xs
xsm
sm
md
lg

ปิดตำนานเสือใต้!! “สล้าง บุนนาค”อดีต รองอธิบดีกรมตำรวจ ** แพ้ทางวีไอพี!! “เสี่ยเปรมชัย”รอดข้อหาทารุณสัตว์ฯ **ตัดรากต้องถอนโคน!! เด้ง 2 บิ๊กกระทรวงนักบุญเซ่นโกงเงินยากไร้ **“นิด้าโพล”ปล่อย “โพลอยู่เป็น”ระบุ 3 ปีครึ่ง คนไทยยังพอใจ“นายกฯตู่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค
ข่าวปนคน คนปนข่าว



** ปิดตำนานเสือใต้!! “สล้าง บุนนาค”อดีต รองอธิบดีกรมตำรวจ ผู้ยืนหยัดแนวคิดด้าน“โครงสร้างคมนาคม”จนวาระสุดท้าย กระตุ้นผู้เกี่ยวข้องด้วยชีวิต ให้เห็นความสำคัญของระบบราง Standard Gauge ขนาด 1.435 เมตร

ต้องขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัว พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีต รองอธิบดีกรมตำรวจ นายตำรวจชื่อดังผู้มีบทบาทในทางการเมืองการปกครองมาหลายสมัย ที่ปิดฉากชีวิตตัวเองในวัย 81 ปี .. อันน่าจะเป็นเพราะ“โรคซึมเศร้า”ที่เป็นผลพวงมาจากอาการเจ็บป่วยตามวัย ตามที่ พ.ต.ท.เหมจักร บุนนาค สวป.สน.ดินแดง บุตรชายของ พล.ต.อ.สล้าง ระบุถึงอาการของบิดา ว่า “ท่านป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานหลายปีแล้ว" .. โบราณว่า "คนเรามีสองด้านเสมอ" ด้านหนึ่ง"สล้าง” มีบทบาทที่แหลมคมในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ คดีโจด่านช้าง หรือกระทั่งระหว่างการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่"สาร" ที่เจ้าของสมญา "เสือใต้แห่งกรมตำรวจ" ทิ้งไว้ค่อนข้างน่าสนใจ นอกจากจัดการธุระส่วนตัวบางเรื่องแล้ว ...หลักใหญ่ใจความยังสะท้อนอีกด้านของ "สล้าง" ที่มีความห่วงใยชาติบ้านเมือง ย้ำจุดยืนในเรื่อง"โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม “ ของประเทศ... โดยเฉพาะเรื่องความกว้างระบบรางรถไฟไทย ที่เจ้าตัวระบุว่า การสละชีวิตครั้งนี้ ก็เพื่อหวังว่าให้ทุกคนช่วยกันคัดค้านรถไฟรางคู่ขนาด 1 เมตร รวมทั้งการคัดค้านรถไฟฟ้ายกระดับ .. ซึ่งเป็นประเด็นที่“สล้าง”พยายามรณรงค์-ให้ความเห็นมานานนับสิบปี รวมทั้งเรียกร้องต่อรัฐบาลในหลายยุค .. ตั้งแต่การเป็นแกนนำคัดค้าน“รถไฟลอยฟ้า”เพื่อหวังให้ภาครัฐเลือกก่อสร้าง“รถไฟใต้ดิน” ดังอารยประเทศ .. หรือการเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนความกว้างของรางรถไฟ ตั้งแต่สมัย “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”ที่เสนอให้ทบทวนความกว้างของราง ในโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง .. ตลอดจนมาถึง“รัฐบาลประยุทธ์”ก็ยังคงเสนอแนวคิดให้ใช้ราง Standard Gauge ขนาด 1.435 เมตร แทนขนาดราง 1 เมตร ที่ประเทศไทยใช้มานาน .. จึงหวังใช้วาระสุดท้ายของชีวิต เพื่อ“กระตุ้น“ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง “ตื่นตัว”ในจุดยืนที่ตัวเองยึดถือมาตลอด
เปรมชัย กรรณสูต และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
** แพ้ทางวีไอพี!! “เสี่ยเปรมชัย”รอดข้อหาทารุณสัตว์ฯ เหตุ “รมว.เกษตรฯ”ไม่ใช้อำนาจตามกฎหมาย สังคมระแวง“อภิสิทธิ์ชน”ส่งกลิ่น "มวยล้มต้มคนดู" ความมั่นใจ“ตำรวจ”เริ่มเลือนลาง น่ากลัวสำนวนจะไม่ค่อยแข็งแรง

เริ่มมีเครื่องหมายคำถามหนักขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคดี“นายพรานแสนล้าน”เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร เครืออิตาเลียนไทย ที่ถูกจับคาหนัง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร .. จนบัดนี้ยังไม่มีใครเห็นหน้าค่าตา “เจ้าสัวนักล่า”ทั้งที่เป็นคดีความมาแล้วร่วมเดือน .. ดูท่าแล้ว“ผู้ต้องหา”ตีพุง สบายกว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็น“โจทก์” ที่ถูกสอบปากคำกันเป็นว่าเล่นเสียอีก .. ส่วน“ผู้ต้องหา”ส่งทนายแจ้งขอเลื่อนเข้าให้ปากคำ ก็ไม่เห็น “พี่หมาต๋า”จะว่าอะไร .. เป็นความรู้สึกสังคมที่สะท้อนผ่าน“เทคโนสยามโพล”เกี่ยวกับ “คดีพรานเปรมชัย”ที่ระบุว่า ประชาชน 69.78% รู้สึกว่า ระหว่าง“ผู้ที่มีฐานะทางสังคม”กับ “ชาวบ้านธรรมดา”ได้รับการปฏิบัติดูแลจากหน่วยงานภาครัฐแตกต่างกัน .. ไม่เท่านั้น อีก 74.32% รู้สึกกังวลว่า คดีนี้ถึงที่สุดจะกลายเป็น "มวยล้มต้มคนดู" .. อะไรทำให้“สังคมไทย”คิดเช่นนั้น ก็ต้องตอบว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่เอง .. ไล่ตั้งแต่คิวที่ กรณีสำนักงานปศุสัตว์ จ.กาญจนบุรี ไม่สามารถแจ้งความเอาผิด“เสี่ยเปรมชัยและพวก”ในข้อหา“ทารุณกรรมสัตว์”ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ 2557 หรือที่เรียกกันว่า “พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์" ได้ .. ทั้งที่มีของกลางเป็นซากสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ พร้อมอาวุธปืนหลายกระบอก อีกทั้งมีการระบุพฤติการณ์ชำแหละ “เสือดำ”อย่างโหดเหี้ยมด้วย ..

แค่“ชื่อกฎหมาย”ก็ผิดแบบไม่ต้องอุทธรณ์กันแล้ว แต่เผอิญในเนื้อหากฎหมายฉบับนี้ ดันไม่ได้ครอบคลุมถึง“สัตว์ป่าหายาก”อย่างเหลือเชื่อ .. ด้วยกฎหมายที่ออก เมื่อปลายปี 2557 ฉบับนี้คุ้มครองเฉพาะ“สัตว์เลี้ยง-สัตว์ใช้งาน”เว้นอำนาจให้ “รมว.เกษตรฯ”เป็นผู้ประกาศว่าครอบคลุม “สัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติ”ชนิดใดบ้าง .. ทำไมกฎหมายถึงมี“ช่องโหว่”ขนาดนี้ ก็ต้องไปไถ่ถาม“บิ๊กนมชง”พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีต รมว.เกษตรฯ ในช่วงนั้น รวมไปถึง กฤษฎา บุญราช ที่เข้ามารับตำแหน่งแทนด้วย .. ช่องโหว่กฎหมายทำเอา“พรานเจ้าสัว”รอดไปไปหนึ่งกระทงไม่เท่าไร ก็ยังมีอีก 9 ข้อหาที่ “โทษหนักกว่า”จ่อคอหอยอยู่ .. ทว่าการทำงานของ “เจ้าหน้าที่ตำรวจ”ก็เริ่มทะแม่งๆ ทั้งการยังไม่เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ หรือข่าวลือที่ว่า“คลิปเสียงติดสินบน”ล่องหนซะอย่างนั้น .. ท่าทีของ “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลคดีนี้ จากที่เคยแสดงความมั่นใจเอาผิดได้แน่ เวลาผ่านความมั่นใจเริ่มเลือนราง .. ทีมสอบสวนออกมาอัพเดตข้อมูลหลักฐานในที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า “ดีเอ็นเอ-รอยนิ้วมือ-ปลอกกกระสุน”ไม่สามารถระบุชี้ชัดอะไรได้ซักอย่าง เป็นอาทิ .. ถ้าเดินทรงนี้ สำนวนอาจจะไม่แข็งแรงนัก เข้าอิหรอบ“มวยล้ม”อย่างที่เขาระแวงกันละมั้ง
 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว
**ตัดรากต้องถอนโคน!! เด้ง 2 บิ๊กกระทรวงนักบุญเซ่นโกงเงินยากไร้ แฉโมเดลปลอมเอกสาร ใบสั่งตรงจากส่วนกลาง “นักศึกษาฝึกงาน”ยังจับได้ไล่ทัน น่าแปลกที่ “บิ๊กอู๋”เจ้ากระทรวงคนเก่า กลับทำไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่ สตง.ชงเรื่องให้ตั้งแต่กลางปีก่อน

เก้าอี้ติดสปริง .. พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ และ ณรงค์ คงคำ รองปลัดฯ ถูก“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งเด้งเข้ากรุสำนักนายกฯ .. หลังเพิ่งมีข่าวการร้องเรียนการทุจริตเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่งของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็น "กระทรวงนักบุญ" .. เป็นผลมาจากวีรกรรม“จุดไม้ขีดไฟ”ของ “น้องแบม”ปณิตา ยศปัญญา อายุ 23 ปี นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน ม.มหาสารคาม .. ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลและพฤติกรรมของ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ว่ามีการปลอมแปลงเอกสารทุจริตเงินสงเคราะห์คนมีรายได้น้อย และผู้ติดเชื้อเอดส์ มูลค่า 6.9 ล้านบาท .. จนนำไปสู่การตรวจสอบการทุจริตศูนย์คนไร้ที่พึ่งฯ ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อันเป็นที่มาของการย้าย“ปลัด-รองปลัด”ออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวน .. ก่อนโดนย้าย เห็นว่าทั้ง 2 ราย ก็พยายามออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ โบ้ยว่าเป็นความไม่ชอบมาพากลของแต่ละพื้นที่เอง .. ทว่าในวงการจับได้ไล่ทัน ด้วยโมเดลปลอมเอกสาร ที่แต่ละจังหวัดลอกกันมาเป๊ะ ทรงนี้ไม่พ้น “ใบสั่ง”ยิงตรงจาก“ส่วนกลาง”แน่นอน แบบนี้รอดยาก.. ที่น่าสนใจก็น่าจะเป็นเรื่อง“ห้วงเวลา” ด้วย “น้องแบม”ออกมาแฉตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา กว่าจะเข้าหู เข้าตา ผู้ใหญ่ ปาเข้าไปเกือบปลายเดือน .. ไม่เท่านั้นยังมีข่าวว่า ครอบครัวญาติพี่น้อง “น้องแบม”ถูกคุกคามหลังการเปิดโปง ส่วนตัวสาวเจ้ากลับถูกอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางคนตำหนิว่า สร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันอีกต่างหาก ..

ต้องไม่ลืมอีกว่าเมื่อเดือน มิ.ย. 60 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยแจ้ง "ความผิดปกติ"กรณีเดียวกันนี้ เพื่อให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ตรวจสอบ .. แต่เจ้ากระทรวงเดิม "บิ๊กอู๋" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่วันนี้ไปดูแลกระทรวงแรงงาน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่ สตง.ชี้เป้า “พุฒิพัฒน์ - ณรงค์”ว่ามีพฤติกรรมรับ"เงินทอน" อย่างชัดเจน .. มันไม่ชอบมาพากลหรอกหรือ ที่พฤติกรรมโกงเงินคนจน ขนาด“นักศึกษาฝึกงาน”ยังดูออก แต่ระดับ “รัฐมนตรี”ไม่เห็นว่าอะไร ทั้งที่มีคนป้อนข้อมูลให้กับมือ .. โบราณว่า “ตัดราก”ก็ต้อง“ถอนโคน”ดังนั้นการเล่นงาน เฉพาะ "2 บิ๊ก พม." ยังไม่ทำให้สิ้นสงสัยไปได้ ด้วยวันนี้คนนินทาหมาดูถูกไปแล้วว่า“รัฐมนตรีคนดี”ไปรู้เห็นเป็นใจกับเขาด้วย .. อีกทั้ง“กระทรวงจับกัง”งบประมาณอู้ฟู่กว่า “กระทรวงนักบุญ”โขอยู่ ปล่อยไว้แบบนี้มันจะไม่ค่อยสวย นะท่านนะ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
** ความจริงที่เจ็บปวด!!“นิด้าโพล”ปล่อย “โพลอยู่เป็น”ระบุ 3 ปีครึ่ง คนไทยยังพอใจ“นายกฯตู่”ทำงานดี-มีอุดมการณ์ -เด็ดขาด -โปร่งใส แต่พอเปรียบเทียบผลสำรวจ 6 เดือนก่อน ตกต่ำลงทุกด้าน

หลังดรามา“โพลนาฬิกายืมเพื่อน”ซาลง “นิด้าโพล”ก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอย คืนตำแหน่ง“โพลอยู่เป็น”อีกครั้ง .. กับการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดถึง ความพึงพอใจต่อการทำงานของ“รัฐบาลประยุทธ์”โอกาสครบรอบ 3 ปีครึ่ง .. ภาพรวมถือว่าเป็นผลบวกกับรัฐบาลไม่น้อย ด้วยคะแนนความพึงพอใจรัฐบาลที่ดูดีกว่าโพลอื่นพอสมควร .. อีกทั้งมีการระบุข้อดีแยกย่อย อาทิ“มีอุดมการณ์ - กล้าตัดสินใจ-มีความเป็นผู้นำ-ความเด็ดขาด - โปร่งใส”ของตัว “นายกฯตู่”แต่ละหัวข้อแตะอยู่ราวๆ 70% ทั้งนั้น .. จะมีอยู่ราว 20% ที่ว่า “นายกฯตู่”ทำงานไม่ค่อยดี ติติงกันเรื่องไม่รับฟังความคิดเห็นประชาชน-ปกป้องพวกพ้อง .. ขณะที่ 11.68% ระบุว่า “นายกฯตู่”ทำงานไม่ดีเลย ด้วยความที่บ้านเมืองยังไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม-ไม่เป็นไปตามโรดแมป .. แต่เชื่อหรือไม่ว่า “ผลบวก”ในแต่ละหัวข้อ 60-70% นั้น ลดลงจากการสำรวจเมื่อเดือน ส.ค.60 หรือครึ่งปีที่แล้ว ทุกหัวข้อ .. ประมาณว่าหัวข้อทำงานได้ค่อนข้างดี และดีมาก มีสัดส่วนลดลง ส่วนที่ว่าทำงานได้ไม่ค่อยดี จนถึงระดับไม่ดีเลย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น .. หรือเรื่องความมีอุดมการณ์ก็ลดลง ส่วนที่ระบุว่าไม่มีอุดมการณ์ มีสัดส่วนกลับเพิ่มขึ้น .. ถือเป็นอีกภาพสะท้อนความตกต่ำของ“รัฐบาล คสช.”ที่แม้แต่ “โพลอยู่เป็น”ก็ยังช่วยไม่ได้...ผลลัพธ์ที่ตามมา ก็ไปสะท้อนผ่าน “ดุสิตโพล”ที่มี 58.95% ระบุว่า ไม่เห็นด้วย หากมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อมาสนับสนุน “นายกฯตู่”..เป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า“ลุงตู่”คงหมดรอบแล้วนั่นเอง.

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น