xs
xsm
sm
md
lg

ปริศนารอเฉลย! ค้นคลังแสง “ร.ท.ฐิติทัตน์” โยง “เงินทอนวัด” จับตาใครคือ “พระชั้นผู้ใหญ่” เอี่ยวเช็ค 25 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


... รายงาน

การตรวจค้นบ้านพัก ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ที่บ้านเลขที่ 265/154 หมู่บ้านสีวลี รามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา ย่านสะพานสูง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา

ตรวจสอบพบตู้เซฟ 3 ใบ อาวุธปืนยาว 4 กระบอก ได้แก่ ปืนลูกซอง 3 กระบอก และปืนลูกกรด 1 กระบอก, ปืนสั้น 18 กระบอก ขนาด 9 และ 11 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 1,005 นัด

รวมทั้งทองรูปพรรณ แหวนเพชร และทรัพย์สินมีค่าต่างๆ หลายรายการ เอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง

เรื่องนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลด้านความมั่นคง ต้องลงมาตรวจสอบด้วยตัวเอง เนื่องจากปืนนับสิบกระบอกเหล่านี้ถือเป็น “คลังแสง” ขนาดย่อมๆ เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล

และถึงแม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดว่า ทหารแต่ละนายต้องครอบครองปืนได้เท่าใด แต่ พล.ต.คณิศร สุนทรธีมากร ผู้ช่วยผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย ระบุว่า ภารกิจของทหารสังกัด ศรภ.ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนมากขนาดนี้

การค้นบ้านหลังนี้สืบเนื่องมาจากคดีทุจริตเงินงบประมาณเผยแผ่พระพุทธศาสนา “เงินทอนวัด” ลอต 3 ซึ่งพบว่ามี “พระเถระชั้นผู้ใหญ่” 5 รูปเกี่ยวข้อง และ 3 ใน 5 รูป เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้แก่

1. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

2. พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส.

3. พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10

4. พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

และ 5. พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

แม้ว่าสำนวนคดีเงินทอนวัดลอต 3 ทั้งหมด 10 วัด จะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาชี้มูลความผิดไปแล้ว แต่การตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมยังมีอยู่ต่อไป

ตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สืบทราบมาว่า บ้านหลังนี้ มี น.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในผู้พักอาศัยในฐานะแม่บ้าน

โดยพบว่า น.ส.นุชรา เป็นเจ้าของ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี ดี ทวีคูณ” รับเงินโอนจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด รวม 25 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคาร แล้วเบิกเงินออกมาในเวลาต่อมา

จากการสอบปากคำ น.ส.นุชรา ปกติมีอาชีพ ขายลูกชิ้น อยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง แต่มารับทำงานเสริมเป็นแม่บ้าน ช่วยเลี้ยงดูบุตรหลานให้กับ ร.ท.ฐิติทัศน์

ยอมรับว่า “คนในบ้าน” คนหนึ่งที่สนิทสนมกัน ได้มาขอให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งหลังจากที่มีเงินเข้ามาแล้วก็จะไปทำการถอนออกให้คนในบ้านอีกที

สืบสวนเพิ่มเติม พบ น.ส.นุชรา เป็นเพียงแม่บ้าน ไม่น่าจะเปิดบริษัทรับงานเองได้ จึงตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.นุชรา มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “บุคคลหนึ่ง” ที่เคยอยู่ในวัดต้องสงสัย

บุคคลนั้นเคยพา น.ส.นุชรา ไปพบกับพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป เพื่อพูดคุยเรื่องการรับแคชเชียร์เช็คเงินจำนวน 25 ล้านบาท และในแคชเชียร์เช็คมีการระบุชื่อ “พระชั้นผู้ใหญ่” อย่างชัดเจน

“เป็นไปได้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวอาจเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์ที่ถูกหลอกใช้งานก็เป็นได้” พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป.กล่าวเมื่อวันค้นบ้าน 16 พ.ค.
ภาพจาพ https://www.youtube.com/watch?v=5kVe2AQMGwk
เมื่อตรวจสอบพบว่า เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี ดี ทวีคูณ ตัวจริง คือ น.ส.ฑัมมพร นิพนธ์พิทยา อายุ 50 ปี ชาว ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มารดาของ ร.ท.ฐิติทัตน์ จดทะเบียนเมื่อ 28 ม.ค. 2552

ตรวจสอบ น.ส.ฑัมมพร หรือ “คุณจุ๋ม” พบเคยเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลนครชัยศรี เป็นพี่สาวของ นายปรีชา นิพนธ์พิทยา อดีต ส.ว.นครปฐม

เป็นพิธีกรรายการ “รักเมืองไทย...ใช่เลย” ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล (เนชั่นทีวี) เมื่อช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา (ตัวอย่างรายการ ตอน 1) (ตัวอย่างรายการ ตอน 2)

นอกจากนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี ดี ทวีคูณ ยังเคยผลิตรายการ “วิถีไทย วิถีพุทธ” โดยมีมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นผู้สนับสนุนหลักอีกด้วย

ที่สำคัญ มีรายงานข่าวว่า น.ส.ฑัมมพร มีความสนิทสนมกับ “พระผู้ใหญ่วัดดัง” ที่กำลังตกเป็นข่าว เคยเดินทางไปต่างประเทศในโครงการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

และสนิทสนมกับ นายบุญเลิศ โสภา อดีตผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดล็อต 2
ภาพจาก FB : สุรพงษ์ โลหิตพินทุ
ร.ท.ฐิติทัตน์ เจ้าของบ้าน ยังมีความสนิทสนมกับ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยมาช่วยงานเป็นเลขานุการ เงินเดือน 43,530 บาท ก่อนจะลาออกเมื่อ 23 ก.พ. 2559

นายพิศิษฐ์ระบุว่า ร.ต.ฐิติทัตน์ เคยมาติดตามช่วยงานตนในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ สตง.อยู่ระยะหนึ่ง

และเท่าที่ทราบ แม่ของ ร.ต.ฐิติทัตน์ เปิดบริษัทและได้รับว่าจ้างงานสื่อประชาสัมพันธ์ของวัดสระเกศฯ

9 ก.พ. 2559 ร.ท.ฐิติทัตน์ บรรจุเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร แจ้งวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกริก สาขาการสื่อสารการท่องเที่ยวและบันเทิง รับเงินเดือน 19,600 บาท

สำนักข่าวอิศรา อ้างแหล่งข่าวจากกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุว่า ร.ต.ฐิติทัตน์ เข้ามารับราชการทหารที่ ศรภ. เพราะมีผู้ใหญ่ฝากมาทำงานในกองทัพ แต่หลังบรรจุแล้วไม่เคยเข้ามาทำงานแต่อย่างใด

ก่อนที่จะมีการทำเรื่องขอตัวไปช่วยราชการ ตำแหน่งหน้าห้อง “บิ๊กกบ” พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญจศรี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (เตรียมทหาร รุ่น 18) เมื่อเดือนตุลาคม 2560

แต่ก็มีข่าวว่า ร.ต.ฐิติทัตน์ มักจะไปปรากฏตัวที่วัดสระเกศฯ เนื่องจากเป็นคนสนิทเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เข้านอกออกในวัดอยู่เป็นประจำ
ภาพจาก FB : สุรพงษ์ โลหิตพินทุ
ร.ต.ฐิติทัตน์ เคยอุปสมบทที่วัดสระเกศฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2559 นอกจากมีนายพิศิษฐ์เป็นประธานแล้ว คนที่คล้องพวงมาลัยหนึ่งในนั้นคือ “นายบุญเลิศ” ผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัด ล็อต 2

พระอุปัชฌาย์ ของ ร.ต.ฐิติทัตน์ คือ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ

ส่วนพระพี่เลี้ยง คือ พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และ พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ

พระพรหมสิทธิ และ พระเมธีสุทธิกร เป็น 2 ผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัด ล็อต 3 ที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดอดแจ้งความ 12 เม.ย. ก่อนสงกรานต์ด้วยตัวเอง

ขณะที่ นายพิศิษฐ์ ถูกโยงไปถึงเรื่องเงินทอนวัด เพราะเป็น “กองหนุน” สายวัดสระเกศฯ ที่ออกมาปกป้องพระพรหมสิทธิ และพระเมธีสุทธิกร ร่วมกับ นายโฆสิต สุวินิจจิต อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.สอบตก

ย้อนกลับไปในพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) นายพิศิษฐ์ตรวจสอบเงินหลวง 67 ล้านบาท ที่รัฐบาลอุดหนุนเพื่อใช้จ่ายในงานออกเมรุ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2557

พบว่า ในยุคที่ พระพรหมสุธี (เสนาะ ปัญญาวชิโร) มีพิรุธในการใช้เงิน 67 ล้านบาทอย่างไม่ชอบมาพากล เช่น ทำปกพระไตรปิฎก ใช้ไป 7 ล้านบาท, โต๊ะหมู่บูชามีเจ้าภาพสร้างให้ แต่เบิกไป 11 ล้านบาท

หรือจะเป็นเงินอีก 15 ล้านบาท ไปอยู่ที่กองทุนพระไตรปิฎก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จเกี่ยว แต่อย่างใด
พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ (ภาพจาก watsaket.ac.th)
กระทั่ง พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ก็ได้มีการสะสางบัญชีค่าใช้จ่าย 42.32 ล้านบาท และนำเงิน 25.22 ล้านบาทส่งคืน

โดยส่งเช็คธนาคารกรุงไทย สาขาเทเวศน์ เลขที่ 00509638 จำนวน 1 ฉบับให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลงวันที่ 24 มิ.ย. 2558

ส่วนพระพรหมสุธี ถูกกรรมการมหาเถรสมาคมมีมติปลดออกจากตำแหน่งกรรมการฯ และให้พักงานตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ก่อนยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เมื่อเดือน เม.ย. 2558

จากนั้น 25 ม.ค. 2559 พระพรหมสุธี ได้มรณภาพภายในกุฏิวัดสระเกศฯ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2559 สาเหตุเกิดจากการอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย)

พระพรหมสิทธิ จึงได้เลื่อนขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จนถึงปัจจุบัน

วันนี้ พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และ พระเมธีสุทธิกร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เป็น 2 ผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัด ล็อต 3 และเรื่องไปอยู่ใน ป.ป.ช.

ก่อนที่ตำรวจกองปราบฯ จะบุกเข้าค้นบ้าน ร.ต.ฐิติทัตน์ ซึ่งแม่บ้านเป็นผู้รับเช็ค 25 ล้านบาท จากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ล็อต 3 ในครั้งนี้

เพื่อไม่ให้กลายเป็นการเสียรูปคดี คงต้องรอให้ตำรวจเป็นผู้เฉลยปมปริศนาที่เกิดขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น