อดีตโฆษก พธม.ชี้คดีฆ่าเสือดำ-หวย 30 ล้าน ตอกย้ำวิกฤตกระบวนการสอบสวน เตือนไล่ฟ้องประชาชนไม่แก้ปัญหา ห่วงตำรวจชั้นผู้น้อยทำงานลำบากขึ้นกว่าเดิม
วันนี้ (11 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีคดีฆ่าเสือดำ และลอตเตอรี่ 30 ล้าน ที่สังคมกำลังคลางแคลงใจในการทำหน้าที่ของตำรวจฝ่ายสอบสวนว่าน่าเชื่อถือและเอนเอียงหรือไม่ จนกระทั่งมีการเคลื่อนไหวให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนและดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยนั้นว่า ทั้ง 2 กรณีตอกย้ำถึงวิกฤติกระบวนการสอบสวนที่ขาดความน่าเขื่อถือ ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและสังคม และยังส่งผลต่อองค์กรอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ในฐานะที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม เป็นวิกฤตที่จะเพิกเฉยหรือปล่อยให้เป็นเรื่องตัวบุคคลหรือฟ้องร้องกล่าวหากันไปมา จะไม่ได้ข้อยุติในระยะยาว ที่สำคัญเมื่อมีกรณีใหม่เข้ามาก็จะเกิดปัญหาในลักษณะแบบนี้ซ้ำๆ ซากๆ ขึ้นมาอีก บางทีก็ใช้วิธีเล่นงานตำรวจชั้นผู้น้อยเพื่อดับกระแสก็เคยมี
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า ถ้ายังไม่ไปแก้ที่ต้นเหตุคือปฏิรูปงานสอบสวนของ สตช. แยกออกมาใ้ห้เป็นอิสระจากอำนาจเด็ดขาดของ สตช. และบูรณาการหน่วยงานอื่นเข้ามาถ่วงดุลและมีส่วนร่วมมากกว่านี้ วิกฤติในกระบวนการสอบสวนจะหนักหน่วงขึ้น มันป่วยการที่ ผบ.ตร.หรือฝ่ายการเมืองจะออกมาปกป้องหรือค้ำประกันว่าตำรวจคนนั้นคนนี้ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ และรวมถึงการฟ้องร้องประชาชนที่ออกมาเคลื่นไหวก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซ้ำร้ายยิ่งจะทำให้ประชาชนคลางแคลงใจมากขึ้น แม้ท่านจะมีสิทธิปกป้องชื่อเสียงตัวเอง แต่วิธีแบบนี้จะยิ่งทำให้ตำรวจและพนักงานสอบสวนชั้นผู้น้อยซึ่งเป็นคนทำงานต้องอึดอัดมากขึ้นทำงานยากมากขึ้นเพราะวิกฤติศรัทธาของประชาชน
“2 เหตุการณ์ถือเป็นกรณีศึกษาที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจฯ ชุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ต้องคิดแก้ปัญหา ถ้าไม่ทำไม่กล้าเสนอก็ถือว่าการปฏิรูปตำรวจล้มเหลวและคาดหวังไม่ได้ในรัฐบาลชุดนี้” นายสุริยะใสกล่าว