“บิ๊กตู่” สั่ง กต. เพิ่มอำนาจ “กงสุลกิตติมศักดิ์” ของไทยทั่วโลก ร่วมแสวงหาตลาด เจรจาและจับคู่ทางการค้า ตามนโยบายส่งเสริมการค้าการลงทุนของไทยในต่างประเทศ เพิ่มบทบาทจากเดิมในการส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศไทย การคุ้มครองช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ
วันนี้ (7 พ.ค.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. มีข้อสั่งการถึงกระทรวงการต่างประเทศ นำไปพิจารณาดำเนินการเพื่อให้ กงสุลกิตติมศักดิ์ (Honorary Consul) ของไทยในประเทศต่างๆ มีบทบาทในด้านการส่งเสริมการค้าการลงทุนของไทยในประเทศต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น เช่น การแสวงหาตลาด การเจรจาและจับคู่ทางการค้า เป็นต้น
สำหรับ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ กงสุลกิตติมศักดิ์ และ รองกงสุลกิตติมศักดิ์ เป็นผู้แทนของราชอาณาจักรไทย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย กับประเทศต่างๆ ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่พนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2536 พนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ มีหน้าที่ช่วยเหลือชาวไทยในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เช่น การปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศไทย การคุ้มครองช่วยเหลือคนไทย และการตรวจลงตรา (วีซ่า) ทั้งนี้ พนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ไม่สามารถรับคำขอทำหนังสือเดินทางได้
ในส่วนของไทย กงสุลกิตติมศักดิ์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับไทย กงสุลกิตติมศักดิ์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งหมด และกงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลน้อยกว่ากงสุลอาชีพ
กงสุลกิตติมศักดิ์ของไทย ปัจจุบันมีอยู่ในหลายประเทศ เช่น ที่สหรัฐอเมริกา อยู่ในรัฐโคโลราโด ฟลอริดา จอร์เจีย ฮาวาย ลุยเซียนา แมสซาชูเซตส์ ออริกอน เทกซัส (เมืองดัลลัส - เมืองฮุสตัน) ยูทาห์, นครซานฮวน ประเทศเปอร์โตริโก หรือในประเทศออสเตรเลีย มีสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย ที่นครบริสเบน (รัฐควีนส์แลนด์) นครเมลเบิร์น (รัฐวิกตอเรีย) นครแอดิเลด (รัฐเซาท์ออสเตรเลีย) นครโฮบาร์ต (รัฐแทสมาเนีย) และ นครเพิร์ธ (รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย) ที่รัฐบาลไทยแต่งตั้ง เป็นต้น