xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายรัฐปั้น“ม็อบอยากเลือกตั้ง”คล้ายจะเกิด “สงครามกลางเมือง” เข้าทาง “พวกกลัวตกขบวน”ได้ทีออกโรง **ของขวัญคืนความสุข!! ฉลองครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร เดือนเดียวน้ำมันขึ้น 4 หน **กัปตันเจ้าจำปีคนใหม่!! “หลานอากู๋ แกรมมี่” เข้าวิน “ดีดีการบินไทย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



    **ปั่นกระแสกันใหญ่!! ฝ่ายรัฐปั้น“ม็อบอยากเลือกตั้ง”คล้ายจะเกิด “สงครามกลางเมือง” เข้าทาง “พวกกลัวตกขบวน” ได้ทีออกโรง ทั้ง “ศรีวราห์” ที่ “โอเวอร์แอคติ้ง” เตรียมการรับมือผู้ชุมนุมใหญ่โต ส่วน “เทพเทือก”ก็ไม่พลาด โชว์พาวเวอร์เบรก “ม็อบชนม็อบ” ทั้งที่ตัวเองไร้ราคานานแล้ว

4 ปีแป๊บเดียวเอง .. คำปรารภของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหาร ในโอกาสครบรอบ 4 ปีเต็มการยึดอำนาจ คสช. .. แต่ใจความสำคัญจริงๆ อยู่ที่ “ท่อนสร้อย”ที่บอกว่า “ยังมีอะไรที่ต้องแก้ไขและทำอีกเยอะ” แบะท่า “ไปต่อ” แบบไม่ไถ่ถามสุขภาพคนไทยบ้าง .. แล้วก็ตามคิววาระครบรอบปีเวียนมาบรรจบ “ฝ่ายแค้น” ก็ออกโรงกันเป็นธรรมดา งวดนี้ขยับกันแรงนิด ด้วยต้องการทวงถาม “สนามเลือกตั้ง” ที่โหยหามานาน .. เบิกฤกษ์ด้วยการแถลงข่าว “พรรคเพื่อไทย”ที่สับแหลก 4 ปีภายใต้การปกครองของ “รัฐบาลทหาร” .. ปกติแถลงแล้วก็แล้วกัน แต่นี่ “ทีมกฎหมาย คสช.” กลับ “งับเหยื่อ” ไปแจ้งความเอาผิด ฐานยุยงปลุกปั่น เปิดพื้นที่ให้เล่นข่าวได้ยาวๆ .. แถมคาบเกี่ยวประเด็น “สิทธิเสรีภาพ” ที่ฝ่ายนี้อยากจะแหกกระเฌอฟ้องโลกอยู่แล้ว .. สลับฉากด้วย “ม็อบอยากเลือกตั้ง” ที่ขยับมาเป็นระยะๆ โดนเสิร์ฟคดีกันไปถ้วนหน้า ที่ผ่านมาก็รวมตัวกันเป็นสีสัน ประเดี๋ยวประด๋าว ก็แยกย้าย .. จนน่าแปลกใจว่า “ฝ่ายความมั่นคง” ที่เคยเย้ยหยันว่าเป็น “ม็อบหลักสิบ” มาวันนี้ให้ราคาค่างวดราวกับจะมี “สงครามกลางเมือง” อย่างไรอย่างนั้น .. เดาไม่ยาก ก็แค่ต้องการ “ปั่นกระแส” ให้ดูป่วนๆ เข้าไว้ เพื่อเป็น “ข้ออ้าง”ในการไม่ปลดล็อก ตามไทม์ไลน์ที่เคยประกาศไว้เท่านั้น .. แต่ที่ “โอเวอร์แอคติ้ง” ออกนอกหน้า ก็ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณุล รอง ผบ.ตร.ดูแลความมั่นคง สั่งจัดเตรียมกำลัง 20 กองร้อย คุมสถานการณ์รอบทำเนียบรัฐบาล พร้อมปลุกผี “กลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ติดอาวุธ” กลับมาหลอนสังคมไทยอีกคำรบ .. แล้วก็ยังออก “กฎเหล็กคุมสื่อ” เวลาทำข่าวม็อบ ทั้งที่สมัยม็อบยิงกันโครมคราม ก็ไม่เคยมีกฎเกณฑ์พรรค์นี้มาก่อน .. นัยว่ารับลูกจาก “เสี่ยป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ความมั่นคง ที่อ้าง “การข่าว” ว่าจะมีการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มติดอาวุธ .. งานนี้ “บิ๊กปู” ก็เลยได้ที เอาใจพะเน้าพะนอ “เสี่ยป้อม” หวังให้เข้าตา เผื่อมี “โอกาส” ไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งที่ตัวเองใฝ่ฝันในขวบปีสุดท้ายก่อนเกษียณ หลังเพิ่งร่วมวง “ประชุมลับ” ที่โรงแรมดังย่านรัชดาด้วยดันเมื่อไม่กี่วันก่อน ..
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล และ สุเทพ เทือกสุบรรณ
ม็อบคนอยากเลือกตั้ง
คงกลัวจะน้อยหน้า “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ก็เอากับเขาบ้าง .. จู่ๆ ก็ออกมาแถลงหย่าศึก “ม็อบชนม็อบ”ทั้งที่ยังไม่เกิด .. แค่มีกระแสข่าวว่า“กปปส.” นัดรวมตัวกันเพื่อแสดงออกว่า ไม่อยากเลือกตั้งในวันที่ 27 พ.ค.นี้ ในฐานะ “อดีตบอส กปปส.” ก็เลยต้องออกมาแถลงข่าวปฏิเสธ .. เข้าทำนอง “ชงเอง ตบเอง” หรือเปล่าไม่รู้ ก็ขนาดทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่เห็นเอ่ยถึงการเคลื่อนไหวของ กปปส. ที่ไหน .. ซ้ำร้ายดูเหมือน “เทพเทือก” จะไม่สำเหนียกตัวเองว่า 4 ปีที่ผ่านมา กลืนน้ำลายเรื่องปฏิรูป จนนำตัวเองไปสู่ “ความเสื่อม”แค่ไหน .. อะไรๆ ที่เป็นอดีตก็ควรปล่อยวางบ้าง เพราะเอากันจริงๆ วันนี้ “สุเทพ”จะมีปัญญาไประดมคนที่ไหนมาได้แบบ 4 ปีก่อน .. ขนาด “พรรค กปปส.” ที่เคยประกาศจะตั้ง ยังขุนไม่ขึ้น จนต้องมากลับคำอีกครั้งว่า ไม่ตั้งพรรคแล้วประไรล่ะ .. ว่ากันตามเนื้อผ้า ถึงนาทียังไม่เห็นแนวโน้มสถานการณ์รุนแรงอะไรอย่างที่ว่าเลย มีแต่ “พวกกลัวตกขบวน”ได้ทีออกมา “เล่นใหญ่” ให้เข้าตา “บิ๊ก คสช.”ก็เท่านั้น.

**ของขวัญคืนความสุข!! ฉลองครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร เดือนเดียวน้ำมันขึ้น 4 หน ส่งราคา “ดีเซล”ทะลุ 30 บาท “บิ๊กป๊อก” ไม่แคร์บอก 40 กว่าบาท ก็มีมาแล้ว ส่วน “แอลพีจี” ไม่น้อยหน้า ขึ้นไป 3 หน ซ้ำเติมภาระประชาชน จนน่าสงสัย “กองทุนน้ำมันฯ” ที่ว่าไว้รักษาเสถียรภาพราคาพลังงานหายไปไหน

เผลอแพร่บเดียว .. ราคา “น้ำมันดีเซล”จ่อทะลุ 30 บาทต่อลิตรแล้ว พูดให้ถูกตอนนี้ในต่างจังหวัดทะลุไปแล้ว ส่วน "กทม." ปริ่มๆ อยู่ที่ลิตรละ 29.84 บาท คงตามไปไม่ช้า .. กลายเป็น “ของขวัญคืนความสุข” ฉลองโอกาสครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร คสช. อย่างสวยสดงดงาม .. จะไม่ให้ทะลุได้ไง ก็แค่เดือนเดียว พวกเล่นขึ้นราคาน้ำมันไป 4 รอบ แทรกด้วยการลดราคาลงเบาๆ แค่ครั้งเดียว .. ประหนึ่งเดินหน้า 4 ก้าว ถอยหลังก้าวเดียว จนราคาพุ่งสูงที่สุดในรอบ 3 ปีกว่า ส่วนต่างเพิ่มมาเนื้อๆ ไม่ต่ำกว่า 2 บาทในแต่ละชนิดน้ำมัน .. บังเอิญอย่างร้ายกาจที่การปรับขึ้นราคาน้ำมันแบบถี่ยิบ ซึ่งแน่นอนต้องอ้างอิง “ราคาตลาดโลก” นั้น ก็มาสอดรับกับที่ “กระทรวงพลังงาน” ประกาศไม่ให้แจ้งการปรับลดราคาน้ำมันล่วงหน้าพอดิบพอดี .. ทั้งที่เมื่อเดือนที่แล้ว ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เพิ่งประกาศ “ข่าวดี”ว่า มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี “นายกฯ” เป็นประธาน .. ได้อนุมัติให้ “ปรับลด” เงินส่งเข้า “กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” ลง 15 สตางค์ ต่อลิตร เป็นระยะเวลา 2 ปี .. วันนั้น “รมต.ศิริ” บอกด้วยว่า จะทำให้น้ำมันแต่ละชนิดลดลง 60 - 80 สตางค์ต่อลิตร ถัดมาเดือนเดียว ทะลึ่งพรวดขึ้นไป 2 บาทหน้าตาเฉย .. ไม่เท่านั้นยัง “ซ่อนเงื่อน” เรื่องราคาน้ำมันไปอีก จากมติ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อเดือนก่อน ที่ สั่งให้ทำโครงสร้างราคาน้ำมัน เฉพาะ “ราคาขายส่งรวม VAT” เท่านั้น ไม่ให้แจ้ง “ราคาขายปลีก” ที่ต้องบวก “ค่าการตลาด”ไปด้วย .. มาทรงนี้ รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. ก็ฟันเปรี้ยงว่า เป็นเจตนา “ปิดบัง” ทั้งการปรับลดราคา และการบวกกำไรของ “กลุ่มทุนน้ำมัน” ..
รสนา โตสิตระกูล, ศิริ จิระพงษ์พันธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
หนักไปกว่านั้น “รสนา” บอกว่า นอกจากราคาน้ำมันแล้ว “ก๊าซหุงต้ม” (แอลพีจี) ก็ปรับขึ้นแบบ “มหาโหด” ถึง 3 ครั้ง ในรอบเดือนเดียวกัน เบ็ดเสร็จขึ้นราคาไป 1.77 บาท/กิโลกรัม หรือ ถังละ 26.55 บาท .. ต้องไม่ลืมว่า “ดีเซล - แอลพีจี” ถือเป็นดัชนีชี้วัด “ค่าครองชีพ” ของประชาชนได้เป็นอย่างดี .. การปล่อยพลังงาน 2 ตัวนี้ขึ้นราคาแบบ “ลอยตัว”ก็ไม่ต่างกับซ้ำเติมภาระให้กับประชาชน .. ที่น่าสยดสยองกว่านั้น ก็ไม่กี่วันก่อน “ซีอีโอโททาล” ยักษ์ใหญ่น้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส เพิ่งคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกที่วันนี้อยู่ราว $70 ต่อบาร์เรล จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและแตะระดับ $100 ในอีกไม่กี่เดือน .. แล้วราคาน้ำมันบ้านเราที่อิงราคาตลาดโลก จะพุ่งกระฉูดไปขนาดไหน แล้วก็ยังมีเสียงออกมาจาก “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำมันแท้ๆ พูดแบบไม่ยี่หระแล้วว่า ราคาน้ำมันแค่ลิตรละ 30 บาทกว่า ในอดีตก็เคยมีราคาสูงถึง 40 บาท ประมาณว่า แพงแค่ไหน คนไทยก็ต้องทน .. จริงๆ ก็ไม่ได้สนับสนุนว่า รัฐต้องเข้าไปอุดหนุน หรือบิดเบือนกลไกราคาเท่าไร แต่ “รสนา”ก็ร้องทักว่า เรายังมี “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ที่ฝ่ายรัฐอ้างว่า มีไว้เพื่อเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาพลังงาน .. แต่พอราคาขึ้นเอาๆ ทำให้ “คนไทย” ไร้เสถียรภาพ ก็ไม่เห็นกองทุนฯ ออกมาทำหน้าที่ฝ่ายที่โม้ไว้เลย .. หรือว่ากองทุนฯ นี้เอาไว้ “อำพราง”กำไรของ “กลุ่มทุนพลังงาน” ที่ตั้งราคาขายพลังงาน “สูงเกินจริง”อย่างที่ “รสนา” ตั้งข้อสังเกตไว้หนอ ??

**กัปตันเจ้าจำปีคนใหม่!! “หลานอากู๋ แกรมมี่” เข้าวิน “ดีดีการบินไทย” ที่เก้าอี้ร้างมาร่วม 15 เดือน งานหินกู้วิกฤติขาดทุนต่อเนื่อง วัดลูกอึดชน “วัฒนธรรมองค์กร” เปิดแบ็กกราวน์ ซี้ปึ้ก “ระบอบแม้ว” จับตาชี้เป็นชี้ตาย คดี “สินบนข้ามชาติโรลส์รอยซ์ ” ในชั้น ป.ป.ช.

15 เดือนไม่ขาดไม่เกิน .. ที่สุด “การบินไทย” ที่สภาพเหมือน “ผีหัวขาด” มานาน ก็ได้ “บิ๊กบอสคนใหม่” จนได้ ตามมติ “บอร์ดการบินไทย”นัดพิเศษ ที่นัดประชุมกันเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา .. หวยไปออกที่ สุเมธ ดำรงชัยธรรม กับเก้าอี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ “ดีดี” ที่ร้างเจ้าของมาตั้งแต่เดือน ก.พ.60 ที่ จรัมพร โชติกเสถียร ครบวาระนู้น .. พลันที่ชื่อออกมาก็แน่นอนว่าต้องสะดุดกันที่ “นามสกุล” ด้วย “สุเมธ” ที่มีชื่อเล่นว่า “ถั่ว” มีศักดิ์เป็นหลานชาย “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม บิ๊กบอส จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ .. “เดอะถั่ว”เคยเป็นผู้บริหารแกรมมี่พักใหญ่ แต่ดูเหมือน “ไม่ค่อยเวิร์ก” ก็เลยลาออกมาเดินตามสายที่ถนัด .. วันดีคืนดีโผล่ไปสมัครเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ผู้บริหารศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แล้วเผอิญได้รับเลือก .. แม้จะมีข่าวว่า “ล็อกสเปก” แต่หลังรับงาน กินเงินเดือน 4.5 แสนบาท ก็โชว์ผลงานพลิกสถานะ ธพส. จาก“ขาดทุน” ต่อเนื่อง ขึ้นมามี “กำไร”ปีละหลายร้อยล้าน .. จาก ธพส. บริหารศูนย์ราชการฯ ที่ใครก็ว่างานหมูๆ เหมือน “เสือนอนกิน” กระโจนมาตะลุยดินแดน “เสือสิงห์กระทิงแรด” อย่าง “เจ้าจำปี” ที่ใครๆ ก็ว่าไม่หมู .. ขนาด “จรัมพร” ที่ว่าแน่ๆ ก็ยังแทบเอาตัวไม่รอด เจอ “คลื่นใต้น้ำ” กระทุ้งเกือบตกเก้าอี้หลายรอบ กัดฟันสู้จนเป็น “ดีดีสรรหา” คนแรกที่อยู่ครบวาระ .. ทิ้งผลงานปีสุดท้าย ด้วยกลยุทธ์ “เฉือนเนื้อ - รีดไขมัน” มีกำไรสุทธิ 4 พันกว่าล้านบาท จากที่ก่อนรับตำแหน่งขาดทุนสะสมราว 2 หมื่นล้านบาท ..
สุเมธ ดำรงชัยธรรม  และ  กิตติรัตน์ ณ ระนอง
น่าสนใจก็คือ กระบวนการสรรหา “ดีดีการบินไทย” ล้มลุกคลุกคลานมาร่วม 2 ปี คว่ำกระดานมาหลายหน .. ต้องใช้สแตนด์อิน อย่าง อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รอง ดีดีรักษาการกัปตันใหญ่มาพลาง จนใกล้เกษียณไม่กี่เดือนข้างหน้า .. ท่ามกลางกระแสข่าว “ดินแดนเจ้าจำปี” กลายเป็น “ของแสลง” จนไม่มีใครกล้าเสี่ยงมาสมัคร ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่ดูจะขุนไม่ขึ้น .. ส่วนพวกที่เสนอตัวก็ “ไม่ตรงสเปก” คณะกรรมการสรรหา ก่อนมาลงตัวที่ “กัปตันถั่ว” แบบที่ไม่มีข่าวเล็ดลอดออกมาก่อนด้วยซ้ำ .. รอดไม่รอด ด่านแรกคงวัดที่ “ความอึด” ในการฝ่าด่าน “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ฝังรากลึก ตลอดจนความที่เป็น “แหล่งแสวงหาผลประโยชน์ชั้นยอด” ไปได้หรือไม่ .. ที่อด “หวาดระแวง”ไม่ได้ก็คงแบ็กกราวด์ของ “กัปตันถั่ว” ที่โยงกับ “ระบอบทักษิณ”ไม่ยาก .. ทั้งฐานะคนในตระกูล “อากู๋ แกรมมี่” ที่ซี้ย่ำปึ้กกับ “นายใหญ่” ส่วนตัว “เดอะถั่ว” เองก็แนบแน่น “เดอะโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และ รมว.การคลัง .. สมัย “รัฐบาลปู” ยังเข้า-ออกทำเนียบฯ ในฐานะคณะทำงานส่วนตัวของ “เดอะโต้ง” บ่อยๆ.. ที่ว่าต้อง “หวาดระแวง”เพราะมีคดี “สินบนข้ามชาติโรลส์รอยส์” ที่ค้างอยู่ในชั้น ป.ป.ช. ตัวละครที่เกี่ยวข้องล้วนแล้วแต่เป็น “ขุนพลระบบแม้ว” แทบทั้งสิ้น .. แน่นอนดุลยพินิจเรื่องคดี อยู่ที่ ป.ป.ช. แต่ความร่วมมือด้านข้อมูล-หลักฐานจาก “การบินไทย” ในฐานะผู้เสียหายก็เป็น “จุดชี้เป็นชี้ตาย” ของคดีเช่นกัน.

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น