“กอบศักดิ์” เร่งปฏิรูปเรื่องเร่งด่วน 6 ด้าน แก้จน แก้โกง แก้ความเหลื่อมล้ำ และปฏิรูปราชการ เป็นต้น จ่อตั้ง 5 อนุกรรมการขับเคลื่อน มั่นใจเวลาที่เหลือ 6-8 เดือนต้องเห็นหน้าเห็นหลัง พร้อมชวนติดแฮชแท็ก “#reform together# สร้างไทยไปด้วยกัน” ทำเหนียมถูกถามนั่งเป็น รมต.อีกรอบหาก “บิ๊กตู่” อยู่ต่อ บอกแล้วแต่นายกฯ
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวในงาน “MEET the PRESS” หัวข้อ “ปฏิรูปแนวใหม่ ร่วมคิดร่วมใจ สร้างไทยไปด้วยกัน” ว่าการปฏิรูปที่สำคัญ คือ ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนสร้างไทยไปด้วยกัน เราอยากให้ 8 เดือนที่เหลือของรัฐบาล เป็นการจุดไฟสร้างประเทศไทยก่อนจะมีการเลือกตั้ง ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย เรื่องของการเลือกตั้ง การเมือง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด ขณะนี้คนยังไม่ทันเฉลียวใจว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่ กระบวนการจะแตกต่างจากเดิม เช่น การเลือกแบบ 1 คน 1 โหวต เป็นหลักการปฏิรูปการเมืองไทยที่ไม่เคยทำมาก่อน ส่วนที่บอกว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งแค่เป็นการปั่นกระแสการเมืองมากกว่า แต่ความจริงแล้วการปฏิรูปต้องทำต่อเนื่องและต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่อย่างนั้นเสียดายมาก ปัญหาอดีตอาจกลับมาก็ได้
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า สำหรับการเดินหน้าปฏิรูปในช่วง 8 เดือนสุดท้ายของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกำชับอยากให้ปฏิรูปที่ประชาชนอยากได้ มี 6 ด้าน คือ 1. แก้จน 2. ความเหลื่อมล้ำ 3. แก้โกง 4. การมีส่วนร่วมในประชาธิปไตย 5. การปฏิรูปราชการ 6. การสร้างอนาคตเปลี่ยน แปลงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประชาชน ขณะที่การสร้างความเข้มแข็งจากฐานรากมี 15 โครงการที่ทำทันในรัฐบาลนี้ ได้แก่ กองทุนพัฒนาผู้นำชุมชน สภาประชารัฐ พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจชุมชน พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน พ.ร.บ.วิสาหกิจเพื่อสังคม ธนาคารต้นไม้ ธนาคารปูม้า พ.ร.บ.ป่าชุมชน ไม้มีค่าตัดได้ โครงการ 1 ไร่ 1 แสน กองทุนยุติธรรม ธนาคารที่ดิน พ.ร.บ.ขายฝาก โครงการผู้ป่วยติดเตียง โครงการยาเพื่อประชาชน ทั้งหมดถือว่าสำเร็จแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ และภายใน 4 เดือนข้างหน้าเป็นของขวัญประชาชน
นอกจากนี้จะมีโครงการการปฏิรูปกฎหมาย หรือกิโยตินกฎหมาย เพื่อสะสางกฎหมายให้ทันต่อโลกโดยจะเริ่มคิกออฟเดือนหน้า และจัดตั้งสำนักงานขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้ โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ดำเนินการ และด้วยเวลาที่เหลือ 8 เดือนมันสั้นกฎหมายเข้าไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องมีกระบวยการดูแแลไม่ให้กฎหมายถูกทิ้งขว้าง โดยจะมีระบบฟาสต์แทร็ก นอกจากนี้การขับเคลื่อนเรื่องของการปฏิรูปจะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 5 คณะเพื่อขับเคลื่อนการทำงาน ประกอบด้วย 1. อนุกรรมการประสานงาน 2. อนุกรรมการปฏิรูปกระทรวง ที่เร่งดำเนินการปฏิรูปขณะนี้ อาทิ กระทรวงอุดมศีกษาวิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปรับให้เดินดีขึ้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) 3. อนุกรรมการด้านกฎหมาย 4. อนุกรรมการพีอาร์ สร้างการรับรู้ มีส่วนร่วมลงสู่ประชาชน และ 5. อนุกรรมการสื่อมวลชน เพื่อร่าง พ.ร.บ.จริยธรรมและมาตรฐานสื่อมวลชนและกลางเดือน มิ.ย.ทั้ง 20 กระทรวงต้องส่งแผนฏิรูปกระทรวง
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้กระทรวงยังได้มีการตกลงกันในเบื้องต้นในการทำโครงการสำคัญๆ จะเปิดให้ประชาชนสวนร่วม เช่น ป่าชุมชน ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเพื่อเขียนกฎเกณฑ์ในการใช้ป่าประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร และเดือน ก.ค.จะเชิญผู้นำชุมชนถามความคิดเห็นใน 15 โครงการ และมีช่องทางสื่อสารประชาชน โดยรายการเดินหน้าประเทศไทยจากนี้ทุกวันเสาร์ตั้งแต่เดือน ก.ค.จะเป็นรายการพิเศษในหัวข้อ “ร่วมคิดร่วมใจสร้างไทยไปด้วยกัน” ว่าด้วยเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ
ส่วนเรื่องของการปฏิรูปตำรวจนั้น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตินั้น นายมีชัยจะดูเรื่องของโครงสร้างที่จะเขียนเป็นกฎหมาย ขณะที่การปฏิรูปจะมีเรื่องของการร่วมศูนย์ที่เกี่ยวกับการร้องเรียนทั้งหมด รวมกันจัดทำเป็นศูนย์ 191 และจะมีทนายความทุกสถานีตำรวจ ส่วนเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ ในวันที่ 15 มิ.ย. สนช.จะพิจารณาร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เมื่อเรียบร้อยแล้วจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป และคาดว่าประกาศใช้ได้ในต้นเดือน ต.ค.เพื่อให้การจัดทำงบประมาณจากนี้ต่อไปเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ต่อไปการปฏิรูปจะเปิดกว้างมากขึ้นให้ประชาชน เยาวชนเสนอแนวคิดการปฏิรูป โดยกำหนดเป็นปฏิทินจัดกิจกรรมในเวทีต่างๆ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือน ก.ย. โดยเป็นการเสนอความคิดเห็นที่ให้มีการติดแฮชแท็ก “#reform together# สร้างไทยไปด้วยกัน” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกอบศักดิ์ได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์ติดแฮชแท็ก
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีใครมาจีบเป็นรัฐมนตรีสมัยหน้าหรือยัง และหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกฯต่อสนใจำร่วมงานต่อด้วยหรือไม่ นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ต้องถามนายกฯ สนใจให้ตนไปทำงานร่วมด้วยหรือไม่ แต่ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะพูด หัวใจสำคัญวันนี้คือเรามีเวลาเหลือแค่ 6-8 เดือน เป็นหน้าต่างสุดท้าย ที่ตนมีความหวังมาก หลายคนถามว่าตนกดดันไหมที่ต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จ ตนไม่กดดัน ทำงานอย่างมีความสุข