กลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ยื่นศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวให้สถาบันการเงินยุติการฟ้องดำเนินคดี-ให้กลับไปใช้ระเบียบกองทุนฯ เดิมซื้อหนี้ไม่มีหลักทรัพย์ 5.4 หมื่นล้าน มาบริหารได้เหมือนเดิม
วันนี้ (27 ก.พ.) กลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) นำโดยนางกิ่งแก้ว แก้วสุขแท้ เข้ายื่นหนังสือต่อศาลปกครอง เรื่องขอใช้สิทธิคุ้มครองชั่วคราวแก่สมาชิก 260 ราย ที่ถูกฟ้องคดีถูกยึดทรัพย์ และนำไปขายทอดตลาด โดยนายเตชธรรม บำรุงชัยธรรม ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจฟ้องคดี กล่าวว่า การยื่นฟ้องคดีครั้งนี้เป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรทั่วประเทศจากกรณีที่คสช.ออกคำสั่งที่ 26/2560ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาทำหน้าที่แทน 3 บอร์ดใหญ่ตาม พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 2542 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2544
จากนั้นในวันที่ 2 พ.ย. 60 คณะกรรมการเฉพาะกิจชุดดังกล่าวได้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์จัดการหนี้ของเกษตรกร 2559 ทั้ง 2 ฉบับพร้อมกับออกระเบียบใหม่โดยเน้นความเสี่ยงหรือความเสียหายที่อาจขึ้นของรัฐไม่คำนึงถึงปัญหาของเกษตรกร ทั้งที่รัฐสามารถหามาตรการอื่นเพื่อป้องกันความเสี่ยงได้ ทำให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้ซึ่งไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้กับกองทุนฟื้นฟู จำนวนร้อยละ 90 ได้รับความเสียหาย ถูกปิดกั้นโอกาสที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้ และได้รับความเดือดร้อนจากสถาบันการเงินกำหนดเงื่อนไขการกู้ยืมเงินให้บุคคลหรือเกษตรกรด้วยกันซึ่งมีหลักทรัพย์เหมือนกันค้ำประกันหนี้ในลักษณะหมุนเวียน เมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้สถาบันเจ้าหนี้สามารถเลือกบังคับคดีเอาที่ดิน หรือหลักทรัพย์ของเกษตรรายใดก็ได้ เป็นการเพิ่มตัวเลือกการบังคับคดีให้แก่สถาบันเจ้าหนี้ แต่ในทางกลับกัน คณะกรรมการชุดดังกล่าวกลับไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องหนี้สินให้แก่เกษตรกร โดยมีการแก้ปัญหาเฉพาะหนี้ในระบบตามคำจำกัดความของกฎหมายเท่านั้น
นอกจากนี้ ในการออกประกาศดังกล่าวก็ไม่เคยถามความเห็นจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก และเมื่อบังคับใช้ ทางเกษตรกรได้ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ แต่คณะกรรมการก็บอกว่าจะหาวิธีการอื่นในการช่วยเหลือ ไม่ได้ยกเลิกระเบียบที่เป็นปัญหาจึงต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ 2560 และเพื่อบรรเทาความเสียหายให้เกษตร ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้สถาบันการเงิน หรือเจ้าหนี้ยุติการฟ้องคดีเกษตรกรไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ด้านนายนายชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษากลุ่ม คนท.กล่าวว่า การออกระเบียบใหม่ไม่ให้ซื้อหนี้มาบริหารจัดการ ทำให้หนี้ของเกษตรกรไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพราะถูกสถาบันการเงินฟ้องคดี จึงรวมตัวกันฟ้องต่อศาลปกครองขอสิทธิไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราวว่าระหว่างหาทางแก้ไขขอให้ยุติการฟ้องคดีกับชาวบ้านก่อน และขอให้กลับไปใช้ระเบียบเดิมที่ให้กองทุนฯ ซื้อหนี้มาบริหารจัดการได้ โดยมีหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งชาวบ้านต้องการให้กองทุนเข้าไปแก้ปัญหาประมาณ 54,000 ล้านบาท จากมูลหนี้รวมทั้งหมดกว่า 7 หมื่นล้านบาท