“มีชัย” ชี้ออก ม.44 ระงับสรรหา เหตุกฎหมาย กสทช.มีปัญหา เผยเสนอแนวคิดแก้ 3 วาระรวด แต่ที่ประชุม คสช.ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเกรงว่าไม่ทันเวลา ปัดนายกฯ มีเอี่ยวล้มกระดาน
วันนี้ (25 เม.ย.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2561 ว่าด้วยการยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าที่ประชุม คสช.ได้ระบุถึงปัญหาที่เกิดกับกระบวนการสรรหา และจำเป็นต้องแก้ไข พ.ร.บ.กสทช.(ฉบับที่ 2) ใน 2 ประเด็น ส่วนรายละเอียดของบทบัญญัติที่จะแก้ไข ตนไม่ทราบ ขอให้สอบถามกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ทั้งนี้เข้าใจว่ากระบวนการแก้ไขกฎหมายนั้น ต้องให้ กสทช.ปรับแก้ ก่อนส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาตามกระบวนการ
“ตาม พ.ร.บ.กสทช.ระบุว่า เมื่อกระบวนการสรรหาต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ต้องทำให้เสร็จภายใน 30 วัน หากไม่ระงับการสรรหาไว้ก่อน ปัญหาอาจจะเกิดซ้ำได้ และการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอาจจะแก้ไขไม่ทัน แม้ผมจะเสนอในวงประชุม คสช.ว่าให้ใช้การพิจารณาแบบ 3 วาระรวด เขาบอกอาจจะไม่ทัน เขาจึงใช้คำสั่ง มาตรา 44 ออกมาเป็นแนวทางให้ระงับไว้ก่อน” นายมีชัยระบุ
ส่วนประเด็นคลิปเสียง นายกฯ ไม่ยอมรับกับบัญชี กสทช.ที่ถูกเสนอนั้น เห็นว่าเป็นการอ้างถึงนายกฯ เท่านั้น และนายกฯ ก็ปฏิเสธแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งไม่เกี่ยวกับ คสช. เพราะ คสช.มีหน้าที่แก้ปัญหาที่ ครม.เสนอมา
อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาที่ตนได้ยินจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า เป็นส่วนของการแปลความบทบัญญัติของคุณสมบัติ หรือรายละเอียดของบุคคลที่มีสิทธิเข้ารับการสรรหา ที่ตีความต่างไปจากบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อกำหนดให้บุคคลที่เคยทำหน้าที่ตำแหน่ง อธิบดีหรือเทียบเท่าสามารถเข้ารับสมัครได้ แต่กรรมการสรรหา ตีความว่า ต้องเป็นตำแหน่งขององค์กรนิติบุคคล ทั้งที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนุญไม่ได้ระบุว่าให้เป็นนิติบุคคลหรือไม่ ขณะที่ประเด็นที่ สนช.อภิปรายในที่ประชุมต่อจำนวนบุคคลที่เสนอชื่อให้ สนช.ลงมติ ที่ต้องเสนอจำนวน 14 คน แบ่งเป็นด้านละ 2 คน แต่พบมีผู้ที่คุณสมบัติไม่ครบและมีลักษณะต้องห้ามทำให้จำนวนที่เสนอไม่ครบจึงตีกลับบัญชีรายชื่อ เพราะไม่มีตัวเลือก ทั้งนี้ตามหลักการตนไม่ทราบว่าสามารถแก้ไขกฎหมายกสทช.เพื่อปลดล็อคให้ส่วนที่ไม่มีปัญหาเดินหน้าไปก่อนได้หรือไม่
นายมีชัยปฏิเสธที่จะให้คำตอบต่อการแก้ปัญหากระบวนการสรรหา ที่มาจากการแปลความของบทบัญญัติกฎหมาย ด้วยการออกประกาศกรรมการสรรหา กสทช.ได้หรือไม่ แต่เชื่อว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ในฐานะกรรมการสรรหา กสทช. ควรจะนำประเด็นที่ สนช.อภิปรายไปพิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจกับการสรรหาให้ชัดเจน หรือสอบถามมายังผู้ร่างรัฐธรรมนูญถึงการแปลความหมายก่อนกำหนดรายละเอียดคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้ารับสมัครก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
“จริงๆ การสรรหาไม่ได้พิสดารอะไร และเรื่องที่เกิดขึ้นจะไปโทษกรรมการสรรหาจนถึงขั้นเปลี่ยนตัวกรรมการไม่ได้ เพราะตามวิธีการของการให้ได้มาซึ่งกรรมการองค์กรอิสระทุกองค์กร สามารถใช้แมวมองเพื่อทาบทามบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเข้ามาสู่กระบวนการคัดเลือกได้ แต่ตอนนี้ที่เขาไม่ใช้ คงเป็นเพราะกังวลว่าจะถูกมองว่าเป็นคนของคนนั้นคนนี้”