ประธาน สนช.เผย กสม.งดส่งตัวแทนร่วมนั่ง กก.สรรหา กกต.ชุดใหม่ เหตุหาคนไม่ได้ พร้อมวางกรอบทำงาน 70 วัน ชงเข้า สนช.เดือน พ.ค. เตรียมพีอาร์ชวนคนคุณสมบัติครบมาสมัครดีเดย์ 23 มี.ค.-9 เม.ย. ห่วง รธน.ใหม่วางสเปก “มหาเทพ” ทำได้คนยาก เผยส่วนใหญ่ ขรก.เกษียณสนใจสมัคร แต่ระดับบิ๊กเอกชนเมิน ยันยึดคุณสมบัติเป็นหลักงานนี้ไม่มีทาบทามใครพิเศษ
วันนี้ (19 มี.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่นัดแรกว่า คณะกรรมการสรรหาตกลงกรอบการทำงานจากเดิม 90 ให้ลดเหลือ 70 วัน โดยให้นับตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ดังนั้นจะสามารถส่งรายชื่อบุคคลที่ได้รับการสรรหาให้ สนช.พิจารณาได้ในเดือน พ.ค.ซึ่งอยู่ในวิสัยที่จะทำการสรรหาได้อย่างเป็นธรรม ตามกำหนดระยะเวลาพอสมควร แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็จะยังอยู่ในกรอบ 90 วัน
“ต้องเห็นใจกรรมการมาประชุมแต่ละครั้งได้เบี้ยประชุมครั้งละ 1,600 บาท และต้องผูกมัดอยู่ที่นี่ตลอดไป ดังนั้นก็ต้องนัดวันเวลาที่แน่นอนในวันที่กรรมการว่างและลงตัวกันหมดแล้วก็อยู่ในกรอบ 70 วัน โดยเราจะกำหนดประกาศวันรับสมัครผู้ที่จะเป็น กกต.ในวันที่ 26 มี.ค - 9 เม.ย.”
นายพรเพชรกล่าวต่อว่า ครั้งนี้มีเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ไม่ส่งตัวแทนมาร่วมเป็นคณะกรรมการสรรหา โดยแจ้งว่าหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการสรรหาไม่ได้ ส่วนองค์กรอิสระอื่นส่งครบ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจากครั้งที่ผ่านมาในที่ประชุมกรรมการสรรหามีการคุยกันเล็กน้อยเพราะเราตระหนักดีว่าต้องพยายามทำให้ชัดเจน เพราะคงไม่มีใครทราบถึงเหตุผลที่แท้จริง รวมทั้งกรรมการสรรหาที่มาใหม่ก็ตั้งใจที่จะทำงานเพราะต้องเสียสละมาก
นายพรเพชรกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการสรรหากกต.ชุดใหม่นี้ไม่มีการทาบทามให้ใครมาเป็น แต่จะเป็นการเชิญชวนให้บุคคลมาสมัคร เพราะกรรมการสรรหาควรจะดูจากบุคคลที่ได้รับการสรรหาก่อน ซึ่งลักษณะและคุณสมบัติของ กกต.มีหลายวงเล็บ แต่วงเล็บหนึ่งเท่านั้นที่เขาพูดกันว่ามหาเทพ คือ ข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับอธิบดี และต้องเป็นหัวหน้าส่วนราชการมาแล้ว 5 ปีขึ้นไป และอีกวงเล็บหนึ่งระบุว่าต้องเป็นศาสตราจารย์มาแล้ว 5 ปีขึ้นไป ส่วนที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดช่องให้บุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการเข้ามาในหลายองค์กร รวมทั้ง กกต.และผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรจึงไม่ค่อยมีผู้สมัครสายนี้เช่นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระแพทย์ นักบัญชี ทนายความ วิศวะ สถาปนิก เป็นต้น ซึ่งจะต้องทำงาน 20 ปี และต้องเป็นอาชีพที่มีสภาวิชาชีพ ส่วนใหญ่บุคคลเหล่านี้มีเยอะ แต่ไม่มีใครมาสมัครอาจะไม่รู้ หรือไม่อยากมาสมัคร และอีกประเภทคือผู้ที่อยู่ในภาคเอกชน เช่น ผู้บริหารบริษัทมหาชนจำกัด หรือซีอีโอ แต่ก็ไม่มีใครมาสมัคร นอกจากนั้นยังมีผู้ทำงานด้านประชาสังคม ด้านบริการสังคมต่างๆ ก็ไม่มีมาสมัคร ด้วยเหตุนี้ตนจึงมองเห็นว่าจะต้องทำการประชาสัมพันธ์ อาจจะต้องมีการจัดรายการเพื่อชี้แจงข้อมูลคุณสมบัติต่างๆ เพื่อให้บุคคลเหล่านี้มาสมัคร เพราะผู้ที่มาสมัครส่วนใหญ่อยู่ในภาคราชการเท่านั้น เช่น เวลาผู้ตรวจการแผ่นดินเปิดรับสมัครมีแต่อธิบดี ตำรวจ ทหารมาสมัครแล้วบอกว่าพวกนี้เป็นตัวเต็งเพราะเป็นคนดัง แต่ปรากฏว่าตกคุณสมบัติหมด ซึ่งเป็นบทเรียนที่เราจะต้องทำเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้แตกต่างในเรื่องคุณสมบัติ เพราะมีการพัฒนาเพื่อที่จะให้บุคคลในภาคอื่นๆ เข้ามาช่วยทำงาน
เมื่อถามว่าคณะกรรมการสรรหาจะรู้ใจ สนช.ได้อย่างไรเลือกมาแล้วอาจไม่ถูกใจเหมือนครั้งผ่านมา นายพรเพชรกล่าวว่าคณะกรรมการสรรหาเลือกตามคุณสมบัติ ไม่ได้เลือกเพราะต้องไปถาม สนช.ว่าจะเลือกใคร เนื่องจาก สนช.มีหน้าที่ตรวจเฉพาะความประพฤติ จริยธรรม พฤติกรรม ในส่วนของกรรมการสรรหาไม่มีเวลาพอ และไม่มีเครื่องมือที่จะไปตรวจ และหากเราตรวจสอบก็จะเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกัน ทั้งนี้ทางกรรมการสรรหาจะพยายามตรวจสอบคุณสมบัติให้เร็วที่สุด แม้จะลดเวลาลงแต่ก็จะทำให้มีประสิทธิภาพ โดยให้หน่วยงานต่างๆ เร่งแจ้งมา แม้ปัญหาจะอยู่ที่การตรวจสอบคุณสมบัติแต่เชื่อว่าหน่วยงานต่างๆ เคยชินแล้วว่าจะตรวจอย่างไรก็จะต้องเร่งรัดตรงนั้น โดยกรรมการสรรหาจะใช้กติกาเดิม โดยเชิญผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์แล้วกรรมการลงคะแนนเลือก เมื่อได้ครบ 5 คนก็จะส่งรายชื่อไปยัง สนช.
ส่วนจะได้ กกต.ชุดใหม่ทันการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือเลือกตั้งทั่วไปหรือไม่นั้น นายพรเพชรกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่ แต่ที่กรรมการสรรหาทำก็ได้เร่งดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาเป็นปัญหาความล่าช้าเพราะไม่ผ่านมติ สนช.และต้องมีการสรรหาใหม่ เมื่อมีการสรรหาใหม่ทุกคนก็เฝ้ารอว่า กกต.ชุดใหม่เมื่อไหร่จะทำหน้าที่ได้ คนก็มองว่าไปกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้ง ซึ่งไม่เกี่ยวกันเพราะ กกต.ชุดเก่าที่รักษาการอยู่สามารถทำหน้าที่ได้ แต่เมื่อมีความรู้สึกอย่างนั้นในสังคมทางกรรมการสรรหาจึงตระหนักดีว่าการสรรหา กกต.ชุดใหม่จะต้องพยายามทำให้สั้นที่สุด โดยไม่กระทบต่อการสรรหาคนที่เหมาะสมที่สุด