นายกฯ ปัดข้อเสนอจับมือเพื่อไทย บอกทำเพื่อประเทศไม่ใช่เพื่อตัวเองหรือใคร ยืนยันอยากให้เกิดเลือกตั้ง ไม่คิดหาเหตุเลื่อน พร้อมขอบคุณโพลหนุนเป็นนายกฯ ต่อ
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่ผลสำรวจของนิด้าโพลหนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ จะเป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจอนาคตทางการเมืองหรือไม่ว่า ก็ต้องขอบคุณนิด้าโพล รวมทั้งโพลต่างๆ และประชาชนที่ได้ตอบแบบสอบถาม วันนี้ตนมุ่งหวังแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรเราจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลทั้ง 6 ข้อ ให้ได้ ส.ส. ได้ ครม.ที่มีคุณภาพ ตนคาดหวังแค่นั้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าผลโพลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของโพล
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่นิด้าโพลระบุว่าต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่หลังการเลือกตั้ง พรรคที่ คสช.สนับสนุน จะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ว่ากันไปโน่น รัฐบาลที่ คสช.จะสนับสนุนไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย ผมจะไปจับมืออะไรกับใคร ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร เพราะฉะนั้น ทุกพรรคการเมืองก็ต้องทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาทำเพื่อผม หรือผมไปทำเพื่อเขา ใครจะไปใครจะมาทุกคนก็ต้องทำเพื่อประเทศชาติ และไปหาเสียงกันตรงนั้น ไม่ใช่วันนี้โจมตีกันไปมา สรุปว่าไม่มีใครดี แล้วจะเลือกตั้งกันไปทำไม ผมอยากให้มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ต้องการให้เลื่อนการเลือกตั้ง หรือหาเหตุให้ไม่มีการเลือกตั้ง ผมพูดมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้วว่าต้องเลือก ตั้ง ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย ใครจะไปฝืนได้ เพราะฉะนั้นเรื่องใครจะจับมือกับใครก็เป็นเรื่องของพวกท่าน จะไปจับกันที่ไหนก็ไปเถอะ”
นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ คือทำอย่างไรที่ให้ประชาชนเข้าใจว่าประชาธิปไตยที่ดีและถูกต้องควรเป็นอย่างไร การได้รัฐบาลที่ดีได้ ส.ส.ที่มีคุณภาพจะได้มาอย่างไร เราต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง รัฐบาลที่จะมาทำหน้าที่ต่อไปจะต้องสานต่อการปฏิรูประยะแรกที่ตนทำไว้ ให้เป็นนโยบายที่ทุกคนจะต้องนำมาหาเสียงว่าจะทำอะไรต่อไป ไม่ใช่มาหาเสียงตอนปลายว่าเดี๋ยวจะทำนั่นทำนี่ให้ราคาสูงขึ้น ทั้งที่ไม่เคยดูมาก่อนเลยว่าปัญหาที่ต้นทางนั้นมันมีอะไร และตนอยากให้ไปถามคนที่ออกมาพูดว่ามีแนวทางการปฏิรูปอย่างไร จะปฏิรูปอะไร วิธีการไหน ถามให้ตนบ้าง ในเมื่อสื่อฯ บอกว่าจะต้องเสนอสองทางก็ต้องไปถามอีกฝ่ายแบบที่ตั้งคำถามตน อยากรู้ว่าจะตอบประชาชนอย่างไร และวันข้างหน้าจะไม่ขัดแย้งกันได้อย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันความขัดแย้งมีหลายอย่าง รวมทั้งความไม่เข้าใจในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย จนบางครั้งก็ถูกต่อต้าน ทั้งที่เป็นกฎหมายธรรมดา กฎหมายการจราจร เพราะทุกคนอ้างถึงสิทธิเสรีภาพ ถามว่าแล้วจะอยู่กันอย่างไร สื่อมวลชนก็ต้องช่วยตนตรงนี้ด้วยว่าอะไรคือการขัดแย้งทางกฎหมาย อะไรคือการขัดแย้งทางความคิดความรู้สึก และบางครั้งยอมรับว่าก็มีเจตนาที่ไม่ค่อยบริสุทธิ์แอบแฝงอยู่เหมือนกัน ขณะที่ยังไม่มีการเลือกตั้งเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรต่อสูตรการเมืองของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หรือสูตรโนพรอมแพรม ที่เสนอให้ทุกพรรคการเมืองยอมรับผลการเลือกตั้งโดยไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องมาพูด แล้วจะเลือกตั้งกันไปทำไม ถ้าไม่ยอมรับกัน เมื่อเลือกตั้งก็ต้องยอมรับ และต้องยอมรับด้วยว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะต้องไม่มีการประท้วง ไม่มีการขัดแย้ง ไม่มีการใช้อาวุธสงคราม ให้สัญญากับประชาชนไว้อย่างนี้ ไม่ใช่ให้ผมเป็นคนสัญญา เพราะในอนาคตพวกคุณจะเข้ามาในวงการเมืองข้างหน้าแล้ว ถ้าเลือกตั้งมาแล้วบริหารไม่ได้จะทำอย่างไร แล้วก็จะมาพูดถึงการรัฐประหาร เรื่องนี้ถ้าทำดีแล้วใครเค้าจะทำ ใครจะมาเสี่ยง ดังนั้นผมอยากจะฝากคนไทยทั้งประเทศว่าจะยอมกันอีกหรือ ยอมให้คนเขามาพูดจาแบบนี้หรืออย่างไร”