xs
xsm
sm
md
lg

ครม.สัญจรเตรียมเยือนเพชรบุรี 5-6 มี.ค. นายกฯ แนะไทยนิยมดันสินค้าจีไอแต่ละชุมชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
ทีมโฆษกรัฐเผย 5-6 มี.ค. “ประยุทธ์” เตรียมนำ ครม.สัญจร สมุทรสาคร-เพชรบุรี พร้อมแนะ “ทีมไทยนิยม” ดันสินค้าจีไอแต่ละชุมชน ขอเสาะหาศักยภาพสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ ระบุตลาดสินค้าจีไอของไทยปัจจุบันมีมูลค่าสินค้าการตลาดสูงถึง 3,700 ล้านบาท ชี้ปัจจุบันมีสินค้าแล้วถึง 84 รายการ

วันนี้ (27 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันที่ 5-6 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.เพชรบุรี รวมถึงร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 2/2561 ที่ จ.เพชรบุรี

โดย พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวว่า กำหนดการวันที่ 5 มี.ค. นายกฯ จะเยี่ยมชมมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพแรงงาน ต.บางหญ้าแพรก และเยี่ยมชมบริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมง และพบปะพนักงาน แรงงานของบริษัทฯ จากนั้นนายกฯ เดินทางเยี่ยมชมองค์การสะพานปลาสมุทรสาคร เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการดำเนินงาน และการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมการแจ้งเข้าออกของเรือประมงพาณิชย์ จากนั้นในช่วงบ่าย นายกฯ เดินทางตรวจราชการที่ จ.เพชรบุรี เพื่อเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และชมระบบบำบัดน้ำเสียและการกำจัดขยะ รวมถึงเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนธนาคารปู แพปลา และพบปะผู้นำท้องถิ่นของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 จากนั้นจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) และชมการสาธิตสกุลช่างเมืองเพชร

พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้วันที่ 6 มี.ค. ในช่วงเช้านายกฯ จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ที่ห้องประชุมรอยัลดุสิต บอลลูมเอ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จ.เพชรบุรี จากนั้นเวลา 09.00 น. เป็นการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ส่วนช่วงบ่ายเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชน ศูนย์ข้าวชุมชน ต.ไร่มะขาม อ.บ้านลาด และพบปะประชาชน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลไร่มะขาม จากนั้นเดินทางกลับกรุงเทพฯ

พ.อ.อธิสิทธิ์ยังกล่าวถึงเรื่องการส่งเสริมและคุ้มครองสินค้าจีไอว่า เพื่อยกระดับและสร้างมูลค่าสินค้าของแต่ละชุมชนได้อย่างยั่งยืนได้มีการขึ้นสินค้าจีไอแล้วตั้งแต่ปี 2547 จนถึง 18 ม.ค. 2561 รวมทั้งสิ้น 84 สินค้า เช่น ชามไก่ลำปาง ข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้ ไข่เค็มไชยา เป็นต้น นอกจากนี้ได้จัดทำหนังสือ “จีไอไทยแลนด์ปี 2560” ที่จะรวมรายละเอียดทั้งหมดของสินค้า ขณะเดียวกันยังมีการส่งเสริมการจดทะเบียนสินค้าจีไอใน 4 ประเทศได้แก่ สหภาพยุโรป เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งต่อไปจะมีการส่งเสริมให้จดทะเบียนสินค้าจีไอเพิ่มขึ้นอีก 3 ประเทศ 6 สินค้า เช่น จีน ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ ส้มโอทับทิมสยามจากปากพนัง, กัมพูชา จดทะเบียนกาแฟดอยตุง, เวียดนาม จดทะเบียนมะขามหวานเพชรบูรณ์ ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองของลำพูน

พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตลาดจีไอได้สร้างผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนมามากกว่า 350 ราย และได้สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนกว่า 200 ล้านบาท โดยตลาดสินค้าจีไอของไทยปัจจุบันมีมูลค่าสินค้าการตลาดสูงถึง 3,700 ล้านบาท ในเรื่องนี้นายกฯ ได้สั่งการเพิ่มเติมให้สร้างเป้าหมายในการดำเนินงานให้มูลค่าสินค้าจีไอของไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้คนมาจดทะเบียนสินค้าจีไอของแต่ละชุมชน อาจจะให้จัดเป็นกิจกรรมสัปดาห์การขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอตามชุมชนต่างๆ และจากที่นายกฯ ได้ลงพื้นที่ต่างๆ ท่านเห็นว่าชุมชนต่างๆ มีศักยภาพที่จะนำสินค้าของชุมชนมาขึ้นทะเบียนได้หลายสินค้าโดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรก็ฝากคณะทำงานของทั้งมหาดไทย และไทยนิยม ได้ช่วยสำรวจว่าแต่ละชุมชนมีศักยภาพด้านไหนในเรื่องสินค้าจีไอ


กำลังโหลดความคิดเห็น