xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.4 เผย OIC พอใจโครงการพาคนกลับบ้าน รับอยากดูใต้จนเกษียณ ยอมไม่เอา พล.อ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 (แฟ้มภาพ)
ผช.ผบ.ทบ.-มทภ.4 ร่วมเปิดงานกีฬา ทบ.ที่สงขลา เข้มงวดเรื่องความปลอดภัย เน้นทุกภาคส่วนเข้าร่วม เผยจัด 2 ปีซ้อนหลังทิ้งระยะมานาน ปีหน้าส่งทีมทหารหญิงแข่งขัน “ปิยวัฒน์” เผยมองตาโอไอซี พอใจ-มีความสุข หลังคุยผู้เห็นต่าง “โครงการพาคนกลับบ้าน” ชี้มีกลุ่มเดียวที่ยังป่วน จี้แก่แล้วยุติบทบาท รับอยากคุมใต้จนเกษียณ ยอมไม่เอาพลเอก

วันนี้ (28 ก.พ.) ที่กองทัพบก พลเอกวีรชัย อินทุโสภณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาภายในกองทัพบกครั้งที่ 68 ประจำปี 2561 โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน ร่วมแถลงข่าวทั้งนี้การแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 มีนาคม 2561 ที่สนามกีฬาพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีพิธีเปิดและปิดการแข่งขันที่สนามกีฬาจิระนคร อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และได้กำหนดให้ใช้ “วัวชน” เป็นสัญลักษณ์ในการแข่งขัน ตั้งชื่อว่า พลทหารโชคดี และอาสาสมัครทหารหญิง มีชัย

พล.ท.ปิยวัฒน์แถลงว่า ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 25 ปี ที่กองทัพภาคที่ 4 เป็นเจ้าภาพ ปีนี้ถือเป็นการซ้อมใหญ่ เพราะปีหน้าจะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง สำหรับที่ไม่ได้จัดการแข่งขันในภาคใต้มานานส่วนหนึ่งคงเป็นเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่ ครั้งนี้นับเป็นมิติใหม่ของกองทัพบกที่มีส่วนร่วมจากภาครัฐภาคเอกชน โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยอย่างเข้มงวดขึ้น เชื่อมั่นในการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่มีวิทยุเครื่องแดงกว่า 1,000 เครื่อง นอกจากนั้นจะมีการตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัยขึ้นที่ค่ายจิระนคร มีการเตรียมเฮลิคอปเตอร์สแตนด์บาย โรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล การจัดที่พักใกล้สนามซ้อม

เขาบอกว่าในปีหน้าจะมีการให้ทหารหญิงเข้าร่วมแข่งขัน เพราะขณะนี้มีทหารหญิงจำนวนมากขึ้นในทุกกองทัพภาค ซึ่งต้องมีกำหนดประเภทกีฬาอีกครั้ง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนแมวมองหานักกีฬาชั้นดีมาดูการแข่งขันครั้งนี้เพื่อหานักกีฬามือดีไปพัฒนาทีมชาติ ไม่ต้องใช้วิธีซื้อตัวนักกีฬาเหมือนเช่นที่ผ่านมา การแข่งขันครั้งนี้เราอยากให้เป็นกีฬาของประชาชน แม้ผู้เล่นจะเป็นทหาร แต่นักธุรกิจ นักการเมือง ฝ่ายปกครอง ก็มาร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ ผู้ฝึกสอน ในทุกประเภทกีฬา เป็นลักษณะกีฬาประชารัฐ

พล.ท.ปิยวัฒน์ยังกล่าวถึงกรณีที่องค์กรความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทางโอไอซี พอใจในโครงการพาคนกลับบ้าน ถ้ารัฐบาลไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้โอไอซีช่วยอะไรในโครงการนี้ก็จะช่วยทุกอย่าง เพราะเป็นนโยบายที่ดี เท่าที่ดูจากสายตาบ่งบอกถึงความพอใจ ความสุข และดีใจที่คนไทยรับผู้เห็นต่างเข้ามาในพื้นที่และดูแลอย่างดี โดยเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมาก สามารถทำให้สถานการณ์ยุติขึ้นโดยเร็ววัน มั่นคง และยาวนาน โดยมีผู้เห็นต่างเข้ามาร่วมโครงการรอบนี้ 96 คน และเดินทางกลับมาแล้วชุดแรก 288 คน ทั้งนี้ โอไอซีพูดกับคนเหล่านี้ว่าโครงการนี้ให้เริ่มชีวิตใหม่แล้ว ขอให้ช่วยประเทศไทย ผู้ที่เห็นต่างเขาก็พร้อมทำทุกอย่างในการพัฒนาประเทศไทย พร้อมกับรับปากว่าเขาจะช่วยบอกกับผู้ที่เห็นต่างที่เป็นมุสลิมให้กลับมา

แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำว่า ยังมีเพียงกลุ่มเดียวที่พยายามขยายอำนาจของตัวเอง ถ้าจะจบก็ขอให้คนกลุ่มนี้ยุติบทบาท และคิดว่าตัวเองแก่แล้ว ก็กลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานดีกว่า ให้คนรุ่นใหม่ที่ดีเข้ามา ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้ามาในวงจรอุบาทว์นั้น เพราะปัญหาเรื่องความยากจน เลยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะเป็นเครื่องมือของกลุ่มแรกที่มาข่มขู่ว่าถ้าไม่ทำต่อก็จะถูกจับติดคุก

สำหรับกรณีที่คณะพูดคุยสันติสุขบรรลุข้อตกลงเรื่องการตั้ง “เซฟเฮาส์” โดยจะตัวแทนของผู้เห็นต่างจากรัฐ ในนาม “มารา ปาตานี” ส่วนหนึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับต้องพักโทษชั่วคราวเพื่อมาร่วมกันทำงานนั้น พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนจะต้องให้รัฐบาลออกคำสั่งพิเศษหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องรัฐบาล ตนเป็นฝ่ายปฏิบัติ พูดได้แค่ว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย แม้กระทั่งโครงการพาคนกลับบ้านก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

“เชื่อว่าจะต้องไม่เกิดความลักลั่น เพราะถ้าใครเข้ามาก็ต้องเคลียร์เรื่องที่กระทำผิดข้อกฎหมาย ถ้ายังไม่เคลียร์ก็อย่าเข้ามา เพราะจะมีปัญหา ทุกคนต้องเข้ามาด้วยความยุติธรรม และความบริสุทธิ์ ถ้าจะก้าวเข้ามาเล่น ก็ต้องก้าวเข้ามาด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จะมีสิทธิพิเศษไม่ได้ ถ้ามีหมายจับก็ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย เพื่อให้เกิดความยุติธรรมเหมือนกันทุกภาคส่วน ใครจะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้” พล.ท.ปิยวัฒน์ระบุ

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ทางนั้นยังไม่ได้กำหนดพื้นที่ปลอดภัยมาชัดเจน แต่ทางกองทัพภาคที่ 4 ทำมาแล้วปีกว่า 14 อำเภอเป็นเซฟตี้โซนเหมือนกัน แต่ไม่บอกว่าเป็นอำเภอไหน บอกไปเดี๋ยวเกิดเรื่อง แต่ที่ผ่านมายังไม่เกิดเหตุรุนแรงเลย อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าไม่อยากเอ่ยชื่อกลุ่ม หรือขบวนการอะไร มีแต่คนนำชื่อสมาชิก แกนนำไปอ้าง มีสื่อชอบถามว่ากลุ่มไหน แต่การตอบของตนจะเป็นการผลักให้เขาเข้าป่า

พล.ท.ปิยวัฒน์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวจะอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 จนเกษียณอายุราชการว่า “อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาว่าจะให้อยู่หรือไม่ เราแต่งเครื่องแบบ ผู้บังคับบัญชาให้เราไปไหนเราก็ไป เราไม่มีสิทธิ์มีเสียง ให้จบภารกิจ เราก็จบ ให้อยู่ต่อก็อยู่ต่อ ถ้าถามผมว่าอยากอยู่ต่อหรือไม่ ผมก็อยากอยู่ต่อ อยากสานต่อให้จบ พลเอกใครๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าแลกกันระหว่างดูแลด้ามขวานผืนแผ่นดินไทยข้างล่าง ผมก็ขอดูแลข้างล่าง ขอจบภารกิจที่นั่นตอนเกษียณอายุราชการ”

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังบอกว่า สิ่งที่เราอยากเห็นคืออยากให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ มีงานทำ และกลับไปสู่ความสงบสุขเหมือนเดิม เมื่อก่อนนี้ปักษ์ใต้มีรอยยิ้มเวลาไปไหนมาไหน เพราะตนอยู่มาตั้งแต่เป็นร้อยตรี ตอนนี้ก็กำลังจะเป็นความจริงแล้ว โครงการพาคนกลับบ้านก็มีเสียงตอบรับ เราไม่ได้ดูเรื่องสถิติการก่อเหตุมากขึ้นหรือน้อยขึ้น แต่ดูเราประชาชนมีความสุขหรือไม่ สภาพทั่วไปประชาชนจับจ่ายใช้สอยได้ ร้านค้าประกอบธุรกิจได้ ที่สำคัญเด็กๆ มีการยกมือไหว้ แสดงว่ารุ่นใหม่ปฏิเสธความรุนแรง เป็นนิมิตหมายที่ดี คิดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น