“ประยุทธ์” เผย ครม.เร่งคลอด ก.อุดมศึกษา ควบรวม ก.วิทย์ แจง ครม.สัญจรเชียงรายไม่จงใจโหนกระแสทีมหมูป่าฯ ปลื้มไทยพัฒนายาชีววัตถุรักษามะเร็งเต้านมชิ้นแรกสำเร็จ
วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีการหารือหลายเรื่องตามวาระทั้งรับทราบและพิจารณา และสั่งการ มอบนโยบายการปฏิบัติงานในหลายมิติ ขับเคลื่อนบูรณาการ การดูแลผู้มีรายได้น้อย และวางพื้นฐานในเรื่องการศึกษาต่างๆ ทำควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากจะมีการเห็นชอบจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะไปควบรวมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ด้านการผลิตกำลังคนสร้างความเข้มแข็งเพิ่มขีดความสามารถ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ในส่วนการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.เชียงราย-พะเยา ในปลายเดือน ก.ค.นี้ จะเป็นเรื่องของหลายส่วนงานไม่ใช่เฉพาะกรณีทีมหมูป่าฯ อย่างเดียว แต่เป็นการขับเคลื่อนพัฒนากลุ่มจังหวัด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเชียงราย-พะเยา เพราะเวลา ครม.ไปประชุมจังหวัดไหน อยู่กลุ่มไหน ก็ต้องมาทั้งหมด บางครั้งก็นำ 2 กลุ่มจังหวัดมาหารือด้วยกัน ร่วมทั้งภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมมาเสนอปัญหาข้อขัดข้อง รัฐบาลก็จะจัดโครงการลงไปตามที่ต้องการ และตามความเป็นไปได้ ทั้งนี้รัฐบาลก็ทำมาตลอดเวลา 4 ปี ไม่ใช่มาทำตอนนี้
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่า มีเรื่องที่น่ายินดี โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ตนได้รับเสด็จฯ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในการร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงพระนามและลงนามความร่วมมือการวิจัยและพัฒนายาชีววัตถุ ระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งมีการค้นคว้าวิจัยยาชีววัตถุรักษามะเร็งเต้านมที่ผลิตขั้นต้นในประเทศไทยเป็นตัวแรกในสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยเป็นการคิดผลิตเองโดยคนไทยเพื่อลดค่าใช้จ่ายยารักษาที่มีราคาแพง ประมาณ 1 ล้านบาทต่อคน และเมื่อคิดสารตั้งต้นนี้ออกมาแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จะขยายผลเพื่อผลิตในโรงงานยาที่ทันสมัย ต้องเพิ่มปริมาณจากมิลลิลิตรเป็นลิตร ซึ่งระหว่างนี้ก็ต้องมีการทดสอบทั้งกับสัตว์และคน
นายกฯ กล่าวว่า นี่คืออนาคตของประเทศไทยที่จะลดค่าใช้จ่ายที่มีราคาแพง และดูแลประชาชน โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่มีผลกระทบมาก และเป็นการคิดจากเซลต้นแบบที่มาจากคนไทยและเหมาะสมกับคนเอเชีย ทั้งนี้ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีเป้าหมายพัฒนายาชีววัตถุตัวใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เพียงการรับถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตอย่างเดียว วันนี้ต้องคิดยาของเราเอง นี่เรียกว่าการวิจัยและพัฒนา นำสู่การผลิตตั้งแต่เริ่มต้น กลางทาง และปลายทาง โดยความร่วมมือจากภาคเอกชน