“หมอระวี” ผู้ก่อตั้งพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงคัดค้านการประมูลต่ออายุแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมเอราวัณ-บงกช เสนอใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตแทนแบบแบ่งปันผลผลิต ชี้รัฐจะได้ส่วนแบ่งถึง 90% ยัน พรรคเตรียมเสนอชื่อคนชิงเก้าอี้นายกฯ ไม่ก่อตั้งพรรคเพื่อสนับสนุน “บิ๊กตู่” แน่นอน
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย นพ.ระวี มาศฉมาดล ผู้ก่อตั้งพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงข่าวถึงการประมูลต่ออายุแหล่งสัมปทานปิโตรเลียม บงกช และเอราวัณ ของทางรัฐบาลว่า พรรคขอคัดค้าน TOR ของรัฐบาล เรื่องการประมูลต่ออายุแหล่งบงกชและเอราวัณ โดยขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข TOR ใหม่ให้เกิดประโยชน์ต่อชาติสูงสุดก่อนจะทำการประมูล เพราะทั้ง 2 แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเกือบ 70% ของประเทศ ที่มีอายุสัมปทานจะครบ 30 ปี แต่ยังแหล่งมีก๊าซธรรมชาติอื่นๆ ที่ยังสำรองที่ยังผลิตได้อีกนาน จึงต้องเริ่มประมูลหาผู้ผลิตต่อไป ทั้งนี้ ทางพรรคเสนอให้ภาครัฐต้องใช้ระบบสัญญาจ้างผลิต ที่รัฐจะไดส่วนแบ่ง 90% บริษัทผู้มาดำเนินผลิตต่อได้ 10% เหมือนประเทศอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่ ไม่ใช่มาใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตกลายพันธุ์ มาจากระบบสัมปทานเดิมที่รัฐจะได้รายได้เพียง 50% เท่านั้น ซึ่งเมื่อใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตก็สามารถดำเนินการติดมิเตอร์ที่ปากหลุมทุกหลุม ทำให้รู้จำนวนที่ผลิตไดจริงเป็นเรียลไทม์ (REAL TIME) ไม่สามารถ โกงประเทศได้อีกต่อไป
“การแถลงของทางรัฐบาลที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ชัดเจนว่าจะต้องเป็นเจ้าเก่าได้ทำต่อไป โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา ถึงขั้นแถลงจะต้องเจรจากับเจ้าของสัมปทานรายเก่าก่อน จึงจะสรุป TOR ได้ แบบนี้ยิ่งกว่า ข้อสอบรั่ว แต่เป็นการให้คู่แข่งมาร่วมออกข้อสอบด้วยเลย ดังนั้น พรรคพลังธรรมใหม่ขอเสนอให้ทางรัฐบาลแก้ไข TOR ใหม่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ ทำการเปิดประมูล หากรัฐบาลไม่กล้าดำเนินการไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พรรคขอเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการทำ TOR และการประมูลไปก่อน โดยขอให้รอหลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคพลังธรรมใหม่ร่วมกับประชาชนทั่วประเทศจะอาสาทำ TOR และดำเนินการประมูลใหม่มีความให้โปร่งใสเพื่อประเทศได้ผลประโยชน์สูงสุด รายได้อาจจะต่างกันปีละหลายหมื่นล้าน หรืออาจจะเกือบถึงแสนล้านก็เป็นไปได้” นพ.ระวีกล่าว
นอกจากนี้ นพ.ระวียังกล่าวถึงประเด็นที่พรรคพลังธรรมใหม่จัดตั้งเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นนายกฯ คนนอกนั้น ตนขอปฏิเสธการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยทางพรรคจะส่งสมาชิกของพรรคลงรับเลือกตั้งทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ และเมื่อพรรคได้คะแนนเสียงเกินกว่า 25 คะแนนในรัฐสภา พรรคก็จะเสนอรายชื่อทั้ง 3 รายชื่อจากคนของพรรคพลังธรรมใหม่เอง แต่หากพรรคไม่สามารถได้คะแนนเสียงเกิน 25 เสียง ทางพรรคก็จะเลือกคนดีมีคุณธรรมเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี โดยบุคคลนั้นอาจจะใช่หรือไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ พรรคพลังธรรมใหม่จะมีระบบเว็บไซต์เพื่อลงประชามติเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายรัฐมนตรีจากสมาชิกทั่วประเทศ เพื่อได้การตัดสินใจจากทุกคนในพรรค โดยในขณะนี้พรรคยังไม่ขอเปิดเผยว่าบุคคลที่จะมาชิงตำแหน่งนายกฯ ของพรรคพลังธรรมใหม่คือใคร เพราะยังเป็นช่วงเวลาที่เร็วเกินไป โดยหลังจากนี้อีก 2 เดือน พรรคจะมีการประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคจากนั้นก็จะมีการคัดเลือกบุคคลดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าพรรคพลังธรรมใหม่จัดตั้งเพื่อเป้าหมายการเป็นรัฐบาลเท่านั้นใช่หรือไม่ นพ.ระวีกล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่พร้อมที่จะเป็นพรรคฝ่ายค้าน หากเมื่อเข้าไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้วทางรัฐบาลมีกลิ่นการทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าพลังธรรมใหม่เตือนแล้วแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง พรรคพลังธรรมก็พร้อมที่จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมทันที ทั้งนี้ หากประชาชนอยากที่จะลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องพลังงานของชาติที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกคน ก็ขอให้ไว้ใจพรรคพลังธรรมใหม่ เพราะเราจะเข้าไปแก้ไขเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์แก่คนไทยอย่างแน่นอน