xs
xsm
sm
md
lg

ภาค ปชช.ร้องผู้ตรวจฯ สอบรัฐใช้รายการเดินหน้าประเทศไทย บิดเบือนสัมปทานปิโตรเลียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ ยื่นหนังสือผู้ตรวจฯ ตรวจสอบภาครัฐ ใช้รายการเดินหน้าประเทศไทย บิดเบือนประชาชนกรณีสัมปทานปิโตรเลียม แหล่งเอราวัณ และแหล่งบงกช

วันนี้ (3 พ.ค.) เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ คกก.นโยบายพลังงานแห่งชาติ คกก.ปิโตรเลียม รมต.กระทรวงพลังงาน ผอ.สำนักนโยบายและแผนพลังงาน และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรณีปกปิดข้อมูลการเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียม แหล่งบงกช และเอราวัณในอ่าวไทย และให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ

พ.ท.พญ.กมลพรรณกล่าวว่า ทางเครือข่ายได้ติดตามการจัดสรรสัมปทานปิโตรเลียม แหล่งบงกช-เอราวัณ พบว่า การให้ข้อมูลของ รมว.พลังงาน ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมาไม่น่าจะถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องที่ระบุว่าการจัดสรรปิโตรเลียมที่เสนอสัดส่วนการแบ่งกำไรให้แก่รัฐซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 สวนทางกับประกาศกฎกระทรวงที่ รมว.พลังงานเป็นผู้ลงนามในการกำหนดแบบสัญญาที่ไปกำหนดค่าภาคหลวงการหักค่าใช้จ่ายของเอกชนให้หักไม่เกินครึ่งของปิโตรเลียมที่ขุดได้และสามารถหักได้ทุกปี

นอกจากนี้ การที่ รมว.พลังงานระบุว่า กระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สามารถตรวจสอบมาตรวัดของทุกปากหลุมผลิตได้ภายใน 7 นาทีโดยไม่ต้องรอคู่สัมปทานรายงาน ซึ่งในข้อเท็จจริงจะเชื่อได้อย่างไรว่าสามารถตรวจสอบได้ตามที่กล่าวอ้าง รวมทั้งประกาศกฎกระทรวงที่ให้อำนาจเพียงคณะกรรมการปิโตรเลียมพิจารณาบริษัทที่เข้าร่วมประมูลเป็นรายบริษัท ทำให้ไม่มีการตรวจสอบของภาคประชาชน หรือสื่อมวลชน จึงไม่มั่นใจในเรื่องความโปร่งใสหรือการมีส่วนร่วม

พท.พ.ญ.กมลพรรณยังเห็นว่า รมว.พลังงาน และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งใช้รายการเดินหน้าประเทศไทยชี้แจงเรื่องดังกล่าว ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงว่าเป็นการใช้คลื่นความถี่ของรัฐปกปิดข้อมูลบางส่วนเพื่อมิให้ประชาชนบางส่วนคัดค้านการจัดสรรปิโตรเลียมที่ไทยเสียเปรียบและสูญเสียความมั่นคงของรัฐ ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 60 รวมทั้งกรณีการที่ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ปตท.สผ. หนึ่งในผู้ประมูล และเป็นกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติซึ่งทำหน้าที่อนุมัติหลักเกณฑ์ จะถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนโดยจะเห็นได้จากการได้รับโบนัสปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นตามผลกำไรของบริษัท จึงขอให้ผู้ตรวจฯเร่งดำเนินการเพราะขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดรับซองประมูลก่อนจะปิดในวันที่ 24 พ.ค.นี้




กำลังโหลดความคิดเห็น