อดีตโฆษก พธม. ระบุ คสช. มีสิทธิตั้งพรรค แต่รูปแบบวิธีการต้องสร้างความหวัง แนะดูบทเรียนการดูด ส.ส. ในอดีต เป็นส่วนหนึ่งการเมืองที่ล้มเหลว
วันนี้ (22 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงการดูด ส.ส. กลุ่มต่างๆ เพื่อตั้งพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ว่า แม้กลายเป็นเรื่องปกติในวิถีการเมืองไทยที่ทำกันมาแทบทุกยุคสมัย เพื่อช่วงชิงอำนาจการเมือง แต่ก็ไม่ควรมองข้ามบทเรียนในอดีตที่มักจะเป็นแค่พรรคเฉพาะกิจ อาจประสบความสำเร็จในช่วงสั้นๆ แต่ระยะยาวก็ล้มเหลว ฉะนั้น พรรคที่จะตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุน คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องศึกษาบทเรียนจากในอดีต ที่สำคัญ ถ้าตั้งธงจะปฏิรูปประเทศกันหลังเลือกตั้ง หรือสานต่องานปฏิรูปที่รัฐบาลชุดนี้คิดว่าได้วางไว้ ก็ต้องทำให้โครงสร้างของพรรค หรือการจัดขั้วอำนาจ เพื่อรองรับรัฐบาลหลังเลือกตั้งให้ความหวังกับประชาชนได้มากกว่าวิธีแบบนี้
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า บรรยากาศการดูดและกวาดต้อน ส.ส. สะท้อนสมการอำนาจที่ยังไม่เปลี่ยน ยังวนอยู่ในกับดักเดิม ซึ่งอาจจะส่งผลให้การเลือกตั้งไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศจะดีขึ้นในเงื่อนไขสถานการณ์การเมืองแบบนี้พรรคที่ คสช. สนับสนุนน่าจะมีความได้เปรียบกว่าทุกพรรค แต่การส่งสัญญาณดูด ส.ส. แบบนี้ อาจจะกระทบภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือได้ เพราะประชาชนมองว่าเป็นวิธีเก่าๆ และเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเมืองที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของประชาชนต่อพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่ที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลนั้น คงไม่มีใครอยากเห็นแต่ภาพนักการเมืองหน้าเดิมๆ สลับหน้ากันอยู่ในกลุ่มและเครือข่ายเก่าๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเมืองล้มเหลว
“ถ้า คสช. คิดจะตั้งพรรค ก็ต้องยอมรับว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่จะทำพรรคทั้งที่ก็ควรมีอะไรใหม่ๆ มาเสนอประชาชนด้วย เพราะเดิมพันในสนามเลือกตั้งอาจไม่ง่ายอย่างที่คิดและอาจยากกว่าการทำรัฐประหาร” นายสุริยะใส กล่าว