ข่าวปนคน คนปนข่าว
** อย่าปล่อยเสือเงียบลอยนวล!! ป.ป.ช.ชี้มูลซื้อไม้ล้างป่าช้า “Alpha 6 - GT 200” มีความผิด อย่าฟันแค่ “ปลาซิวปลาสร้อย” ต้องสาวให้ถึงระดับ “ผบ.เหล่าทัพ” ยุคไหน “ซื้อเยอะ-ซื้อแพง”รู้ๆ กันอยู่
ฟันฉัวะเข้าให้ .. อัพเดตความคืบหน้าจาก ป.ป.ช.ในคดีดัง จัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด “Alpha 6 - GT 200” ที่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนขึ้นมาตั้ง 12 ชุด .. ล่าสุด “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า มีการชี้มูลแล้ว 1 สำนวน และส่งสำนวนไปยัง “อัยการสูงสุด” เป็นที่เรียบร้อย .. เป็นคดีที่สำนักงาน จ.พิษณุโลก จัดซื้อเครื่องตรวจค้นยาเสพติด Alpha 6 โดยไม่ตรวจสอบราคา ซื้อแพง กว่าที่ควรจะเป็น และไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน .. ผู้ที่ถูกชี้มูลเป็น “ข้าราชการปกครองเล็กๆ” นำโดย ว่าที่ ร.ต.สุรศักดิ์ วงศาโรจน์ หัวหน้าสำนักงาน จ.พิษณุโลก พร้อมลูกน้อง 5 คน ที่เป็นระดับซี 3-6 เท่านั้น .. พร้อมเน้นด้วยว่า เชื่อมโยงไปไม่ถึง “ข้าราชการระดับสูง - นักการเมือง” แต่อย่างใด .. ยังไม่มีการเปิดเผยว่าในสำนวนเป็นความผิดจัดซื้อกี่เครื่อง แต่หน่วยงานประเภทสำนักงานจังหวัดแบบนี้ เต็มที่ก็คงจัดซื้อไม่เกิน 2-3 เครื่องเท่านั้น .. ที่เหลือเชื่อก็สำนวนคดีเหล่านี้มีการร้องกันมาตั้งแต่ปี 2555 กว่าจะมาเปิดหัวประเดิมคดีแรกได้ก็ปาเข้าไป 6 ปีเต็ม .. กลับกันคดีที่เมืองนอก มีการตัดสินลงโทษยึดทรัพย์-จำคุก “ผู้ผลิต - ผู้ขาย” จนป่านนี้จะได้รับอิสรภาพแล้วด้วยซ้ำ ..
ที่ต้องตามต่อ ก็คือถึงแม้ ป.ป.ช.จะเลือกคดี “ปลาซิวปลาสร้อย” มาเปิดหัว แต่คดีไม้ล้างป่าช้า “Alpha 6 - GT 200” ค้างอยู่อีก 11 คดี .. มีผู้ถูกกล่าวหากว่า 75 ราย จำนวนเครื่องมากกว่า 1.3 พันเครื่อง รวมมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท .. และอย่างที่ทราบกัน หน่วยงานที่จัดซื้อ “ไม้ล้างป่าช้า” มากที่สุด ก็คือ “กองทัพบก” .. เป็นทหารบก ที่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รอง คสช. เป็น ผบ.ทบ. ที่สั่งซื้อเฉพาะ “GT 200” ไปมากกว่า 750 เครื่อง เป็นเงินกว่า 680 ล้านบาท .. ยิ่งไปกว่านั้น “ผบ.ป๊อก” ก็ยังปฏิบัติการ “เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า” สั่งปลดประจำการ GT 200 ที่สั่งซื้อมาในยุคตัวเองอีกด้วย โดยที่ไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนหาผู้กระทำผิดแต่อย่างใด .. น่าเสียดายอีกว่า ในคดีที่อยู่กับ ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวหาที่เป็น “ทหาร” กว่า 40 คนนั้น ตำแหน่งสูงสุดแค่ยศ “พลโท” ระดับ "เจ้ากรม" เท่านั้น ทั้งที่ข้อมูล “ต่อยอด” ถึงระดับ "ผู้บัญชาการเหล่าทัพ" ไม่ยาก .. แต่อย่างน้อย การชี้มูลในคดีที่ จ.พิษณุโลก ก็น่าจะยึดเป็น “บรรทัดฐาน” ของทิศทางคดีที่เกี่ยวข้องอื่นได้ .. ด้วยทั้ง “Alpha 6 - GT 200” ก็คือๆ กัน เป็นแฝดพี่แฝดน้อง มีพฤติการณ์หลอกลวงต้มตุ๋นไม่ต่างกัน .. ที่สำคัญมีข้อมูลว่า หน่วยทหาร “ซื้อเยอะ-ซื้อแพง” กว่าหน่วยงานปกครองด้วยซ้ำ ถ้าชี้มูลคดีที่ จ.พิษณุโลก แล้วคงปล่อยผีคดีที่เกี่ยวกับ ”หน่วยงานทหาร”ไปไม่ได้
** มาเฟียภูเขาทอง!! ลากไส้ขบวนการผลประโยชน์ “วัดสระเกศฯ”ต่อจิ๊กซอว์ “แม่-ลูกนิพนธ์พิทยา”โยงถึง “เจ้าคุณธงชัย”หนึ่งในพระผู้ใหญ่ที่ถูก พศ. แจ้งดำเนินคดี เฉลยเหตุ “พิศิษฐ์”อดีตผู้ว่าฯสตง. พล่าม “พระผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว”ผูกปม “เจ้าคุณเอื้อน” ที่เคยร่วมกันสอย “เจ้าคุณเสนาะ”ตกอาณาจักรภูเขาทอง
บานไม่มีหุบ .. “คดีเงินทอนวัด” ที่มีตัวละครใหม่ ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย .. ที่ถูกเจ้าหน้าที่นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน ด้วยมีเส้นทางการเงิน 25 ล้านบาท มายังบัญชี “แม่ค้าขายลูกชิ้น” ที่มารับจ๊อบเป็น “แม่บ้าน”ของบ้านหรูหลังดังกล่าว .. หลักฐานที่พบ มีทั้งตู้เซฟหลายใบ ทองรูปพรรณ แหวนเพชร และอาวุธปืนหลายขนาด ที่เรียกได้ว่า “คลังแสงย่อมๆ” เลยทีเดียว .. ยิ่งเช็คประวัติ “ฐิติทัตน์” ก็พบว่า “ไม่ธรรมดา” เคยเป็นเลขานุการ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส สมัยยังเป็น ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) .. และก่อนที่ “พิศิษฐ์”จะพ้นจากตำแหน่ง ก็มี “ผู้ใหญ่ฝาก” บรรจุเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อ ก.พ.2559 .. เป็น “เด็กฝาก” ที่มีอภิสิทธิ์ ระดับ VVIP ไม่เคยปรากฏตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีแม้แต่ “บัตรผ่านเขต” ขนาดโอนย้ายไปเป็นหน้าห้อง “นายทหารผู้ใหญ่” แบบที่ว่า จนป่านนี้ “เจ้านาย”ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตา .. นอกเหนือจากความแนบแน่นจน “พิศิษฐ์” ไปเป็นประธานงานบวชให้เมื่อช่วงกลางปี 2559 แล้ว .. งานบวชครั้งนั้นยังเป็น “จิ๊กซอว์”ต่อภาพให้เห็น “ขบวนการโกงเงินทอนวัด”ได้เป็นอย่างดี .. ทั้งจัดฉลองขวัญนาคใหญ่โตและบวชที่ “วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร” มี บุญเลิศ โสภา อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัด ล็อตที่ 2 ขึ้นไปคล้องพวงมาลัยให้กับ “ฐิติทัตน์”ด้วย .. ไม่เท่านั้นยังได้รับเกียรติจาก “เจ้าคุณธงชัย” พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เป็น "พระอุปัชฌาย์" .. มี "เจ้าคุณเทอด" พระราชกิจจาภรณ์ และ "เจ้าคุณสังคม" พระเมธีสุทธิกร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เป็น "พระพี่เลี้ยง" ..
อย่าลืมว่า “เจ้าคุณธงชัย - เจ้าคุณเทอด - เจ้าคุณสังคม” คือ 3 ใน 5 พระผู้ใหญ่ที่ถูก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ. แจ้งข้อหาในคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 3 เมื่อไม่นานมานี้ .. อีกทั้งยังเฉลยเหตุว่า ทำไม “พิศิษฐ์” ถึงใช้เวลาช่วงเกษียณในการเดินสายออกสื่อ เพื่อให้ความเห็นคดีเงินทอนวัดว่า สตง.ตรวจสอบแล้ว "พระผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว" มาตลอด .. ตัวละครที่ถูกเปิดตามมาก็คือ ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา เจ้าของ “หจก.ดีดี ทวีคูณ” ที่จดทะเบียนที่ตั้งอยู่ที่บ้านของ “หมวดฐิติทัตน์” ว่ากันว่ามีความสัมพันธ์เป็น “แม่-ลูก” กัน .. โดยที่ “หจก.ดีดี ทวีคูณ” รับหน้าเสื่องานประชาสัมพันธ์ต่างๆของวัดสระเกศฯ ทั้งหมด อีกทั้งยังรับงานผลิตสื่อให้กับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) .. เป็นรายการโทรทัศน์ชื่อ “รักเมืองไทยใช่เลย” ที่ระบุชื่อผู้ดำเนินรายการว่า “คุณจุ๋ม ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา” .. ที่บังเอิญเหลือเกินว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เพิ่งออกมาระบุชื่อ “สีกาจุ๋ม”ว่าเป็นคนสนิทของเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัดทั้งหมด มีการหนีบกระเตงไปออกงานกันบ่อยครั้ง .. ไม่ใช่เพียงคดีเงินทอนวัดเท่านั้น คอนเนกชั่น แม่-ลูก “ฑัมม์พร-ฐิติทัตน์” กับ “เจ้าคุณธงชัย” ที่สามารถเชื่อมไปถึง “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” ยังฟ้องไปถึงเรื่องในอดีต .. เมื่อครั้งการตรวจสอบการใช้งบประมาณพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ “สมเด็จเกี่ยว” สมเด็จพระพุฒาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ .. ครั้งนั้น “พิศิษฐ์”เป็นหัวหอกที่ใช้ สตง. เข้าตรวจสอบ จนเป็นเหตุให้ “เจ้าคุณเอื้อน” พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร สั่งพักงาน "เจ้าคุณเสนาะ" พระพรหมสุธี แล้วตั้ง “เจ้าคุณธงชัย” ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ แทนจนถึงปัจจุบัน ส่วน “เจ้าคุณเสนาะ” ก็เลือกที่จะจากโลกนี้ไป .. ลืมไม่ได้อีกเช่นกันว่า “เจ้าคุณเอื้อน” ก็ 1 ใน 5 พระผู้ใหญ่ที่ถูก “ผอ.พงศ์พร” แจ้งความดำเนินคดีในล็อตเดียวกับ “เจ้าคุณธงชัย”นี่แหละ .. ความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้น จากปัจจุบันย้อนไปอดีต สะท้อนให้ถึงผลประโยชน์ในศาสนาจักรที่มากมายมหาศาลเหลือคณานับ .. และนอกเหนือจาก “อลัชชี” ที่แฝงตัวอยู่ในคราบผ้าเหลืองแล้ว ก็ยังเหล่า “ศิษย์ก้นกุฏิ” ในทางโลก คอยเป็นเครื่องมือให้อีกต่างหาก.
**อาการมันฟ้อง!! “เลขาฯสภาฯ”ไม่แฮปปี้โดน ครม.ตีกลับงบ “สภาเทวดา”แถมเจอ “ลูกพี่”ปัดสวะ ประชดย้อนยุคใช้ “อะนาล็อก” ไปเลย “เอกชน”ประสานเสียง “ยุโรป”ไม่ไหว คงต้อง “เสิ่นเจิ้น” หวังให้หลงประเด็น ที่ถูกแฉว่า ราคาที่ตั้งมามันแพงกว่าท้องตลาดตั้ง 3-4 เท่าตัวมากกว่า
สุ้มเสียงไม่ค่อยแฮปปี้ .. สรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เจ้าของโปรเจกต์งบประมาณเทคโนโลยีและสารสนเทศ การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ วงเงิน 8,135 ล้านบาทเศษ ที่ถูก “ครม.ลุงตู่”ตีกลับ .. แถมถูกจี้ไปที่ปมราคา “ไมโครโฟนเทพ” สรรราคาชุดละ 1.2 แสนบาท และ “โคตรนาฬิกา” เรือนละ 7 หมื่นบาท .. และยังมาถูก “ลูกพี่” อย่าง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) “ปัดสวะ” ว่าเป็นความรับปิดชอบของ “เลขาฯสภาฯ” แต่เพียงผู้เดียวอีก .. แม้จะออกปากว่า พร้อมทบทวนตามมติ ครม. และยืนยันว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น เป็นเพียงมุมมองที่แตกต่างกันเท่านั้น .. แต่หลายจังหวะก็ดู “ฉุนเฉียว” ผิดปกติ มีอารมณ์ “ประชดประชัน” เกินเลย “ข้อเท็จจริง” กันพอสมควร ..
อย่างที่ว่า จะโละทิ้งไมโครโฟน ทีวี นาฬิกา ที่มีราคาแพงทั้งหมด เพื่อใช้ตามเหมาะสม .. แต่ก็ไม่วายเหน็บห้อยท้ายไปว่า คงไม่ต้องระบบ 4K - ดิจิทัล ให้ต่ำตมอยู่กับ “อะนาล็อก” เหมือนแต่ก่อน .. เข้ากัน “เป็นปี่เป็นขลุ่ย” กับ “ผู้รับเหมาออกแบบระบบไอที” ที่ พรเทพ ฤทัยเจริญลาภ ผู้จัดการของบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จํากัด พูดแบบฟังไม่ได้พอกัน .. หลังอ้างข้างๆ คูๆ ถึง “สเปกเทพ” ของไมโครโฟน-นาฬิกา-ทีวี แบบที่ “กูรู” ฟังแล้วถอนใจว่า ใหม่ตรงไหน แพงอะไรขนาดนั้น .. ก็ทิ้งท้ายว่า จะรื้อทิ้งอุปกรณ์ “มาตรฐานยุโรป”ทั้งหมด แล้วหันมาใช้ “มาตรฐานจีน” แทน .. ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็คงประมาณว่า ของดีๆ ไม่ชอบ งั้นใช้ “ของเสิ่นเจิ้น”ไปละกัน .. ดูเหมือนพยายามลากให้
“หลงประเด็น” ไม่น้อย ก็ที่ทั้ง ครม.ตีกลับ หรือ คนภายนอกออกมาทักท้วง ก็ด้วยราคาอุปกรณ์ที่ตั้งขึ้นมา สเปกไม่ได้เทพสมราคา หาซื้อในท้องตลาดได้ถูกกว่า 3-4 เท่าตัวด้วยซ้ำ .. เป็นราคาที่ “แพงเกินจริง” ส่อไปในทางเปิดช่องให้เกิดการทุจริต .. และยังกลัวกันว่า ตั้งราคา “ยุโรป” แต่ไปซื้อของ “เสิ่นเจิ้น” ก็ห่วงกันว่า ตั้งราคาขนาดนั้น ระวังจะไม่มีที่เก็บ “ส่วนต่าง - เงินทอน” ต่างหาก .. พอโดนจับได้ไล่ทัน ก็ออกอาการปึงๆปังๆ ระวังเขานินทาว่า “ร้อนตัว” นะท่านนะ.
ช.ชฎา