xs
xsm
sm
md
lg

เปิดร่างพัฒนา “เพชรสมุทรคีรี” ชง ครม.สัญจร 1.8 พันล้าน ดัน 425 ล้าน ผุดเขื่อนแก้น้ำทะเลกัดเซาะ ของบคุ้มครอง “วาฬบรูด้า” 19.7 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เปิดร่างแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 “เพชรสมุทรคีรี” ชง ครม.สัญจร ตามแผน 4 ปี 4 ยุทธศาสตร์ 13 โครงการ วงเงินรวม 1.8 พันล้าน ชูฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล 532 ล้าน ชงงบคุ้มครองสัตว์ทะเลประจำถิ่น “วาฬบรูด้า-โลมา-เต่า” 19.7 ล้าน ผุดเขื่อน 3 จังหวัดแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะฝั่งอ่าวไทยตะวันตก 425 ล้าน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมท่องเที่ยว การค้า 776 ล้าน สร้างต้นทุนทรัพยากรเกษตร 354 ล้าน เพิ่มประสิทธิภาพพืชเกษตร 117 ล้าน

วันนี้ (2 มี.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่ จ.สมุทรสาคร และจ.เพชรบุรี เและลงพื้นที่ตรวจราชการ ระหว่างวันที่ 5-6 มี.ค.นี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เตรียมเสนอร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (พ.ศ. 2561-2564) 4 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ต่อที่ประชุม ครม. ณ ห้องประชุมรอยัล ดุสิต บอลรูมเอ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้ ร่างดังกล่าวได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนา กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ให้เป็นฐานการผลิตและบริหารในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม อาหาร การท่องเที่ยว ที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนาของกลุ่มจังหวัด ประกอบด้วย 1. การฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำให้คงความสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน 2. การสรางมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตร อาหารและอุตสาหกรรมอย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน 3. ความเชื่อมโยงของการท่องเที่ยวและพื้นที่เศรษฐกิจให้ครอบคลุม และ 4. การป้องกันและแก้ไขปัญหาพื้นที่ชายฝั่งทะเลถูกกัดเซาะของกลุ่มจังหวัดภาคหลางตอนล่าง 2

สำหรับพันธกิจของร่างแผนพัฒนาฯนี้ ประกอบด้วย 1. การสร้างและฟื้นฟูทุนธรรมชาติและทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อเป็นการลงทุนทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว 2. เพิ่มผลผลิตด้านการเกษตร อาหารและส่งเสริมการท่องเที่ยว 3. พัฒนาสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารให้มีคุณภาพปลอดภัยและได้มาตรฐาน 4. สร้างความเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว พื้นที่เศรษฐกิจ และการค่าชายแดน และ 5. ลดความรุนแรงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

“ได้กำหนดเป้าประสงค์รวมไว้ว่า 1. โครงการพื้นฐานที่เชื่อมโยงสนับสนุนการค้าการลงทุนอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ 2. ทรัพยากรสัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้น 3. สินค้าเกษตร อาหารมีคุณภาพปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล 4. รายได้จากการท่องเที่ยว สินค้าบริการเพิ่มขึ้น 5. การจัดเซาะชายฝั่งทะเลที่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และ 6. สินค้าอุตสาหกรรมสามารถแข่งขันได้และมีมาตรฐานสากล”

มีรายงานว่า สำหรับโครงการในร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 วงเงิน 1,853,943,500 บาท ใน 4 ยุทธศาสตร์ 13 โครงการ ประกอบด้วย 1. ยุทธศาสตร์การสร้างต้นทุนทางทรัพยากรภาคการเกษตร (2561-2564) วงเงิน 354,947,000บาท เช่น โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตสัตว์น้ำ ของกลุ่มงานประมง วงเงิน 59,000,000 บาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรกรปลอดภัยและได้มาตรฐาน ของกลุ่มการเกษตร วงเงิน 41,297,000 บาท

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเกษตรในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ของกลุ่มการเกษตร วงเงิน 117,000,000 บาท โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและตรวจสอบผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยได้มาตรฐาน ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ของกลุ่มการเกษตร วงเงิน 68,650,000 บาท โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าปศุสัตว์ให้ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย (Food safety) และปลอดมลภาวะ (Zero waste Livestcoks) ของกลุ่มงานปศุสัตว์ วงเงิน 69,000,000 บาท

2. ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงการท่องเที่ยว การค้า และพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ของแขวงทางหลวงชนบทในกลุ่มจังหวัด วงเงิน 776,396,500 บาท ประกอบด้วย โครงการการพัฒนาเส้นทางเพื่อการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว วงเงิน 520,100,000 บาท (ปรับปรุงถนนลาดยาง บ้านหุบกระพง-หัวหิน-ชะอำ จ.เพชรบุรี 1.850 กม. วงเงิน 151,900,000 บาท ,ปรับปรุงถนนบ้านหนองหิน-หว้าโทน อ.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 133,600,000 บาท ,ปรับปรุงเส้นทางยกระดับผิวจราจร จาก 2 ช่องทางจราจร เป็น 4 ช่องทางจราจร (พร้อมช่องทางจักรยาน) สาย สค.4008 แยก ทล06423 -นิคมบ้านไร่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร วงเงิน 129,600,000 บาท) โครงการพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (จ.เพชรบุรี) วงเงิน 256,296,500 บาท

3. ยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงิน 532,200,000 บาท เช่น โครงการป้องกันและแก้ไขการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันตก ของสำนักงานโยธาธิการจังหวัดเพชรบุรี ประจวบฯ และสมุทรสาคร วงเงิน 425,000,000 บาท (ก่อสร้างแนวป้องกัน/เขื่อนป้องกันการกัดเซาะฯ 1.75 กม./เรียงหินใหญ่/ทางเดินสันเขื่อน/ปักไม้ชะลอคลื่น วงเงิน 411,500,000 บาท, ปรับภูมิทัศน์บริเวณหลังเขื่อนเพื่อปลูกป่าชายเลน (จ.เพชรบุรี) วงเงิน 10,000,000 บาท, การบริหารจัดการทรัพยากร เช่น สำรวจพื้นที่รวบรวมฐานข้อมูลการจัดเซาะฯ วงเงิน 2,380,000 บาท, สัมภาษณ์ประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาการกัดเซาะ วงเงิน 600,000 บาท, วิเคราะห์พร้อมกำหนดแนวทาง วงเงิน 520,000 บาท)

โครงการฟื้นฟูฐานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 วงเงิน 83,200,000 บาท (คุ้มครองทรัพยากรสัตว์ทะเลประจำถิ่น (วาฬบรูด้า โลมา และเต่า) วงเงิน 19,700,000 บาท, สนับสนุนชุมชนชายฝั่งจัดทำทุ่นแนวทางเขตอนุรักษ์ฯ วงเงิน 14,500,000 บาท, จัดงานวันทะเลโลก วงเงิน 8,000,000 บาท) โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง, 24,000,000 บาท

4. ยุทธศาสตร์การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรม (movation) และแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) อย่างยั่งยืน เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย (Cluster) อุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรสู่ตลาด AEC วงเงิน 158,400,000 บาท โครงการพัฒนาตลาดกลางออนไลน์ www.pssp.com (เพชรสมุทรคีรี.com) วงเงิน 16,000,000 บาท โครงการพัฒนาส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรสู่ระบบมาตรฐา วงเงิน 12,000,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น