“ไชยยันต์” ชี้ทำไพรมารีโหวตผิดธรรมชาติ มาจากผู้ร่างฯ ไม่ใช่ความต้องการนักการเมือง-ประชาชน เชื่อปัญหามากเปิดช่องซื้อเสียง เสี่ยงได้เจ้าพ่อ-ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จับตา ขรก.แห่หนุนพรรคพลังประชารัฐ พลังประชาชาติไทยไปใช้สิทธิ หวังได้ดีหลังเป็นรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีส่วนร่วม แนะ “สมเจตน์ คนร่างกฎหมาย-นายกฯ” เปิดหน้า สมัครสมาชิกใช้สิทธิไพรมารีโหวตเป็นตัวอย่าง
วันนี้ (12 ก.ค.) นายไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ไพรมารีโหวต : จุดเปลี่ยนการเมืองไทย?” ตอนหนึ่งว่า ไพรมารีโหวตมาจากเบื้องบน คือ ผู้ร่างรัฐธรรมนูญหลังการทำรัฐประหาร ไม่ใช่ความต้องการของนักการเมืองและประชาชน เป็นเรื่องผิดธรรมชาติ แต่มาจากผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องการพัฒนาประเทศชาติ โดยหวังว่าจะแก้ปัญหาพรรคการเมืองเป็นของใครคนใดคนหนึ่ง ปัญหาคือคนที่มีปัญญาออกกฎหมายเปลี่ยนประเทศขับเคลื่อนไม่ได้เพราะยังมีความไม่พร้อม
การทำไพรมารีโหวต ประชาชนจะมีส่วนร่วมได้ก็ต่อเมื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค แต่ถ้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคจะเสียสิทธิบางอย่าง แสดงให้เห็นว่ากฎหมายที่เขียนเช่นนี้บังคับให้ประชาชนต้องเสียสละเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย และอาจทำให้มีการซื้อเสียงตั้งแต่กระบวนการไพรมารีโหวต อีกทั้งในความเป็นจริงมีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าราชการส่วนใหญ่ไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรค ไม่ใช้สิทธิเรื่องไพรมารีโหวต เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาหากแสดงให้เห็นชัดเจนว่าสนับสนุนพรรคการเมืองใด
คนที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคก็จะเป็นประเภทไม่มีอะไรจะเสีย หรือญาติพี่น้อง ผู้ใกล้ชิดผู้สมัครลงรับเลือกตั้งอาจทำให้ได้เจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น เพราะประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องระบบอุปถัมภ์ ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับกระบวนการทำไพรมารีโหวต
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีพรรคพลังประชารัฐ และพลังประชาชาติไทย อาจทำให้มีข้าราชการไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งอาจมาจากการเกณฑ์ หรือต้องการเปิดหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าสนับสนุน เพราะคิดว่าพรรคเหล่านี้จะได้เป็นรัฐบาล ดังนั้น หากต้องการให้กฎหมายใช้ได้ผล คนที่ร่างกฎหมาย เช่น พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช. ควรประกาศตัวสมัครเป็นสมาชิกและใช้สิทธิไพรมารีโหวต แต่ตนเคยถาม พล.อ.สมเจตน์ ว่าจะไปใช้สิทธิดังกล่าวหรือไม่ก็บอกว่าไม่ไป รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ควรไปใช้สิทธิเรื่องไพรมารีโหวต เปิดหน้าให้ชัดเจนว่าสนับสนุนพรรคการเมืองไหน และให้ความมั่นใจแก่ข้าราชการว่าการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่เป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงาน
