางทีก็หมดกำลังใจคนดูท้อแท้
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับตนตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ไม่ได้บอกว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เพราะใจคิดว่าจะต้องสำเร็จ เพราะแรงศรัทธาเหมือนกับที่ตนทำงานวันนี้ใช้แรงศรัทธาในการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าไม่มีแรงศรัทธาก็คงยอมแพ้ อยากให้ทุกคนตั้งหมั่นในสิ่งเหล่านี้ เพราะสติปัญญาจะเกิดในการแก้ปัญหา วันนี้สื่ออาจจะต้องลดการเสนอข่าวที่ดราม่าลงไปบ้าง มันเยอะ เดี๋ยวจะวุ่นวายไปทั้งหมด สิ่งดีๆเกิดมาแล้วเดี๋ยวจะเสียไปอีก
เมื่อถามถึง ต่างประเทศจะนำเรื่องราวของการปฏิบัติการที่ถ้ำหลวงไปทำเป็นภาพยนตร์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูก่อน การทำภาพยนตร์ต้องขออนุญาตก่อน ต้องเอาเค้าโครงเรื่องมาให้ดูว่าจะทำอย่างไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม มีคณะกรรมการภาพยนตร์ระดับชาติอยู่ ไม่ใช่ใครนึกจะมาถ่ายตรงไหนก็ถ่ายได้ ต้องผ่านกระทรวงวัฒนธรรม มีคณะกรรมการตรวจสอบ ต้องไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย เมื่อถามว่า นายกฯรับปากจะพาทีมหมูป่าไปเที่ยวพัทยา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็บอกไปแล้วเดี๋ยวกระทรวงมหาดไทยจัดการ”