แม่ทัพภาค 4 มั่นใจสถานการณ์ชายแดนใต้ดีขึ้น ประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว มีการใช้ชีวิตเป็นปกติสุขมากขึ้น ขณะเดียวกันเตรียมใช้กองกำลังประจำถิ่นทดแทนทหารประจำการแล้วร้อยละ 70
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยถึงการลงพื้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า ทาง ผบ.ทบ.ได้ลงมาเพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่โดยพักค้างในพื้นที่อยู่ 2 คืน นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกองกำลังประจำถิ่น ทาง ผบ.ทบ.เห็นแล้วว่าชุดคุ้มครองประจำตำบล (คปต.) และชุดอาสาสมัคร (อส.) มีขีดความสามารถมาก พร้อมที่จะทดแทนกำลังทหารได้แล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะดูจากการสวนสนามที่มีความเข้มแข็งเหมือนทหารหลัก การพบปะพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทาง ผบ.ทบ.มั่นใจในระดับหนึ่งว่ากองกำลังประจำถิ่นพร้อมที่จะดูแลแทนทหารหลักได้แล้ว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้น 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีสถิติหรือไม่ว่ามีแนวโน้มที่ลดลง พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า สำหรับการทำงานของทางเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการทำงานตามปกติ แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือผู้นำศาสนา และประชาชนให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้นำศาสนาทุกพื้นที่ปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ จะเห็นได้ว่าทางเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการตามโครงการพาคนกลับบ้าน สามารถพาผู้ที่กลับใจกลับมาได้แล้ว 300-400 คน เพราะทางผู้เห็นต่างเขาเห็นเป็นรูปธรรมแล้วว่าทางเจ้าหน้าที่รัฐทำไปภายใต้กฎหมายทั้งหมด นอกจากนั้น เรายังได้รับความร่วมมือจากประชาชนเพิ่มมากขึ้นจำนวนมาก อาวุธสงคราม กระสุนปืน ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมหรือรู้ที่หลบซ่อนได้ก็เพราะเรามีเครือข่ายจากพี่น้องประชาชนที่เป็นหูเป็นตาให้เราในพื้นที่
“สถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ ให้ดูจากที่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อยู่อย่างมีความสุข ออกมาจับจ่ายซื้อของเป็นปกติสุข ทุกคนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ดูได้จากร้านค้า ร้านอาหาร หรือโชว์รูมต่างๆ เปิดขึ้นมามาก มีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากขึ้นจากปีที่แล้ว 1 เท่าตัว ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐมีเครื่องมีพิเศษจำนวนมาก มีกองกำลังประจำถิ่นเยอะ มีแหล่งข่าวในพื้นที่เยอะ เพราะฉะนั้นใครจะทำผิดกฎหมาย ท่านหนีไม่พ้นการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นนอน” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
เมื่อถามว่าปัจจุบันนี้มีปัจจัยอะไรหรือไม่ที่จะทำให้ผู้ก่อเหตุได้นำมาเป็นข้ออ้างเพื่อก่อเหตุรนแรงอีก พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า มันไม่มีปัจจัยอะไรเลยในตอนนี้ บางคนที่ก่อเหตุรนแรงและทางที่เจ้าหน้าที่จับกุมมา 7 คน 1 ใน 7 คนเราสามารถจับกุมได้ขณะติดยาเสพติด บางคนบอกว่าไม่รู้ไปรับเงินมาเพื่อให้มาวาง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ น้องๆ ที่ก่อเหตุถูกหลอกจากขบวนการอุบาทว์ หลอกให้เข้ามาในวงจร เมื่อมาทำแล้ว ก็หนีไม่พ้นต้องหลบหนีและก็ถูกออกหมายจับ หากหลงผิดไปแล้วก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ทุกคนจะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ ตนเคยพูดไปแล้วว่า การทำงานเราต้อง “กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย” เราใช้ความยุติธรรมมาโดยตลอด ตนไม่เคยพูดว่ากลุ่มไหนเป็นคนก่อเหตุ กลุ่มไหนเป็นคนทำ แต่ตนจะบอกว่าเมื่อมีพยานหลักฐาน พยานบุคคล ชี้ชัดว่าใครเป็นคนทำ เราจะจับทันทีทุกคนที่ทำผิดกฎหมาย
