กลุ่มผู้ประกอบการหอพักห้องเช่า รวมตัวร้องศาลปกครองให้สั่งยกเลิกประกาศ สคบ.ควบคุมสัญญาห้องเช่า 2561 คุ้มครองเฉพาะผู้บริโภคแต่ฝ่ายเดียวจนเกินความเป็นจริง และเกินความสามารถที่ผู้ประกอบการฯ จะปฏิบัติตามได้ เช่น ห้ามไล่ผู้เช่าที่ผิดสัญญา ต้องฟ้องศาลเท่านั้น รวมทั้งห้ามคิดค่าน้ำค่าไฟเกินอัตราของการไฟฟ้าและการประปา
วันนี้ (11 พ.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าอาคารเพื่อที่อยู่อาศัย กว่า 200คน นำโดย นายบารมี เรืองกาญจนเศรษฐ์ และนางพิมานมาศ ภิญญารัตน์ พร้อมด้วยทนายความเดินทางยื่นร้องศาลปกครองกลาง โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรื่องให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการฯ เห็นว่า สคบ.ออกประกาศดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายให้การคุ้มครองเฉพาะผู้บริโภคแต่ฝ่ายเดียวจนเกินความเป็นจริง และเกินความสามารถที่ผู้ประกอบการฯ จะปฏิบัติตามได้ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการกำหนดธุรกิจที่ควบคุมสัญญาและลักษณะของสัญญา พ.ศ. 2542 เนื่องจากไม่ได้รับฟังข้อเท็จจริงที่หลากหลายของผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง รวมทั้งเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 อยู่แล้ว นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการฯ ยังขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งระงับการบังคับใช้ ประกาศสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรื่องให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาจนถึงที่สุด
ทั้งนี้ นายบารมี เรืองกาญจนเศรษฐ์ แกนนำ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจให้เช้าอาคารเพื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า พวกเรากลุ่มผู้ประกอบการฯ พร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ประกาศ สคบ.ฉบับดังกล่าว เป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ลิดรอนสิทธิที่พึงมีของพวกเรากลุ่มผู้ประกอบการ อาทิ การสั่งห้ามผู้ประกอบการหอพักห้องเช่าบังคับขับไล่ผู้เช่าอาศัยที่ปฏิบัติผิดสัญญาเช่าออกจากห้องเช่า แต่ให้ผู้ประกอบการไปฟ้องศาลขับไล่ผู้เช่าเอง หรือกรณีสั่งห้ามผู้ประกอบการฯ เรียกเก็บค่าน้ำค่าไฟจากผู้เช่าอาคารเกินกว่าอัตราที่การไฟฟ้าและการประปาเรียกเก็บ ขณะที่การไฟฟ้าและการประปาเรียกเก็บค่าไฟค่าน้ำในอัตราก้าวหน้าและไม่คงที่ ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่เกิดขึ้นตกเป็นภาระของผู้ประกอบการฝ่ายเดียว
ประกาศฉบับนี้จึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง มีผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจการให้เช่าอาคารอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ที่ผ่านมา สคบ.เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการฯ เพียง 120 ราย จากผู้ประกอบการที่มีอยู่กว่า 1 หมื่นรายทั่วประเทศ พวกเราจึงต้องมาร้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมสั่งเพิกถอนประกาศฉบับนี้ไปก่อน แล้วค่อยมาร่างประกาศกฎหมายที่มีความเป็นธรรมมากกว่านี้