ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบผู้ตรวจการเลือกตั้งแล้ว คุณสมบัติเป็นกลางทางการเมือง - ไม่เป็นสมาชิกพรรค 5 ปี ค่าตอบแทน 5 หมื่นต่อเดือน ในช่วงทำหน้าที่
วันนี้ (26 เม.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำขึ้น โดยเป็นการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง ตามที่รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ อาทิ คณะกรรมการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด จะมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 8 คน ซึ่งมีตัวแทนองค์กรเอกชนและตัวแทนสภาองค์กรชุมนุมของแต่ละจังหวัดรวมอยู่ด้วย ส่วนคณะกรรมการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดของกรุงเทพมหานคร จะมีปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 8 คน ซึ่งมีตัวแทนองค์กรเอกชนและตัวแทนสภาองค์กรชุมนุมของกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วยเช่นกัน โดยภายหลังปิดรับสมัครจะต้องคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือ 16 คน ภายใน 3 วัน โดยวิธีลงคะแนนลับ จากนั้นให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก เสนอต่อเลขาธิการ กกต. ภายใน 15 วัน ก่อนเสนอให้ คณะกรรมการ กกต. คัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดละ 8 คน โดยในช่วงที่มีการเลือกตั้ง กกต. จะคัดผู้ตรวจการเลือกตั้งตามจำนวนที่กำหนดจากเขตเลือกตั้งแต่ละจังหวัด โดยจังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งไม่เกิน 5 เขต 5 คน จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 6 - 8 เขต 6 คน จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้ง 9 - 11 เขต 7 คน และ จังหวัดที่มีเขตเลือกตั้งตั้งแต่ 12 เขตขึ้นไป 8 คน โดยในจำนวนดังกล่าวต้องมีผู้ตรวจการการเลือกตั้งประจำจังหวัดที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่จะแต่งตั้ง 2 คน นอกนั้นเป็นผู้ที่ไม่มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่จะแต่งตั้ง โดยรายชื่อที่แต่งตั้งจะมาจากการจับสลาก
ขณะที่คุณสมบัติผู้ตรวจการเลือกตั้งที่น่าสนใจ อาทิ ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันสมัคร มีความเป็นกลางทางการเมือง ต้องไม่เป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนประจำ หรือพนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ที่ปรึกษาของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดในเวลา 5 ปี ก่อนการแต่งตั้ง โดยมีเวลาดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งแต่งตั้ง โดยไม่ช้ากว่า 15 วัน แต่ไม่เร็วกว่า 30 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด ทั้งนี้ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หาก กกต. พบเห็นการกระทำที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งซึ่งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดมีส่วนเกี่ยวข้อง กกต. สามารถมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ นอกจากนั้น ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดสามารถสรรหาและแต่งตั้งผู้ช่วยปฏิบัติงานให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้ 1 คน ต่อ 1 ตำแหน่ง โดยผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดมีค่าตอบแทน 50,000 บาทต่อเดือน ที่ปฏิบัติหน้าที่ ค่าเบี้ยเลี้ยง 400 บาทต่อวัน ค่าที่พัก 1,500 บาทต่อวัน ค่าพาหนะ 1,000 บาทต่อวัน ส่วนผู้ตรวจการเลือกตั้งในจังหวัด สงขลา ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส จะได้ค่าเสี่ยงภัยเพิ่ม 3,750 - 5,000 บาทต่อเดือน