รมต.สำนักนายกฯ แจงคดีเงินทอนวัดไม่มีอคติ ไร้วาระซ่อนเร้น วอนอย่าเชื่อข่าวลวงเรื่องพระ เผยมีคนไม่หวังดีบิดเบือน ยันฝ่ายความมั่นคงเอาอยู่ รู้ว่าใครเป็นใคร เชื่อทำอะไรเป็นประโยชน์ไม่มีม็อบพระวุ่นวาย ไม่ทราบความคืบหน้า “พรหมเมธี”
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์การดำเนินการคดีเงินทอนวัด มีประเด็นทางการเมืองเกี่ยวข้องว่า ยืนยันว่าการสอบสวนและการดำเนินการไม่มีอคติ หรือวาระซ่อนเร้น การดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ทำตามหน้าที่ ตามข้อเท็จจริงที่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่ว่าทางฝ่ายผู้เสียประโยชน์จะเคลื่อนไหวต่อกรณีนี้ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า หลายคนได้รับข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการส่งข้อมูลกันมาซึ่งเป็นความเท็จเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการระบุว่ามีวาระซ่อนเร้น หรือต้องการทำลายศาสนา โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องการ คือ ทำทุกอย่างให้เข้าระบบ หรืออย่างกรณีที่ผู้อำนวยการ พศ.มีหนังสือขอบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด มีการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจะไปยึดเงินซึ่งไม่เป็นความจริง แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องการ คือ ทำให้บัญชีของวัด และบัญชีของพระสงฆ์เป็นไปด้วยความชอบธรรม บางวัดที่ทำเป็นตัวอย่างที่ดี อยากให้มาเป็นบทเรียน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้ดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวต่อกรณีนี้อยู่แล้ว ตนเข้าใจว่าเขามีข้อมูลว่าใครเป็นใคร หรือทำอะไรอยู่
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่าจะมีการขยายผลไปยังวัดดังอื่นๆ อีกนั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ทางตำรวจได้ชี้แจงแล้วว่าไม่เป็นข้อเท็จจริง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องที่เป็นกระแสข่าว อยากให้ทุกคนสบายใจกัน ช่วยดูข้อมูลด้วยเหตุและผล ดูความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ถ้าไปเชื่อทุกอย่างสังคมจะชุลมุนวุ่นวาย
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 4 นั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ตนไม่อยากให้เรียกเป็นล็อต เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทำไปตามข้อมูลพยานหลักฐาน ขณะนี้ทำได้แค่นี้ มีการดำเนินการไปตามนี้ ตนเข้าใจว่ากำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ตนได้เห็นข่าวแล้วว่ามีบางวัดในบางพื้นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินตามกฎหมาย ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน
เมื่อถามถึงกรณีมีข้อกังวลว่าจะมีม็อบพระ หรือกำแพงมนุษย์มาปกป้อง นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าเราหวังดีต่อประเทศชาติ ถ้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์จะไม่เกิดความวุ่นวาย มั่นใจเช่นนั้น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการในติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี จากประเทศเยอรมนีมาดำเนินคดี นายสุวพันธุ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่ทราบ”