โฆษกกลาโหม เผย “บิ๊กป้อม” ประชุมร่วม ขรก.บุรีรัมย์ กำชับดึงศักยภาพของพื้นที่และร่วมพัฒนาเติมเต็มไปด้วยกัน ย้ำต้องทำให้ประชาชนได้ประโยชน์และมีส่วนร่วมทุกฝ่าย ให้จัดทำแผนงานและงบประมาณให้มีความชัดเจน เชื่อมโยง
วันนี้ (7 พ.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปจากส่วนราชการต่างๆ ณ ศาลากลาง จ.บุรีรัมย์ โดยสรุปภาพรวม จ.บุรีรัมย์ มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงมีความต้องการสนับสนุนการขยายสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งถนน สนามบิน ระบบระบายน้ำ และแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค รองรับควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
พล.อ.ประวิตรได้กำชับให้ส่วนราชการต่างๆ มุ่งมั่นทำงานหนักร่วมกันมากขึ้น ด้วยการดึงศักยภาพ จุดแข็งของพื้นที่และร่วมพัฒนาเติมเต็มไปด้วยกัน ตอบสนองทั้งการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลในภาพใหญ่ การพัฒนาเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงขอให้จัดทำแผนงานและงบประมาณให้มีความชัดเจน เชื่อมโยงและต่อเนื่องกัน พร้อมทั้งย้ำให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยใช้กลไกประชารัฐสนับสนุนการขับเคลื่อนบริหารงานร่วมกันระดับพื้นที่ เน้นความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกัน ต้องเร่งรัดนำข้อมูลการร้องเรียนของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรมและข้อมูลระดับพื้นที่มาวิเคราะห์เชื่อมโยงเพื่อแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ให้ได้อย่างแท้จริง ทั้ง ปัญหาราคาพืชผลการเกษตร และปัญหายาเสพติด ปัญหาภัยแล้ง การบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่สาธารณะซึ่งตามมาด้วยปัญหาภัยพิบัติ พร้อมทั้งให้เตรียมการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น
พล.ท.คงชีพกล่าวอีกว่า ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับหน่วยงานทหารและตำรวจในพื้นที่ ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยให้ความสำคัญกับงานด้านการข่าว และงานเชิงป้องกัน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน พล.อ.ประวิตรได้กำชับให้เพ่งเล็งปัญหายาเสพติด การบุกรุกทำลายป่าไม้ คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยขอให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองกำลังสุรนารี และมณฑลทหารบกที่ 26 ร่วมกับ สำนักทหารพัฒนาภาค 5 ประสานการทำงานร่วมกัน โดยน้อมนำแนวทางพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียง มาดำเนินการควบคู่กับยุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคง และให้พิจารณาใช้ประโยชน์จากงานพัฒนาและการช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดาร สนับสนุนภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงและยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไปด้วยกัน