นายทะเบียนพรรคการเมือง เผยออกหนังสือแจ้งจัดตั้งพรรคเพิ่มอีก 5 พรรคการเมืองแล้ว มีพลังธรรมใหม่-ประชาชนปฏิรูปร่วมด้วย ขณะที่เรียก 33 พรรคแก้ไข หลังพบเอกสารหลักฐานไม่ครบ-ชื่อย่อซ้ำพรรคเก่า-ไม่มีภาพเครื่องหมายพรรค
วันนี้ (4 เม.ย.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต. ในฐานะรักษาการนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณารับรองคำขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่ได้เริ่มยื่นขอจดจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ข้อมูล ณ วันที่ 3 เม.ย.มีกลุ่มการเมืองมายื่นขอจดจัดตั้งแล้ว 98 พรรคการเมือง ทางสำนักงานก็จะได้มีการตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน คุณสมบัติของผู้ยื่นขอจดจัดตั้ง โดยในกลุ่มการเมืองที่ยื่นขอจดจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 มี.ค.รวม 42 กลุ่มการเมืองนั้น วันนี้ (4 เม.ย.) นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง (แบบ พ.ก.7/2)ให้เพิ่มกับอีก 5 พรรคการเมือง คือ พรรคพลังชาติไทย ที่นางกิ่งฟ้า อรพันธ์ เป็นผู้ยื่นคำขอ, พรรคเครือข่ายประชาชนไทย ที่นายธนานินทร์ ชะฎาแก้ว เป็นผู้ยื่นคำขอ, พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่นายสุภดิช อากาศฤกษ์ เป็นผู้ยื่นคำขอ, พรรคพลังธรรมใหม่ ที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล เป็นผู้ยื่นคำขอ และพรรคประชาชนปฏิรูป ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่นายธนพัฒน์ สุขเกษม เป็นผู้ยื่นคำขอ จากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกหนังสือรับแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองให้แก่ 4 พรรคการเมืองไปแล้ว คือ พรรคทางเลือกใหม่, พรรคกรีน, พรรคประชานิยม และพรรคพลังสยาม รวมจนถึงขณะนี้นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมืองไปแล้ว 9 พรรคการเมือง โดยจากนี้ทั้ง 9 พรรคก็จะต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในเรื่องการหาสมาชิก 500 คน จัดให้มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และจัดประชุมจัดตั้งพรรคการเมืองของผู้ร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมือง โดยจะดำเนินการได้เมื่อได้รับหนังสืออนุญาตจาก คสช.
ทั้งนี้ รักษาการนายทะเบียนพรรคการเมืองยังกล่าวอีกว่า ส่วนอีก 33 พรรคการเมืองที่เหลือจากยื่นจดจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 มี.ค.นายทะเบียนฯ ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้ยื่นขอจดจัดตั้งแล้วพบว่าเบื้องต้นทั้งหมดมีปัญหาในเรื่องของเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน เช่น ชื่อตัวย่อของพรรคซ้ำกับพรรคที่ดำเนินกิจการอยู่ หรือซ้ำกับพรรคที่ถูกยุบไปแล้วยังไม่ถึง 20 ปี ไม่ได้ส่งภาพเครื่องหมายพรรค กรอกเอกสารไม่สมบูรณ์ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้แจ้งขอจดจัดตั้งไม่ครบถ้วน จึงได้มีการประสานทั้งโดยวาจาและเอกสารไปยังกลุ่มการเมืองเหล่านี้เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขให้ครบถ้วนซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหา และคาดว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะสามารถออกหนังสือรับแจ้งให้ได้ในระยะต่อไป
ส่วนกลุ่มการเมืองที่ยื่นขอจดจัดตั้งหลังวันที่ 2 มี.ค.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม ที่ต้องมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดำเนินการ โดยจะพยายามเร่งรัดเพื่อที่นายทะเบียนพรรคการเมืองจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป