“สมชัย” แนะตรวจสอบวิธีการจดจองชื่อพรรค รวมทั้งศึกษาข้อกฎหมายล่วงหน้าให้ดีก่อนมายื่นเรื่องที่ กกต.ในวันที่ 2 มี.ค. ชี้ชื่อยาวไปเสียเปรียบตอนพิมพ์บัตรเลือกตั้ง
วันนี้ (28 กพ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเปิดให้จดจองชื่อพรรคการเมืองที่จะเริ่มวันแรกในวันที่ 2 มี.ค.ที่สำนักงาน กกต.ว่า กกต.พยายามจัดระบบให้ทุกคนเต็มที่ ขอให้เป็นตามกรอบเวลา คือเวลา 07.30 น.จะเปิดเคาน์เตอร์ให้ยื่นเรื่อง
ทั้งนี้ อาจสงสัยว่าชื่อพรรคอย่างไรจะจดได้หรือไม่ได้ อยากให้ศึกษา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในเรื่องชื่อ ชื่อย่อพรรค ที่ต้องมีลักษณะ คือ 1. ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2. ไม่ซ้ำหรือพ้องกับ 69 พรรคที่มีอยู่ก่อนแล้ว หรือพรรคที่ถูกยุบไปไม่ถึง 20 ปี นับแต่วันที่ถูกยุบ 3. ไม่ซ้ำ พ้อง คล้ายคลึงกับพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ หรือพระนามของราชวงศ์ หรือมุ่งหมายให้หมายถึงพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม ชื่อทุกชื่อที่มาจดจอง กกต.จะรับไว้ก่อน ไม่ได้หมายความว่าชื่อนั้นจะรับรองหรือใช้ได้ทันที เพราะ กกต.จะมีคณะทำงานตรวจสอบข้อต้องห้าม หรือชื่อซ้ำกับพรรคอื่นหรือไม่ก่อนจะแจ้งกลับภายใน 30 วัน และหากซ้ำหรือมีลักษณะต้องห้ามจะให้แก้ไขภายใน 60 วัน ขณะนี้คาดว่าจะมีประมาณ ไม่เกิน 20 กลุ่มการเมือง เข้าจดจองชื่อพรรค
เมื่อถามว่าชื่อพรรคบางชื่ออาจซ้ำกับชื่อนโยบายหรือโครงการของรัฐบาล เช่น พรรคประชารัฐ ไทยนิยม จะตั้งเป็นชื่อพรรคได้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า พรรคประชารัฐน่าจะซ้ำกับพรรคที่เคยจดแจ้งไว้ ส่วนชื่ออื่นคณะทำงานพิจารณาจะตรวจสอบและตอบกลับภายหลัง ส่วนชื่อพรรคจะจำกัดความยาวหรือไม่นั้น เรารับชื่อไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบ แต่ส่วนตัวมองในเชิงเทคนิคชื่อยาวจะมีปัญหาในการพิมพ์ชื่อในบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ขนาดตัวอักษรเล็กกว่าพรรคอื่น อาจทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะกกต.ไม่สามารถพิมพ์ชื่อให้ขนาดตัวอักษรเท่ากันทุกพรรคได้ ขึ้นอยู่กับความสั้นยาวของชื่อพรรค