“นิพิฏฐ์” คาด สมาชิก ปชป. หดจาก 2.5 ล้าน เหลือไม่ถึงแสน ชี้ 3 ปัจจัยสร้างปัญหา ยุ่งยาก - ห้ามประชาสัมพันธ์ - คนไม่พร้อมจ่ายค่าบำรุงพรรค แต่ยันไม่กระทบผลเลือกตั้ง เตือนสังคม ระวังโรคไข้เลือดออกระบาด หลัง นายกฯ - คสช. สร้างน้ำเน่าการเมืองไทย สวนทางปฏิรูป เหน็บขอยอมแพ้แล้วอยู่เมืองไทย ดีกว่าชนะแต่ต้องไปตายเมืองนอก
วันนี้ (30 เม.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรควันสุดท้ายตามคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ว่า ยังไม่ทราบตัวเลขรวมว่ามีคนมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเท่าไหร่แล้ว จากที่มีสมาชิกอยู่เดิม 2.5 ล้านคน โดยประมาณการว่าอาจจะมีผู้มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 1 แสนคน ซึ่งเชื่อว่าคงมีการโจมตีว่าประชาชนไม่สนับสนุนพรรคแล้ว ทำให้จำนวนสมาชิกลดฮวบลง หรือไม่ก็กล่าวหาว่าตัวเลขสมาชิกเดิมเป็นของปลอม ไม่ใช่ของจริง จึงต้องชี้แจงให้เข้าใจว่าตัวเลขสมาชิก 2.5 ล้านคนนั้น เป็นตัวเลขที่ปรับปรุงล่าสุดแล้วว่าไม่มีการซ้ำซ้อน
เขากล่าวว่า แต่ที่ยืนยันความเป็นสมาชิกน้อยมาจาก 3 ปัจจัย คือ 1. การยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคมีขั้นตอนยุ่งยาก 2. คสช. ไม่อนุญาตให้พรรคทำการประชาสัมพันธ์ ทำให้ไม่สามารถสื่อสารถึงสมาชิกพรรคได้อย่างทั่วถึง และ 3. สมาชิกจำนวนมากไม่พร้อมที่จะจ่ายค่าบำรุงพรรคตามที่กำหนด แต่ทุกคนที่ได้มีโอกาสสื่อสารก็ยืนยันว่ายังคงสนับสนุนและเลือกพรรคต่อไปแต่ไม่พร้อมที่จะชำระเงิน จึงไม่กังวลว่ายอดสมาชิกที่ลดลงจะกระทบกับผลการเลือกตั้งในอนาคต ทั้งนี้ เห็นว่า เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นหาก คสช. จะไม่ออกคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมรีเซตสมาชิกพรรค ให้คนที่เป็นสมาชิกพรรคอยู่แล้วต้องมายืนยันความเป็นสมาชิกอีก
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่า การดูด ส.ส. เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยของไทย ว่า ตอนนี้มีโรคพิษสุนัขบ้าระบาด แต่ต้องระวังโรคระบาดที่จะอุบัติขึ้นใหม่ คือ โรคไข้เลือดออก เนื่องจากยุงชุมเพราะน้ำเน่า และคนที่ทำให้น้ำเน่าขึ้นมา ก็คือ คสช. และรัฐบาล ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าติดกระดุมเม็ดแรกผิด ไม่สนใจที่มา ต้องการแต่มือที่จะได้ ไม่ใช่แนวทางปฏิรูป เป็นตรรกะที่ผิด ทำให้ไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง เสื้อที่ใส่ก็จะเอียงไม่เสมอกัน ยาวข้างหนึ่งสั้นข้างหนึ่ง สวนทางกับการปฏิรูป จะอ้างว่าเป็นวัฒนธรรมที่เขาทำกันมานานแล้วคงไม่ได้ เพราะถ้าต้องการปฏิรูปต้องเปลี่ยนแปลงไม่ทำเหมือนเดิม แต่ตอนนี้กำลังเอาน้ำเน่ามาไล่น้ำเน่าก็จะได้น้ำเน่าเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม การที่นายกรัฐมนตรีพูดเช่นนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าจะเดินตามแนวทางนี้
“มีบางคนบอกว่าต้องเอาโจรปราบโจร ผมขอบอกว่า ถ้าทำอย่างนั้นโจรก็ชนะ เราก็จะได้โจรมาปกครอง คนที่เป็นเจ้าของบ้านก็เตรียมตัวถูกปล้นได้เลย ทฤษฎีโจรปราบโจร จึงไม่ควรนำมาใช้ แต่ควรให้ความรู้ประชาชนเพื่อให้เลือกคนดีมาปกครอง ไม่ใช่ทำตัวเป็นโจรเพื่อไปปราบโจร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะยึดมั่นแนวทางของพรรคโดยไม่กลัวว่าจะแพ้เลือกตั้ง เพราะผมยอมแพ้แล้วตายเมืองไทย ดีกว่าชนะแล้วต้องไปตายเมืองนอก ผมไม่เอาหรอกชนะแล้วตายเมืองนอก กระดูกผมต้องฝังเมืองไทย ผมไม่ไปสูดอากาศที่ดูไบ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว