อดีต สปช.เผยยื่นหนังสือ คสช.ผ่าน กกต.ขอเปิดประชุมพรรค คาดเริ่มได้ปลายเดือนนี้ ยันรายชื่อชัดเจนมีบิ๊กทหารแจม พร้อมชูอุดมการณ์ 3 ข้อตั้งพรรค ย้ำ “ประยุทธ์” ยังเหมาะสมนั่งนายกฯ แม้คะแนนนิยมตก ด้วยคุณสมบัติและความสามารถ
วันนี้ (7 มี.ค.) เวลา 12.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป ตนได้ส่งหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 6 มี.ค.เพื่อขอเปิดประชุมพรรค คาดว่าปลายเดือน มี.ค.นี้จะสามารถจัดประชุมพรรคครั้งแรกได้ โดยรายชื่อและจำนวนกรรมการบริหารพรรค ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 10 จะต้องมีบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก นายทะเบียน รวมถึงกรรมการบริหาร ซึ่งทั้งหมดจะชัดเจนในวันที่ประชุมกันครั้งแรก ซึ่งกรรมการบริหารพรรคนั้นจะมาจากบุคคลหลายสาขาอาชีพ รวมถึงมีอดีตทหารยศพลเอกร่วมด้วย เพราะเราเป็นพรรคของประชาชน และทหารที่เกษียณแล้ว ก็คือประชาชนเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นหนึ่งในรายชื่อที่เลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ต้องรอให้พรรคได้ตั้งขึ้นก่อน และเมื่อชัดเจนแล้วสังคมคงจะสะท้อนว่า พรรคประชาชนปฏิรูปจะมีนโยบายอย่างไร ผู้บริหารเป็นอย่างไร และจะดำเนินการในแนวทางอย่างไร และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่อยู่ในฐานะที่เราเห็นว่ามีความซื่อสัตย์ มีความสามารถ เหมาะกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรายืนยันตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 59 วันนี้จุดยืนของตนและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคก็ยังเหมือนเดิม โดยเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเป็นไปได้ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
“แม้ตอนนี้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์จะตก แต่ผมว่าคนจะมองที่ความซื่อสัตย์สุจริต ถ้าเทียบแบบตัวต่อตัวแล้ว คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ดีกว่าทุกคนที่มีชื่อว่าจะเป็นนายกฯ คนต่อไป แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัจจัยที่เราจะเลือกหรือไม่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นเรื่องคุณสมบัติความสามารถ” นายไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ถ้าจะเลือกพรรคการเมืองก็จะดูที่นโยบาย นายไพบูลย์กล่าวว่า ต้องเรียนว่าอุดมการณ์พรรคประชาชนปฏิรูปมีอยู่ 3 ข้อ คือ 1. ปฏิรูปคณะสงฆ์ให้อยู่ในพระธรรมวินัย 2. ปฏิรูปพรรคการเมืองและนักการเมือง โดยให้มีระบบการตรวจสอบถ่วงดุลที่เหมาะสม เลือกนายกรัฐมนตรีด้วยระบบคุณธรรม ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความสามารถเช่น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นต้น และ 3. เพิ่มอำนาจให้ประชาชน โดยจัดตั้งสภาประชาชน มีระบบตรวจสอบอำนาจรัฐในทุกจังหวัด นอกจากนี้ นโยบายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจและสังคมจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
เมื่อถามว่า การที่เป็นพรรคการเมืองใหม่จะเสียเปรียบพรรคเก่าหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ให้ไปถามเขาดูว่าพรรคเก่าจำนวน ส.ส.จะลดลงเท่าใด ส่วนเราพรรคใหม่ที่ยังไม่เคยมี ส.ส. ก็ต้องคิดไปว่าจะมีเท่าไหร่ โดย ส.ส.บัญชีรายชื่อก็อยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกพรรคเราเท่าไหร่ ไม่ว่าจะแค่ไหนเราก็พอใจ แต่เชื่อว่ามีประชาชนที่มีอุดมการณ์ตรงกับเราเป็นจำนวนมาก