รองหัวหน้าพรรค ปชป. มองเป็นเรื่องแปลก สนช. คว่ำ 7 กกต. ใหม่ทั้งหมด ชี้ มีเห็นชอบบ้างยังเหมาะสมกว่า ย้อนอ้างไม่มีประสบการณ์ฟังไม่ขึ้น กก. สรรหาทำงานลำบากขึ้น ควรแจ้งอยากได้แบบไหน ยันเลือกช้ามีผลต่อการทำหน้าที่ ต้องโปร่งใส ย้ำ กกต. ต้องทำหน้าที่ตรงไปตรงมา อย่าแทรกแซงการเลือก
วันนี้ (25 ก.พ.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ สนช. ลงมติไม่เห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. ทั้ง 7 คน ว่า เป็นเรื่องที่แปลกเหมือนกัน ที่บุคคลซึ่งผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหามาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครที่เหมาะสมพอ ที่ สนช. จะเห็นชอบได้เลย ถ้าผลการลงมติออกมาว่ามีทั้งเห็นชอบและไม่เห็นชอบน่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า การที่มีข่าวว่า สนช. ไม่เห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. ทั้ง 7 คน เพราะผู้ได้รับการสรรหาส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการเลือกตั้งนั้น น่าจะไม่ใช่เหตุผลหลักในการพิจารณาเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ เพราะ กกต.เกือบทุกชุดที่ผ่านมา ก็มีทั้ง กกต. ที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ในการจัดสรรการเลือกตั้งคละเคล้ากันไป
“การที่ สนช. ไม่เห็นชอบ กกต. ทั้ง 7 คน คราวนี้ย่อมทำให้คณะกรรมการสรรหาทำงานยากลำบากมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่า สนช. ต้องการ กกต. แบบไหน ถ้า สนช. สามารถประชุมเป็นการภายในแล้วแจ้งให้คณะกรรมการสรรหาทราบว่าอยากได้ กกต. แบบไหนก็จะทำให้คณะกรรมการสรรหาทำงานได้ง่ายขึ้น”
นายองอาจ กล่าวว่า ถึงแม้การสรรหา กกต. ชุดใหม่จะไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งช้าหรือเร็วโดยตรง เพราะถึงแม้ยังไม่มี กกต. ชุดใหม่ กกต. ชุดเก่าก็ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปตามปกติจนกว่าจะมี กกต. ชุดใหม่ เข้ามาทำงาน แต่การได้ กกต. ชุดใหม่ล่าช้าออกไปมากเกินไป ก็อาจส่งผลทำให้การทำหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องทำให้การเลือกตั้งสุจริต และเที่ยงธรรม เกิดปัญหาได้ ถ้าสามารถสรรหา กกต. ชุดใหม่ได้ตามเวลาที่เหมาะสม ก็จะทำให้การทำงานของ กกต. ชุดใหม่ มีเวลาเพียงพอในการสานงานต่อและก่องานใหม่ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย กกต. และ กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว.
นายองอาจ กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์กติกาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมืองรวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมืองที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งที่ประชาชนต่างตั้งความหวังอยากเห็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่จัดการการเลือกตั้งอย่าง กกต. ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม การได้มาซึ่ง กกต. จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีอำนาจไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซงโดยเด็ดขาด และไม่ควรมีการกระทำใดๆ ทั้งจากผู้มีอำนาจ และเครือข่ายที่ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นได้ เพราะเมื่อสังคมเคลือบแคลงสงสัยการได้มาซึ่ง กกต. และการทำหน้าที่ของ กกต. ก็จะก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการเลือกตั้ง ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกไม่รู้จบ ส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าประเทศไทยอย่างแน่นอน