xs
xsm
sm
md
lg

พช.โต้ข่าว บ.ประชารัฐรักสามัคคีเลิกกิจการ ยันเดินหน้าเต็มสูบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายโชคชัย แก้วป่อง
พช.โต้ข่าวบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีฯ เลิกกิจการ ยืนยันยังเดินเครื่องเต็มสูบทั้ง 77 บริษัท เผยสร้างรายได้แล้วกว่า 1.6 พันล้านบาท ผู้ได้รับประโยชน์กว่า 6 แสนคน

วันนี้ (8 พ.ค.) นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน แถลงข่าวชี้แจงกรณีข่าวบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) หลายจังหวัดทั่วประเทศอยู่ในสภาพขาดการขับเคลื่อน บางจังหวัดเพียงรอจ่ายเงินให้หมดแล้วยุติกิจกรรม และบางจังหวัดกว่า 80% ได้ทำเรื่องถึงผู้ลงทุนเพื่อคืนเงินหุ้นแล้วยุติกิจการ เนื่องจากขาดเงินทุน ขาดการสนับสนุนอย่างจริงจัง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมทั้งหมดต้องออกเอง รวมถึงขาดบุคลากรในการทำงานต่างๆ นั้นว่า ทางบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดฯ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทุกบริษัทฯ มีงบประมาณที่เป็นหุ้นที่ระดมทุนจากภาคเอกชน และคนในจังหวัด สามารถระดมทุนได้เฉลี่ยจังหวัดละ 4 ล้านบาท บริษัทฯ สามารถกำหนดแนวทางการบริหารงาน การบริหารค่าใช้จ่าย ดำเนินงานได้เองโดยอิสระ ซึ่งแนวทางการบริหารทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลงและมติจากที่ประชุมของผู้ถือหุ้น ด้านบุคลากร บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) มีคณะกรรมการบริษัท 5-10 คน มาจากหลายภาคส่วนทำหน้าที่บริหารงาน และมีเจ้าหน้าที่ทำงานประจำที่เรียกว่า นักพัฒนาธุรกิจ ทุกจังหวัดๆ ละ 2 คน รวมทั้งมีคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด (คสป.) เป็นที่ปรึกษา ซี่งในปัจจุบันยังคงมีการดำเนินงานอยู่อย่างปกติ และมีการประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับประเด็นการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐนั้น นายโชคชัยชี้แจงว่า กรมการพัฒนาชุมชนให้การสนับสนุน โดยได้จัดทำโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับ 3 กลุ่มงานหลัก เพื่อช่วยหาและสร้างช่องทางการตลาดให้แก่ชุมชนเป้าหมาย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ในกรณีที่ชุมชนเป้าหมายการพัฒนายังมีความต้องการได้รับการสนับสนุน สามารถที่จะเสนอความต้องการเข้าสู่แผนพัฒนาจังหวัดและแผนในระดับต่างๆ ได้ ซึ่งมีงบประมาณรองรับอยู่แล้ว

ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชนได้ให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และมหาวิทยาลัยรังสิต Yunus Center AIT สถาบันไทยพัฒน์ และมูลนิธิสัมมาชีพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ทำการศึกษาโครงการค้นหาต้นแบบการ ต่อยอด และขยายผลความสำเร็จการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ โดยรายงานการวิจัยพบว่า การดำเนินงานสามารถสร้างและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน เป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดสินค้าให้เชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจ และเป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่เหมาะสม โดยข้อมูลผลการดำเนินงานถึงเดือนเมษายน 2561 ทุกจังหวัด (77 บริษัท) โดยมีการพัฒนากลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,685 กลุ่ม สร้างรายได้รวม 1,653,130,058 บาท ผู้ได้รับประโยชน์ จำนวน 614,180 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน ดังนี้ เกษตร 955 กลุ่ม เกิดรายได้ 656,628,008 บาท กลุ่มแปรรูป 1,898 กลุ่ม เกิดรายได้ 752,510,153 บาท กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน 832 กลุ่ม เกิดรายได้ 243,991,897 บาท หากพื้นที่ต้องการรับการสนับสนุนสามารถเสนอกลุ่มเป้าหมายให้คณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐ ประจำจังหวัด (คสป.) พิจารณาสนับสนุน

ส่วนข้อกล่าวหา บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดฯ ขอยุติกิจการ และคืนเงินหุ้นนั้น นายโชคชัยชี้แจงว่า ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ทุกจังหวัด บริษัท ประชารัฐ รักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ทั้ง 77 บริษัท ยังมีการดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องไม่เป็นไปตามข่าวที่มีการขอยุติและคืนหุ้นแม้แต่แห่งเดียว ไม่มีจังหวัดใดแจ้งยุติการดำเนินงาน ซึ่งการยกเลิกกิจการบริษัทต้องปฏิบัติตามระเบียบของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

สำหรับแนวทางการพัฒนาต่อไปในอนาคตนั้น มี 2 ส่วนหลัก คือ รัฐบาลอยู่ระหว่างการออกกฎหมายพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. ... เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ และภาครัฐมีการสนับสนุนให้บริษัทฯ พัฒนาแผนธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ แล้วนำรายได้ไปขยายผลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

“สรุป บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี เป็นการร่วมมือกันทุกภาคส่วนของคนในพื้นที่ที่มีความพร้อมและต้องการช่วยคนในจังหวัดที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ผู้ที่ด้อยโอกาสและยากจน เป็นการจัดโครงการที่มีกฎหมายรองรับและมีความต่อเนื่องการทำงาน ข่าวที่ปรากฏว่ามีการขาดสภาพการขับเคลื่อน รอจ่ายเงินให้หมดแล้วยุติกิจกรรม จึงเป็นข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด” นายโชคชัยกล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น