“รวิโชติ ธำรงนาวาสวัสดิ์” ผู้เชี่ยวชาญประจำ กกต. เผยกับ “MGR Online” ขอลาออกจากคณะอนุกรรมการสรรหาและตรวจสอบคุณสมบัติเลขาธิการ กกต. หลังถูกวิจารณ์กรณี “สมชัย” ลงสมัครชิงเก้าอี้
วันนี้ (28 ก.พ.) จากกรณีที่หนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งรายงานว่า จากกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต.เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามภายในสำนักงาน กกต.ว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 หรือไม่ เพราะในหมวด 2 มาตราทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 11 ที่ระบุว่า ไม่กระทำการอันเป็นการขัดประโยชน์ระหว่างส่วนตนกับส่วนรวม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2560 กกต.ได้มีมติออกคำสั่ง กกต.ที่ 87/60 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการสรรหาและตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. มีอำนาจหน้าที่ที่กำหนดกฎเกณฑ์ในการรับสมัคร การคัดเลือก ตลอดจนตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นเลขาฯ กกต. ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวมี 5 คน มาจากการแต่งตั้งของ กกต. โดย 1 ใน 5 คนนั้น คือ นายรวิโชติ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำ กกต.ของนายสมชัย จึงทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า การที่ กกต.เป็นผู้ตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาเลขาฯ กกต. แล้วลงสมัครรับการสรรหาเองนั้น ถือว่ามีส่วนได้เสีย ขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมตามข้างต้นหรือไม่
ล่าสุด นายรวิโชติ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำ กกต. ชี้แจงกับทางผู้สื่อข่าว MGR Online ว่า เรื่องการแต่งตั้งตนเป็นอนุกรรมการ เป็นตามข่าวที่ปรากฎ ซึ่งในวันนี้ตนได้พบกับนายสมชัย เพื่อขอลาออกจากอนุกรรมการชุดนี้ ซึ่งนายสมชัยได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปตนจะส่งหนังสือเพื่อให้การลาออกมีผลต่อไป
นายรวิโชติชี้แจงต่อว่า นายสมชัยได้แต่งตั้งตนเป็นอนุกรรมการเมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ซี่งมีระยะค่อนข้างห่างจากวันที่นายสมชัยลงสมัครเป็นเลขาธิการ กกต. ส่วนตัวมีความเห็นว่าขณะนั้นนายสมชัยไม่ได้คิดจะสมัครเลขาธิการ กกต.
“ปัจจัยที่มีน้ำหนักมากที่สุด คงเป็นกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่รับรองว่าที่ กกต. 7 ราย ซึ่งนายสมชัยเห็นว่า หากมีการสรรหาใหม่ และได้ กกต. ชุดใหม่ จะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งกระชั้นและมีเวลาเตรียมการน้อยมาก ซึ่งหากนายสมชัยได้เป็นเลขาธิการ กกต. ก็จะเป็นโอกาสในการเชื่อมงานจาก กกต.ชุดเก่า สู่ กกต.ชุดใหม่นั่นเอง” นายรวิโชติกล่าว