รองประธาน สนช.โยน กก.สรรหาวินิจฉัยผู้สมัคร กสทช.ที่ถูกคว่ำกลับมาสมัครใหม่ได้หรือไม่ ยันล้มกระดานเพื่อความถูกต้อง แม้ กม.ไม่ให้อำนาจ ชี้ต้องตัดไฟแต่ต้นลมป้องกันปัญหา ป้องนายกฯ ที่ถูกคลิปอ้างอิง ยันไม่มีการชี้นำ
วันนี้ (20 เม.ย.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เปิดเผยว่า เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติไม่เลือกผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ตามขั้นตอนจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาในการเปิดรับสมัครและเสนอบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหามาให้ สนช.คัดเลือกอีกครั้ง ส่วนผู้ผ่านการสรรหาทั้ง 14 คนที่ สนช.มีมติไม่เลือกนั้นจะสามารถกลับมาสมัครเป็น กสทช.ใหม่ได้อีกหรือไม่ ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาที่จะวินิจฉัยต่อไป
นายสุรชัยกล่าวว่า การประชุมสนช.ที่พิจารณาเรื่องดังกล่าวได้ตรวจสอบอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะปัญหาในข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งเห็นว่าการตีความกฎหมายไม่ควรตีความตามตัวอักษรอย่างเดียว เพราะอาจทำให้เกิดการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อบังคับให้ สนช.ต้องเดินหน้าเลือก กสทช.ทั้งที่มีปัญหา
รองประธาน สนช.กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีของคลิปเสียงที่มีการอ้างว่าเป็นการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สนช. (วิป สนช.) ส่วนตัวยืนยันว่าการประชุมวิป สนช.ครั้งล่าสุดไม่ได้มีการพูดเรื่องนี้ เพราะตนเองก็ได้อยู่ในที่ประชุมวิปสนช.ด้วย ในเรื่องนี้ได้หารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้ในคลิปเสียงจะมีการพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้ามาชี้นำการทำงานของ สนช. เพราะ สนช.พิจารณาทุกเรื่องบนผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ
เมื่อถามว่า การที่ สนช.มีมติไม่เลือกบัญชีรายชื่อ กสทช.จำนวน 14 คน โดยอ้างว่ามีผู้ผ่านการสรรหาบางคนขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย จะเท่ากับว่า สนช.มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติของบุคคลหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า สนช.ไม่ได้มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติของบุคคล แต่การที่มีมติไม่เลือก กสทช.เพราะมีข้อมูลที่เกี่ยวโยงกับคุณสมบัติของบุคคลที่มีผลตามกฎหมาย คือ เมื่อมีบุคคลที่อาจมีคุณสมบัติไม่ครบแล้วอาจทำให้การเสนอบัญชีรายชื่อ กสทช.แต่ละด้านของคณะกรรมการสรรหาจะเป็นจำนวน 2 เท่าตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น สนช.จึงต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวก่อน
นายสุรชัยกล่าวว่า แม้ สนช.จะไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ถ้ามีข้อมูลมาเข้ามาแล้ว หาก สนช.จะไม่สนใจเลยและเรื่องไปถึงศาลก็อาจเป็นปัญหาได้อีก และก็จะมาวิจารณ์ สนช.ได้อีกว่าเมื่อมีข้อมูลทำไมไม่แก้ไขปัญหา และคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่สมควรได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช.ได้รายงานต่อที่ประชุม สนช.ว่าผู้ผ่านการสรรหา กสทช.มีปัญหาทุกด้าน
ด้าน พล.อ.อู้ด เบื้องบน สมาชิก สนช.ในฐานะอดีตประธานะคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติฯ กล่าวว่า คลิปเสียงที่ออกมานั้นส่วนตัวไม่รู้ ไม่ใช่เสียงตนเอง และเรื่องคัดเลือก กสทช.ได้ผ่านสภาไปแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องของคณะกรรมการสรรหา เพราะสภาได้ทำตามกำหนด 30 วันแล้ว