สนช.ดาหน้าออกโรง ถึงคิว “สมชาย” ยันคลิปเสียงอ้างใบสั่ง “ประยุทธ์” คว่ำเลือก กสทช.ไม่ใช่วิป สนช.100% มองไม่เห็นความจำเป็นที่นายกฯ ต้องสั่ง เพราะขัดคุณสมบัติตั้งแต่ต้น ชี้เลือกเฉพาะคนไม่ขาดคุณสมบัติในแต่ละด้านไม่ได้ เพราะ กม.ให้เลือกจากชื่อที่มีอยู่สองเท่า
วันนี้ (20 เม.ย.) นายสมชาย แสวงการ เลขานุการกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการประชุมของวิป สนช. โดยเนื้อหาช่วงหนึ่งมีการพูดถึงการโหวตคว่ำบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ทั้ง 14 คน โดยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ไม่พอใจบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ 8 คนจาก 14 คนว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงในการประชุมวิป สนช. 100% เพราะไม่มีการพูดในทำนองอย่างในคลิป และในการประชุมวิป สนช.ในวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นการพูดกันในเรื่องข้อกฎหมายของรายงาน 3 ฉบับ อีกทั้งในการประชุมลับก็พูดกันแต่เรื่องของข้อกฎหมายว่าเมื่อมีปัญหาการดำเนินการนั้นจะทำอย่างไรในข้อกฎหมายแต่ละข้อ และไม่มีการเอ่ยชื่อบุคคลตามที่มีในคลิปด้วย
นายสมชายกล่าวอีกว่า อาจจะเป็นการพูดของบุคคลซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นสมาชิกสนช.หรือไม่ หรืออาจจะเป็นคนอื่นที่มาพูดคุยกับสมาชิก สนช.ตามโต๊ะกาแฟก็ได้ ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนกันว่าคืออะไร ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่ามีความจำเป็นอะไรที่นายกฯ จะสั่งการว่าชอบหรือไม่ชอบคนไหน เพราะผู้สมัครทั้ง 14 คนนั้น ที่เราเถียงกันในวิป สนช.2 ชั่วโมง และในการประชุมลับ 5 ชั่วโมง เพราะมีปัญหาเรื่องของคุณสมบัติ เพราะบางคนเคยเป็นพนักงาน ผู้บริหาร หรือถือหุ้นบริษัทเกี่ยวกับกิจการวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งศาลปกครองกลางเคยวินิจฉัยมาแล้วว่า การจดทะเบียนบริคนห์สนธิไว้กับกรมธุรกิจการค้านั้นขัดคุณสมบัติ ซึ่งบังเอิญอีกว่า คนที่ขัดคุณสมบัตินั้นอยู่ในเกือบทุกด้าน ดังนั้น ปัญหาคือหากจะโหวตกฎหมายเขียนให้เอาผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด ก็เท่ากับว่าถ้าเราโหวตเอาคนที่ไม่มีปัญหาในแต่ละด้าน ก็เหมือนกับเราบล็อกโหวตตัวเอง คนที่ไม่ขัดคุณสมบัติก็จะนอนมา ทั้งๆ ที่กฎหมายบอกว่าต้องส่งบัญชีรายชื่อมาให้เลือกเป็นจำนวน 2 เท่าในแต่ละด้าน
“เมื่อตกลงกันไม่ได้ จึงต้องขอมติจากที่ประชุมสนช.ว่าจะเลือกแบบไหน ทิ้งทั้งบัญชีแล้วให้กรรมการสรรหามาใหม่ โดยผู้สมัครก็ยังมาสมัครใหม่ได้ หรือถ้าจะโหวตก็ต้องยอมรับว่าเราอาจจะได้ กสทช.5 เสียง หรือ 10 เสียงก็ได้ ยืนยันว่าผมไม่ได้รับคำสั่งใดๆ และเชื่อว่าไม่มีใครได้รับคำสั่งด้วย เพราะนายกฯ เองต่อให้ไม่ชอบแล้วสั่งเราก็ทำไม่ได้ หรือหากนายกฯ ชอบแล้วสั่งให้เอาเราก็ทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มันขัดคุณสมบัติในตัวมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว” นายสมชายกล่าว