xs
xsm
sm
md
lg

“พรเพชร” แก้ต่างงบไอทีสภาพุ่ง เหตุราคาเปลี่ยน ลั่นยุคตนไร้โกง พร้อมฟังคำท้วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
ประธาน สนช.แจง อ้างงบไอทีสภาเพิ่มเหตุราคาเปลี่ยนจาก 5 ปีที่แล้ว ลั่นยุคตนไม่มีโกง-ไม่ล้วงลูก และยินดีรับฟังข้อท้วงติง เพื่อทำให้ทันสมัยขึ้นเป็นสมาร์ทปาเลียเมนต์ พร้อมสั่งตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปก่อนค่อยทำทีหลังเพราะรับผิดชอบไม่ไหว

วันนี้ (26 มี.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่ามีการเพิ่มงบไอทีในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะชี้แจงให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่สังคมสนใจและระแวง ในเบื้องต้นตนทราบว่างบไอทีเดิมรัฐสภาจะต้องมีงบประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องลงนามในสัญญาประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท จึงต้องตัดบางรายการออกไปก่อน ซึ่งรายการที่ตัดออกไปคือไอที จำนวน 3.5 พันล้านบาท และรายการอื่นๆ เช่น ระบบแอร์ปรับอากาศ แต่มาวันนี้สิ่งที่ตัดออกไปต้องใช้แล้ว ตนได้เร่งรัดโดยบอกกับผู้ดำเนินการว่าจะต้องส่งมอบรัฐสภาเก่าคืนสำนักพระราชวังโดยด่วน หากเป็นไปได้ก็คืนในปลายปีนี้ ซึ่งผู้ดำเนินการจึงของบที่ตัดออกไป 6 พันล้านบาท เพราะจำเป็นต้องทำ หากจะสร้างแต่อาคารแล้วมาติดตั้งระบบทีหลังก็จะยุ่ง แต่เมื่อมีการตั้งงบประมาณมาแล้วทำไมจึงกลายมาเป็น 8 พันล้านบาท ตนได้สอบถามไปได้รับการชี้แจงว่าระบบเมื่อ 5 ปีที่แล้วคนละราคากับปัจจุบัน และเป็นระบบที่ทันสมัยขึ้นราคากลางก็เปลี่ยนไป และจะทำเป็นสมาร์ทปาเลียเมนท์ (smart parliament) นอกจากนั้นยังมีส่วนอื่นๆอีกซึ่งยังไม่รวมที่จอดรถที่ทำไป 2 พันคัน แต่ต้องใช้ถึง 3 พันคันตามเทศบัญญัติ กทม. แต่ตนขอให้ทำแค่นี้ก่อนอย่าเพิ่งไปยุ่งนี่คือเหตุที่มาเพราะการจะของบได้หรือไม่ได้ต้องผ่านสำนักงบประมาณ ซึ่งทางสำนักงบต้องฟัง และสตง.ต้องดู

“ใครท้วงอะไรมาก็ตรวจสอบทุกอย่าง และยังบอกว่าถ้าสิ่งไหนยังไม่จำเป็นตอนนี้ขอให้สำนักงบประมาณตัดไปก่อน เอาแต่ที่จำเป็นเช่นจะติดตั้งระบบไอทีก็ต้องทำก่อนติดฝ้าเพดาน อะไรที่เติมทีหลังได้ เช่น แอร์ กับโรงรถก็ให้มาติดตั้งทีหลัง ผมรับผิดชอบไม่ไหวแล้ว ผมให้นโยบายไปอย่างนี้ เอาไปว่ากันทีหลังแค่นี้ก็หนักหนาแล้ว และผมประกาศไว้เลยว่าไม่ยอมให้มีการทุจริตเกิดขึ้น” นายพรเพชรกล่าว

เมื่อถามว่าการที่มีประเด็นคาใจอย่างนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของสภาเสียหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า ภาพลักษณ์ของตนไม่กระทบ ยังใช้ได้ เพราะอย่าลืมว่าทำสัญญา 900 วัน ตนมาดำรงตำแหน่งดำเนินการผ่านไปแล้ว 500 วัน ตนยังไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการทุจริตตนระวังไม่ให้เกิดขึ้นเพราะถือเป็นหน้าที่ว่าต้องดูแลสิ่งที่ทำและลงโทษไปเกิดขึ้นก่อนตนมาทั้งนั้น ไม่ว่าเรื่องนาฬิกา หรืออะไรที่เกิดขึ้นในสภา บางเรื่องยังสอบสวนไม่เสร็จก็ต้องเร่งรัด ส่วนงบที่ขอเพิ่มขึ้นก็มีการตรวจสอบอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติมา การที่นายวิลาศทักท้วงมาก็ขอขอบคุณที่ช่วยกันตรวจสอบ แต่คนที่ตรวจสอบหลักคือสำนักงบประมาณ และเมื่อเขาตรวจสอบแล้วอนุมัติออกมาเท่าไหร่มีการประมูลเกิดขึ้นก็ขอให้ช่วยกันตรวจสอบด้วย รับรองไม่มีเกี่ยวกับตน ตนเป็นประธานสภาไปล้วงลูกไม่ได้ ทุกวันนี้ตนก็ทำไปตนก็ได้แต่ดูและฟัง เมื่อมีข้อปัญหาก็จะเรียกมาไปก้าวก่ายไม่ได้ จะไปบอกว่าบริษัทนี้ให้ทำอย่างนี้อย่างนั้นไม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น