รองนายกฯ ชู 3 นโยบายรู้เท่าทันสื่อยุคดิจิทัล ล้อมคอก “ข่าวบิดเบือน-สร้างข่าวเท็จ” จากเหตุการณ์ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
วันนี้ (2 ก.ค.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส.ครั้งที่ 6 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาระบบสื่อสุขภาวะ 3 เรื่องสำคัญเพื่อให้คนไทยฉลาดใช้สื่อเป็นเครื่องมือนำไปสู่วิถีชีวิตสุขภาวะ 1. ส่งเสริมทักษะเท่าทันสื่อ 4.0 พัฒนาพลเมืองดิจิทัล อาทิ ร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันให้เกิดองค์กรภาครัฐที่ทำหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาทักษะเท่าทันสื่อสารสนเทศและดิจิตอล พัฒนาหลักสูตรเท่าทันสื่อในสถานศึกษา 2. มาตรการพัฒนาความฉลาดรู้ทางสุขภาวะและคุ้มครองผู้บริโภคสื่อ ในรูปแบบคณะกรรมการกำกับดูแลสื่อและส่งเสริมการเท่าทันสื่อตามแผนปฏิรูปประเทศ อาทิ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบข้อมูลทางสื่อออนไลน์ เพื่อเป็นกลไกเฝ้าระวังโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม 3. นโยบายส่งเสริมและปกป้องเด็กจากสื่อออนไลน์ อาทิ ปรับปรุงมาตรการ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อคุ้มครองเด็กจากสื่อไม่เหมาะสม
“ตัวอย่างที่ชัดที่สุดในสังคมขณะนี้ คือ กรณีนักฟุตบอลเยาวชน และผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมี แม่สาย 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน มีทั้งการส่งข้อมูลที่บิดเบือน สร้างความสับสน และการรายงานข่าวร่างทรงต่างๆ ผ่านสื่อ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ หาก สสส.ต่อยอดนโยบายทั้ง 3 ด้านนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างมาก”
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวนโยบาย และจุดเน้นการจัดทำแผนดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562 เชื่อมโยงแผนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน โดยเฉพาะด้านสังคม และสาธารณะสุขบนหลักการสร้างนำซ่อม แผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) การพัฒนาเศรษฐกิจในยุค 4.0 และการพัฒนานวัตกรรมและใช้เทคโนโลยียุคดิจิตอลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งอนาคตเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ดังนั้น ต้องเตรียมคนให้พร้อมกับการเข้าสู่ยุคที่มีการใช้หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์คิดและทำแทนกำลังคน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำได้ จึงอยากให้ สสส.จัดตั้งทีมงานที่จะวางแนวทางเรื่องนี้อย่างจริงจังและนำเสนอต่อที่ประชุมพิจารณาต่อไป