“มาร์ค” ลั่น ปชป.ไม่ดิ้นรนจับมือกับใคร ยืนยันอุดมการณ์ “เสรีนิยมประชาธิปไตย” ย้ำหากแนวทางไม่ตรงกันก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ย้อน 4 ปีก่อนเคยพูดถึงนักการเมืองแบบไหน แต่วันนี้เปลี่ยนไปกลับเสนอตำแหน่งให้มากผิดปกติ
วันนี้ (26 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ดูเหมือนคนในรัฐบาลประกาศแล้วว่าคิดถึงเรื่องของการจะตั้งพรรคการเมือง หรืออะไรทำไป แต่ที่ตนท้วงไม่ได้พูดในแง่ที่ว่าเป็นพรรคการเมือง แต่พูดในแง่ที่ว่าระบบการเมืองแบบไหนที่เราต้องการ ถ้าเราพยายามจะบอกว่าปัญหาการเมืองในอดีตไม่อยากกลับไปที่เดิม เราก็ต้องไปดูว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่เป็นที่มาของวิกฤตทางการเมือง ปัญหาคือถ้าเราไม่เริ่มต้นด้วยการตั้ง หรือการแข่งขันทางการเมืองที่สุจริต เที่ยงธรรม สุดท้ายก็ไปไม่ได้ จะเกิดความขัดแย้ง เกิดการไม่ยอมรับ ขาดความศรัทธาในกระบวนการทางการเมือง
“เพราะฉะนั้นตอนนี้ที่หลายคนพูด ที่ใช้คำว่าดูด มันก็คือกลับไปเรื่องเดิมว่าในยุคหนึ่งสมัยหนึ่งมีความพยายามรวบรวมนักการเมืองด้วยการเสนอผลประโยชน์ จะเป็นในรูปแบบของเงินทอง ตำแหน่ง เอาอำนาจของรัฐมาใช้ในการต่อรอง เป็นบ่อเกิดของการเมืองที่ไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม สุดท้ายก็จะเป็นวิกฤติทางการเมือง เพราะฉะนั้นรัฐบาลมีภาระหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และ คสช. ในฐานะที่ประกาศตัวเข้ามาว่าจะทำการเมืองให้ดีขึ้นนี้ ไม่ควรที่จะมีพฤติกรรมไปตอกย้ำปัญหา การเมืองที่ล้มเหลวในอดีต” เขาระบุ
ส่วนที่หลายคนที่เข้าข้างรัฐบาลบอกว่าอย่าพูดถึงขนาดที่เรียกว่าดูด แต่เป็นการเอาคนที่เห็นพ้องต้องกันเรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองมารวบรวมกัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนว่าคนที่ทำอยู่ก็รู้อยู่แก่ใจ สิ่งที่ใช้พูดจะใช้คำว่าต่อรอง ก็คงไม่ผิด ก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่ามีการแลกเปลี่ยน เป็นข้อเสนอหรืออะไร ถ้าบอกว่ากระบวนการทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการทำงานการบริหารราชการแผ่นดินตามปกติ ตนก็ถามว่ามันแปลกหรือไม่ เกือบ 4 ปีที่ผ่านมาก็เห็นคัดเลือกคนส่วนใหญ่เหมือนกับพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนักการเมือง ความจริงวันนี้ท่านจะพูดอะไรก็ตาม แต่ในอดีตที่ผ่านมาเกือบ 4 ปี ท่านพูดถึงนักการเมืองอย่างไร ทำไมวันนี้อยู่ดีๆ กลายเป็นว่าต่อไปนี้มีการมานำเสนอตำแหน่งทางการเมืองให้กับนักการเมือง เยอะผิดปกติ ไม่เหมือนกับ 4 ปีที่ผ่านมา จะอธิบายอย่างไร หากเป็นเรื่องของอุดมการณ์ ก็ทำเลยตนไม่มีปัญหา
ส่วนอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์จะก้าวไปเป็นอย่างไรต่อในการเมืองที่จะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้มีคนที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาอยู่ในพรรคฯ มีการพูดคุยกันในเรื่องของจุดยืน นโยบายในเรื่องต่างๆ เราค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่า แนวทางของเรา ถ้าดูตามสากล อุดมการณ์เราคือเสรีนิยมประชาธิปไตย คือประชาธิปไตยที่ไม่ได้พูดแค่ว่าเลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องการเคารพเสียงข้างน้อย ยอมรับการตรวจสอบถ่วงดุล แนวทางนี้ก็จะต้องแปรไปสู่นโยบายในด้านต่างๆ หรือหลักคิดในด้านต่างๆ
“วันนี้ชัดเจนว่าหลักของเสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งเริ่มต้นจากการที่ทุกคนต้องมีสิทธิมีเสียง เป็นเจ้าของประเทศ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องไปดิ้นรนจับมือกับใคร ถ้าพรรคมีความเห็นว่าจะทำงานกับใครแล้ว ไม่ตรงกับอุดมการณ์ นำพาบ้านเมืองไปผิดทิศผิดทาง พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ตรงนี้อาจจะเป็นความไม่เข้าใจ เพราะบางพรรคเขาไม่สามารถที่จะอยู่เป็นฝ่ายตรวจสอบได้ ก็ต้องดิ้นรนในการที่จะเข้าหาอำนาจ เพราะฉะนั้นคงมาตีความสิ่งที่ตนพูดไม่ได้ เพราะกรอบความคิดไม่ตรงกัน” นายอภิสิทธิ์กล่าว