ผอ.นิด้าโพล ลั่นยอมรับไม่ได้จริงๆ อธิการฯ เซ็นเซอร์ผลโพลนาฬิกาหรูยืมเพื่อน ทั้งที่ถามถึงบุคคลสาธารณะ หยันอ้างอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. แต่ไม่ย้อนดูเคยทำโพลจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ที่คดียังคาอยู่ในศาล เชื่อไม่เกี่ยวทหาร ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เคยมีทหารต่อสายมาคุย ส่วนอธิการบดีจะถูกทหารกดดันมาไหมไปถามเอาเอง แต่ถ้าตนเป็นอธิการบดีจะไม่มีวันยอมตามคำขอของใคร จะบอกกับทหารไปตรงๆ ว่านี่คือเสรีภาพทางวิชาการ
วันนี้ 29 ม.ค. ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดใจถึงเหตุที่ต้องลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ News 1 ดำเนินรายการโดย นายกิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล
คำต่อคำ : คนเคาะข่าว
กิตติชัย - สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคนเคาะข่าว วันนี้จันทร์ที่ 29 มกราคม 2561 พบกับผมกิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ประเด็นเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผ่านสำนักวิจัยต่างๆ กลับกลายเป็นประเด็นร้อนของสังคมไทยขึ้นมาอีกครั้ง สือเนื่องมาจากเมื่อวานนี้ มีข่าวจะลาออกจากตำแหน่งของผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ นิด้าโพล จากกรณีที่โดนแทรกแซงการเผยแพร่ การสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของนาฬิกาหรู ที่เป้นประเด็นร้อนแรงของสังคมก่อนหน้านี้ เพราะเหตุนั้น ทำให้ผมต้องเดินทางมาที่ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เพื่อมาพูดคุยกับท่าน ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล หรือว่ากำลังจะเป็นอดีต ผอ.นะครับ เพราะว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ท่านเพิ่งเซ็นหนังสือลาออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมาพูดคุยกับ อาจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และท่านเป็นผู้อำนวยการสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพลด้วย อาจารย์อานนท์ นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว ไปพบกับอาจารย์พร้อมกันครับ สวัสดีครับอาจารย์อานนท์ครับ
อานนท์ - สวัสดีครับคุณโก้
กิตติชัย - ครับรบกวนนิดหนึ่งครับ สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามประเด็นนี้ตั้งแต่ต้น อาจารย์ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นครับ
อานนท์ - คือผมเพิ่งขึ้นมารับตำแหน่ง ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ได้ 2 สัปดาห์นะครับ โพลแรกที่เราออกไปคือ คุณธรรม จริยธรรม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนะครับ ก็เงียบไม่มีอะไร ไม่เกิดอะไรขึ้นในนิด้า อันที่ 2 เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการตรวจสอบ คสช.และรัฐบาล โดย ป.ป.ช.นะครับ ก็ไม่มีอะไร ออกไปเมื่อวันศุกร์ ระหว่างที่จะออกโพลวันศุกร์ ผมทำอีกโพลหนึ่งนะครับ ช่วงพุธ พฤหัส ศุกร์ ให้เจ้าหน้าที่นิด้าโพลเก็บข้อมูล สุ่มจาก Master sample เดี๋ยวค่อยอธิบายเรื่องนี้ทีหลัง พอผลโพลออกมาเสร็จวันอาทิตย์เช้านะครับ เจ้าหน้าที่บอกว่าอธิการฯ สั่งระงับ ขอให้ระงับไม่เผยแพร่ เพราะจะกระทบกับภารกิจนิด้านะครับ ผมก็ตกใจ บอกว่าอ่าว และใครเอาผลโพลไปให้อธิการฯ เพราะมันอยู่ในความรับผิดชอบของผม เจ้าหน้าที่เขาก็บอกตามตรงว่า อธิการฯมาสั่งไว้ว่า ทุกโพลการเมืองที่จะออกไปจากนิด้า ก่อนที่จะถึงมือนักข่าว เขาต้องขออ่าน พิจารณาก่อนนะครับ ผมก็ตกใจมาก ผมกับท่านอธิการฯ มีความเคารพกันอย่างสูง เพราะท่านเป็นครูสอนผมมา และตอนผมไปเรียนต่างประเทศนะครับ ตอนสมัคร ถ้าใครเคยไปเรียนต่างประเทศจะรู้ว่าการเขียนจดหมาย Date Complications เป็นเรื่องสำคัญมาก และตอนนั้นท่านอธิการฯเป็นรองอธิการฯ ที่นิด้า และเขียน Complic ให้ผมดีที่สุดเลยครับ ผมเรียนกับท่าน และผมได้ท็อปที่สุดในคลาสของท่านด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมอึกอักใจมาก เพราะท่านมีบุญคุณกับผม ท่านขอร้องให้ผมมาทำในงานนี้ ในมุมหนึ่งผมก็ทำหน้าที่วิชาการ และผมเคยเป็นนักข่าวมาก่อนนะครับ สิ่งที่ผมรับไม่ได้คือการแทรงแซงเสรีภาพทางวิชาการ โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า self-censorship หรือการเซ็นเซอร์ตัวเองของหน่วยงานที่ทำหน้าที่ ที่ต้องชี้นำสังคมทำหน้าที่ สื่อถ้าเซ็นเซอร์ตัวเอง ถ้ามหาวิทยาลัยเซ็นเซอร์ตัวเองนะครับ ประเทศไปไม่รอดครับ รัฐบาลผู้มีอำนาจสั่งปิดแท่นพิมพ์ สั่งปิดมหาลัย มันยังไปตั้งแท่นพิมพ์ใหม่ได้ ยังไปตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ได้ แต่ถ้ามหาวิทยาลัยเซ็นเซอร์ตัวเองนะครับ ทุกอย่างมันจบครับ ผมถือว่าเรื่อง self censorship ร้ายแรงยิ่งกว่าการที่ผู้มีอำนาจมาสั่งให้เซ็นเซอร์นะครับ และเคสนี้คือเคส self censorship นะครับซึ่งผมยอมรับไม่ได้จริงๆในเชิงเสรีภาพทางวิชาการ ในเชิงความถูกต้องทางวิชาการ ในเชิงความกล้าหาญทางจริยธรรม เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถยอมรับได้ ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
กิตติชัย - ครับ มีหลายจุดที่ต้องรบกวนอาจารย์ช่วยขยาย ขออนุญาตย้อนกลับไปนิดหนึ่ง อาจารย์บอกว่าเพิ่งมารับตำแหน่งนี้ ประมาณ 2 อาทิตย์ ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยก่อนไหมครับ ว่าจะมีการตรวจสอบ
อานนท์ - ไม่มีครับ ไม่เคยทราบมาก่อน และผลโพล ประเด็นคำถามก็ส่งออกไป และไปถามประชาชนออกมาแล้ว จนผลออกมาจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงมีการมาขอตรวจ มาขอตรวจก่อนที่จะส่งออกไปให้สื่อมวลชน เรามี Place delete น้องๆนักข่าวคงทราบดี ส่งแฟกซ์บ้าง ส่งอีเมล์บ้าง บางเจ้าเลิกใช้แฟกซ์แล้ว เราต้องใช้อีเมล์อย่างเดียวครับ ส่งออกตามปกติ 2 อัน โดยที่ผมไม่ทราบมาก่อนว่าท่านอธิการฯขอเซ็นเซอร์ตรวจสอบก่อนส่งออกทุกอัน จนอันนี้ท่านขอเซ็นเซอร์นะครับ ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไปได้ เพราะผมไม่สามารถทำหน้าที่นักวิชาการ ในการนำเสนอความคิดเห็นประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ผมต้องบอกว่าโอเค เรื่องผลโพลเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ ทุกคนทราบว่าโอเค ผมอาจจะเชียร์รัฐบาลให้อยู่ ถ้ารัฐบาลเข้ามาดีกว่าที่จะเข้าไปฆ่ากันตายกลางถนนเกลื่อน M79 ระเบิด สารพัดนะครับ คดีจำนำข้าวโกงเป็นแสนล้าน แต่ผมยังมีความเป็นนักวิชาการบนความถูกต้องว่า ถ้าอะไรที่รัฐบาลทำไม่ถูกผมมีสิทธิ์ท้วงติงนะครับ หรือผลโพลออกมา ผมไม่เห็นด้วยเลยก็เป็นไปได้นะครับ ผมอาจยังเชียร์รัฐบาลอย่างสุดจิตสุดใจ แต่ถ้าผลโพลออกมาอย่างไร ผมมีหน้าที่ในฐานะผู้รับผิดชอบต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Academic integrity ความซื่อตรงทางวิชาการ ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเลยนะครับ ผอ.นิด้าโพลมีสีได้ไหมครับ มีได้ ผอ.นิด้าโพลนะครับมีความเห็นทางการเมืองไหม มีได้ครับ แต่ผลออกมาอย่างไร ต้องนำเสนอไปอย่างตรงตรงมา นี้คือความซื่อตรงทางวิชาการ หรือ Academic integrity ซึ่งผมถือว่าผมต้องมี และถ้าผมไม่มี ผมทำหน้าที่ได้ผมก็อึดอัดใจ ที่จะอยู่และทำงานอีกต่อไป ผมเลยตัดสินใจประกาศลาออกนะครับ และไม่ได้คิดว่าเรื่องจะใหญ่มากขนาดนี้ เพราะผมคิดว่าเป็นเรื่องภายในนิด้า ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกับท่านอธิการฯ แต่ไม่เห็นด้วยกับ วิธีการนี้ ไม่เห็นด้วย คิดว่าท่านไม่เข้าใจคำว่าเสรีภาพทางวิชาการ ท่านไม่เข้า Academic integrity ความซื่อตรงทางวิชาการ อย่างที่นักวิชาการทั่วไป ควรจะได้เข้าใจนะครับ
กิตติชัย - อาจารย์ครับ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ได้มีการพูดคุยกับท่านอธิการฯหรือยังครับ
อานนท์ - ท่านไม่ได้โทรฯมาคุยกับผม และผมไม่ได้โทรฯไปคุยกับท่านนะครับ ท่านให้รองอธิการฯ โทรฯมาคุยกับผมนะครับ บอกว่ามันเป็นเรื่องของการตรวจสอบและถ่วงดุล ถ้าเกิด ผอ.นิด้า เป็นคนดี ไปรับเงินพรรคการเมืองมา ซึ่งคนอย่างผมนี่นะครับ โอโห้ นักการเมืองทุกคนไม่อยากจะเสวนาด้วยนะครับ ผมเป็นมนุษย์ซึ่งโครตจะตรงที่สุดแล้ว ไม่เคยกลัวใคร ผมเป็นตัวผมนะครับ คราวนี้ผมรู้สึกว่าผมรับฟังไม่ได้จริงๆ และผมไม่อาจจะเห็นด้วยได้ และอาจจะไม่ทำงานด้วยได้อีกนะครับ
กิตติชัย - แต่ประเด็นปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ ในขณะที่อาจารย์บอกว่า มันคือเรื่องของเสรีภาพทางวิชาการ แต่ที่ท่านอธิการฯให้สัมภาษณ์สื่อหลายฝ่าย จะบอกว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเผยแพร่โพลลักษณะแบบนี้
อานนท์ - เหมาะสมในแง่ไหนครับ
กิตติชัย - เพราะว่าเขาบอกว่าเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนในการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
อานนท์ - แล้วสมัยก่อนที่นิด้าทำโพล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนำข้าว กระหึ่มทั้งเมือง คดีอยู่คาศาลอยู่เลย อย่างนี้ยิ่งไม่หนักกว่าเหรอครับไปล่วงอำนาจศาล อันนี้ยังอยู่แค่ ปปช. ยังไม่ทันได้ชี้มูลด้วย ความเห็นของประชาชนนี้ห้ามไม่ได้นะครับ ต้องเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องรับฟัง อย่างที่ผมบอก ผมอาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับผลโพลเลยนะแต่ผมมีหน้าที่ต้องนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
กิตติชัย - เรื่องที่ท่านอธิการบอกว่า มันเป็นการพุ่งเป้าเฉพาะเจาะจง ที่ใครมากเกินไป
อานนท์ - นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ส.ว. สนช. สปท. คนเหล่านี้ถืออำนาจรัฐและเป็นบุคคลสาธารณะ มันไม่มีคำว่าตัวบุคคลแล้วครับเป็นเรื่องสาธารณะ ถ้าผมเอ่ยชื่อเขามา เขาก็ฟ้องหมิ่นประมาทผมในโพลไม่มีเอ่ยชื่อด้วยซ้ำ ไม่เกี่ยวอะไรเลยนะครับ แล้วถามว่าเราแยกแยะกันไม่ออกเหรอว่าบุคคลสาธารณะคืออะไร ในขณะเดียวกันทุกโพลที่ทำมาในอดีตก็สามารถถามได้ว่ากระทรวงไหนสอบผ่าน สอบไม่ผ่าน รัฐมนตรีคนไหนมีผลงานไม่มีผลงาน ก็เป็นสิ่งที่ทำมาบุคคลสาธารณะประชาชนย่อมมีสิทธิ์ที่จะมีความคิดเห็นได้ ในขณะเดียวกันนักวิชาการหรือสื่อก็สามารถสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนได้ ถ้าเกิดว่าเขาไม่เป็นบุคคลสาธารณะมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
กิตติชัย - อาจารย์สามารถให้ลายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหมครับว่าโพลเนี่ยหัวข้อว่าอะไรและมีลักษณะคำถามอย่างไร ไม่ต้องพูดถึงผลก็ได้ครับ
อานนท์ - คือ โพลก็บอกแค่ว่า นาฬิกาหรูที่ยืมเพื่อนบิดเบือนหรือพูดความจริง จริงๆก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ถามว่าเชื่อไหมแค่นี้แหละครับ เชื่อว่ายืมมาจริงไหม เคยมีเพื่อนให้ยืมนาฬิกาแบบนี้ไหม อะไรอย่างนี้นะครับ คำถามก็ธรรมดามากไม่มีการเอ่ยชื่อบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น
กิตติชัย - คือเหมือนกับเราไปถามกลุ่มของเราว่าเขาเคยไปยืมนาฬิกาเพื่อนไหม
อานนท์ - ใช่ เพื่อนเคยให้เขายืมนาฬิกาหรูๆไหม เชื่อไหมว่านาฬิกาหรูเนี่ยยืมเพื่อนมา ถ้าคนอ้างแบบนี้ หรือว่าคนถือทรัพย์สินแพงๆ เรื่องมันก็มีแค่นี้ คราวนี้ผลโพลเนี่ยผมก็คงไม่ไปก้าวล่วง เพราะว่าผมได้ลาออกจากตำแห่ง ผอ. นิด้าโพล แล้ว สื่อก็ต้องไปถามท่านอธิการในฐานะผู้ระงับ ในเมื่อท่านระงับได้ท่านก็เป็นคนที่จะเผยแพร่ได้ ท่านมีหน้าที่ ที่จะต้องตอบคำถามนี้กับสังคม
กิตติชัย - แต่พอประเด็นนี้ กลายเป็นประเด็นสาธารณะขึ้นมาก็จะมีคนบางกลุ่มบางพวกมองว่าการตั้งคำถามโพลลักษณะนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม อาจารย์มองประเด็นนี้ยังไง
อานนท์ - หน้าที่ของโพลนะครับ คือสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน โพลก็บอกแล้วว่าเป็น Public Opinion เราก็ต้องการจะทราบว่าประชาชนคิดอย่างไร แล้วถามว่าผู้มีอำนาจรัฐไม่ต้องฟังเสียงประชาชนหรือ ถูกไหมครับ โทษนะครับ พระเจ้าอยู่หัว ท่านครองราช 2 ปีแรก ท่านตรัสกับคณะองคมนตรีในหนังสือของคณะองคมนตรีเล่มสีทองๆ ในนั้นบอกว่า ฉันครองราช 2 ปีแรก ฉันไม่มีผลงานเพราะฉันไม่รู้ว่าราษฎรต้องการอะไรแน่ พระเจ้าอยู่หัวท่านตั้งนิด้ามาด้วยพระองค์เองเลยนะ แล้วก็เป็นคนไปหาฟันดิ้ง หาเงิน มาตั้งนิด้า ไปขอผู้เชี่ยวชาญ เพราะท่านวางรากฐานว่าต้องการจะให้นิด้าเป็นคลังปัญญาของประเทศ ในการเปลี่ยนแปลงสังคมพัฒนาประเทศ ต้องใช้ข้อมูล ต้องใช้สถิติ คณะสถิติประยุกต์ เป็นคณะเดียวในนิด้าที่พระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งด้วยพระองค์เอง ทรงมีพระราชดำริว่าจะต้องมีการเรียนการสอนสถิติต้องไปปรับปรุงสำนักงานสถิติแห่งชาติ เพราะฉะนั้นความเห็นของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แล้วหน้าที่ของโพล ก็คือทำหน้าที่ในการสะท้อนความคิดเห็นประชาชน ขนาดพระเจ้อยู่หัวยังฟังเสียงประชาชนแล้วนักการเมืองเป็นใคร ผู้มีอำนาจรัฐเป็นใครไม่ฟังเสียงประชาชน ผมก็ขอพูดตรงๆอย่างนี้
กิตติชัย - แต่ทีนี้มันก็จะมีประเด็นว่าตั้งแต่ที่อาจารย์เข้ามารับตำแหน่งนี้เนี่ย 3 โพล 2 โพลแรกที่ผ่านไป ที่เปิดเผยได้เนี่ยมันดูเหมือนว่าจะให้น้ำหนักประเด็นการเมืองมากเกินไปหรือเปล่าครับอาจารย์
อานนท์ - โพลสาธารณะของนิด้านะครับก็จับอยู่แค่นี้ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ผมพูดตรงๆนะครับ อย่าโกรธกันนะ สื่อมวลชนไทยก็ห่วยแตก ถ้าทำเรื่องสังคมกับสิ่งแวดล้อมไม่เอาออกเลย ทั้งที่ผมสนใจเรื่องสังคมกับสิ่งแวดล้อมพอสมควร แต่ว่ามันไม่เคยอยู่ในกระแส ผมว่ามีไม่กี่ช่องที่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมแทบจะไม่มีเลยถ้าเป็นสื่อกระแสหลัก อันนี้สื่อมวลชนอย่าโกรธผมแล้วกันผมพูดตรงๆ ทีนี้เรื่องที่ทำโพลแล้วอยู่ในกระแสหลักๆ คืออะไร เราจะทำโพลเราก็ต้องดูประเด็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันคืออะไร เรื่องที่อยู่ในกระแสหลักๆ ก็คือการเมืองกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง สังคมกับสิ่งแวดล้อมมักจะแป๊ก อันนี้ผมพูดตรงๆ มักจะแป๊กคือสื่อไม่ให้ความสนใจแล้วก็เป็นประเด็นซึ่งจะเงียบๆ ทั้งอยู่บนหน้ากระดาษอยู่บนหน้าจออยู่บนโซเชียลมีเดีย เงียบหมด เผอิญเรื่องที่ทำมันก็ กำลังมีการตรวจสอบของ ปปช. คุณโก้ตามข่าวน่าจะทราบว่า ปปช. จะรับหรือจะไม่รับ หรือบอกว่าตรวจไม่ได้ คือข่าวมันก็มีแต่เรื่องนี้แล้วก็คนกำลังตั้งคำถามเรื่องจริยธรรมนักการเมือง นิด้าโพลก็มีหน้าที่จะต้องสะท้อนความความคิดเห็นของคนร่วมสมัยซึ่งศัพท์ทางวิชาการเราเรียกว่า ไซท์ไกสท์ ไซท์ไกสท์ ก็คือคนในยุคนั้นสมัยนั้น คิดอย่างไร นี้คือหน้าที่ของ Public Opinion โพล เราไม่ได้ถามเพื่อจะบอกว่า ไปร่างนโยบายสาธารณะ เราถามแค่ว่าคิดอย่างไร เห็นอย่างไร มันก็เป็นภาพสะท้อน สภาพสังคม สภาพการเมือง เศรษฐกิจ ณ เวลานั้น เราก็ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา
กิตติชัย - และถ้าอย่างนั้นใคร ในขั้นตอนของการเลือกประเด็นว่าจะถามเรื่องนี้ อาจารย์ทำงานกันอย่างไร
อานนท์ - คือเรามีห้องไลน์กลุ่มของนิด้าโพลเจ้าหน้าที่ก็เสนอมา ผมก็เสนอไป ผมก็ดูประเด็นแล้วก็คุยตกลงกัน เจ้าหน้าที่หลายคนเขาก็จะเซ็นเซอร์คำให้ผม คุณโก้ คงจะพอรู้นิสัยผม ผมเป็นคนพูดตรงโคตรๆ เขาก็บอกว่าเดียวอานนท์มันจะโดนเขายิงตายหรือว่าเสี่ยงคุก ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่เขาขึ้นประเด็นมาผมก็เขียนคำถาม แล้วเขาจะเกลาคำถามของผมให้มันซอฟท์ลง ลักษณะจะเป็นอย่างนั้น ก็มีห้องโพลนิด้าเล็กๆ เราก็คุยกันไป โยนกันไป โยนกันมาว่า เอายังไงทำอะไร โอเคสุดท้ายคือผม ถามว่าผมเอาประเด็นมาจากไหน ผมก็บอกตรงๆว่าประเด็นส่วนใหญ่มาจากนักข่าว หมายความว่าผมก็ต้องตามข่าว สังคม บ้านเมือง เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ผมก็ดูในโซเชียลมีเดีย ว่าคนรู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร ก็อย่างที่บอกว่า Public Opinion Survey หรือการสำรวจความเห็นสาธารณะคือการสะท้อนความเห็นของสังคมร่วมสมัย เป็นไซท์ไกสท์ เพื่อเป็นเสียงสะท้อนให้ผู้มีอำนาจรัฐ ให้ประชาชนได้รู้ว่า คนส่วนใหญ่เขาคิดกันอย่างไร หน้าที่เราก็เพียงแค่นำเสนอความคิดเห็นของคน ณ เวลานั้นๆ ต่อสาธารณะ อย่างซื่อตรง ตรงไปตรงมาตามหลักวิชาการแค่นั้นนะครับ
กิตติชัย - อาจารย์อยู่ในตำแหน่งมาประมาณ 2 อาทิตย์ 2 หัวข้อก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องความเชื่อถือของประชาชนต่อหน่วยงานของรัฐแล้วก็เรื่องของ ปปช. มีฟีดแบคกลับมายังไงบ้างครับ
อานนท์ - ก็ ฟีดแบค คือนักข่าวสนใจนะ หัวข้อคุณธรรมจริยธรรม ก็สนใจในระดับหนึ่ง บ้านเรานี้ก็แปลก ถ้าพูดถึงคุณธรรมจริยธรรม จะเซ็ง คือถ้าพูดเรื่องข่าวดี มันไม่ค่อยเป็นข่าว ถ้าเป็นข่าวแย่ๆ เช่น เชื่อไหม ว่า ป.ป.ช. กล้าพอที่จะตรวจสอบรัฐบาล หรือเชื่อไหม ว่ารัฐบาลไม่ได้โปร่งใส ไอ้คำถามอะไรเหล่านี้ กลายเป็นว่้าคนสนใจ ปรากฏว่าโพลที่สอง ก็ลงในข่าว ในพื้นที่ข่าวทุกอัน แล้วจริงๆ แล้ว นิด้าโพลก็ถูกประเมินว่า มีมีเดียแวลูเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ผมต้องคำนวณมีเดียแวลูว่า ผลโพลออกมาเราได้มีเดียแวลูเท่าไหร่ ก็ดูมีเดียแวลูก็คือโอเค เพราะว่าเราทำงานโดยมี Key Performance Indicator เรามีตัววัดอยู่ แล้วเราก็ดูว่า ประเด็นไหนควรจะชี้นำสังคม ประเด็นไหนเป็นประเด็นสังคมร่วมสมัย อะไรอย่างนี้
กิตติชัย - แต่ที่อาจารย์บอกสองหัวข้อนั้น ไม่มีฟีดแบค
อานนท์ - ครับ
กิตติชัย - ไม่มีผู้มีอำนาจ ไม่มีทหาร
อานนท์ - ไม่มีใครมายุ่งกับผม ถึงทุกวันนี้ทหารก็ยังไม่มายุ่งกับผมเลย เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของ คสช. เรื่องของทหารเลย มันคือเรื่องของ Self-censorship นะครับ ซึ่งเกิดขึ้นในนิด้าเอง
กิตติชัย - อาจารย์ ใช้คำว่า Self-censorship ก็คือการ เซ็นเซอร์ตัวเอง แต่ว่าในบางกระแสเขาก็ไปตั้งคำถามกับอธิการบดีว่า ท่านเป็น สนช. อาจจะมีโทรศัพท์เข้ามาจากทหารตอนโน้น ตอนนี้
อานนท์ - อันนั้น ผมไม่ทราบ อันนั้นมันเป็นสิ่งที่ท่านต้องไปตอบสังคม นักข่าวก็มีหน้าที่ไปถามท่านว่า เออ ท่านเป็น สนช. ท่านถูกทหารกดดันมาไหม ซึ่งผมก็ไม่รู้ ว่าท่านถูกกดดันมาไหม แต่เท่าที่ผมรู้ ผมไม่มีทหารคนไหน มายุ่งกับผม ผมมีเพื่อนเป็นทหาร วันก่อนผมเพิ่งไปสอนนักเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร. 10 กว่าคน ผมมีสัมพันธ์อันดีกับทหาร ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าตกลงจะลากไปเรื่องทหารหรือเปล่า แต่ถ้าสื่อมวลชนสงสัยไปถามท่านเลยครับ ผมก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตอบแทนท่านอธิการฯ ได้
กิตติชัย - กังวลไหมครับ ว่าประเด็นที่อาจารย์มองมันเป็นเรื่องในสถาบัน ถูกโยงไปเป็นประเด็นการเมืองที่ใหญ่ขึ้น
อานนท์ - เออ เอาจริงนะครับ ผมก็ไม่อยากให้โยงอย่างนั้น เพราะว่าผมออกมาพูดก็คือในเรื่องของ Self-censorship กับอะไรนะครับ ความกล้าหาญทางจริยธรรม ความกล้าหาญทางวิชาการ พูดถึง Acadamic Entity ผมต้องการแค่นี้ ผมไม่ได้ต้องการไปถล่มรัฐบาล ผมไม่ได้ต้องการไปโจมตี คสช. ผมไม่ได้ต้องการจะไปว่าร้ายใคร คนใดคนหนึ่ง ผมแค่สะท้อนความเห็นของสังคม ทำหน้าที่ของผมในฐานะนักวิชาการ อย่างตรงไปตรงมา ถามว่ามีไหม ผมว่ามีลากไปบางประเด็นทางการเมือง สื่อฝั่งหนึ่งซึ่งไม่ชอบรัฐบาลอยู่ เอาผมไปเป็นลูกกลิ้ง โห ใส่รัฐบาลซะจนราบเลย ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ ผมต้องพูดคำว่า เสธฯ ไก่อู เสธฯ ไก่ตาแตก คือผมสงสารนะ เพราะ เสธฯ ไก่อู ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ตื่นเช้ามานักข่าวเอาไมค์ไปจ่อ คือตัวแกเอง ยังไม่ทันได้รู้อะไรเลย แล้วก็ไม่ได้รู้จักกับผม คือมันไม่ได้มีทหารหรือนักการเมืองคนไหน คสช.อะไรเนี่ย ต่อสายมาหาผม แม้แต่สายเดียวนะครับ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่รับรู้ รับรู้แค่ว่าเป็น Self-censorship ถ้าถามว่า ท่านอธิการฯ ถูกกดดันมาจากทหารไหม ผมไม่ทราบ แต่ถ้าผมเป็นอธิการบดีฯ ผมก็จะบอกกับทหารไปตรงๆ ว่า นี่คือเสรีภาพทางวิชาการ ซึ่งผมก็จะต้องปกป้องแล้วผมก็จะต้องทำหน้าที่ยืนหยัดในฐานะนักวิชาการ เพื่อคงไว้ทางความซื่อตรงทางวิชการการนะครับ ถ้าผมเป็นอธิการบดีฯ ผมจะทำเช่นนั้น ผมจะไม่มีวันยอมตามคำขอของใคร เพราะว่าผมถือว่านี่คือสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติสูงสุด แล้วนิด้า โทษนะครับ พระเจ้าอยู่หัวท่านตั้งขึ้นมา มีพระราชดำริขึ้นมาแล้วทรงใส่พระทัยกับนิด้ามา ผมถือว่าผมทำงานกับนิด้า นักข่าวถามว่า ผมจะไปที่อื่นไหม จะย้ายไหม ผมไม่ย้ายหรอกครับ ผมก็จะอยู่ที่นี่ต่อ ผมภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่
กิตติชัย - ครับ อาจารย์ครับ ย้อนกลับไปที่อาจารย์บอกว่า เราทำโพลเพื่อสะท้อนความเห็นของคนในสังคม แต่ทีนี้มันก็มีคำวิจารณ์ออกมา แม้กระทั่งอธิการบดี ด้วยซ้ำ ความเห็นของคนแค่ 1,000-2,000 คน มันสะท้อนสังคมไม่ได้
อานนท์ - โอเค ท่านอธิการฯ พูดเช่นนั้น ผมคงไม่อาจเห็นด้วยได้ นิด้าโพล นี่นะครับ เราใช้เวลาเป็น 10 ปี นะครับ แล้วเป็นโพล ผมไม่อยากบอกว่าเป็นโพลเดียว แต่เป็นโพลที่ยืนหยัดในการใช้ระเบียบวิธีวิจัย อย่างที่เข้มแข็งที่สุด วิธีที่เราได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่างหลักหรือ Master Sample 2 แสนกว่าเนี่ยนะครับ เราไม่ได้มีเบอร์โทรศัพท์ของประชาชน มือถือนะครับ คนไทยร้อยละ 90 มีมือถือ เพราะฉะนั้น Coverate ถือว่าดี แต่ว่าเราไปขอ กชทช. เขาก็ไม่ให้ มันเป็นเรื่องส่วนตัว สิ่งที่เราทำก็คือ เราใช้วิธีที่เรียกว่า Random Digit Dial Random ก็คือ Digit ก็คือตัวเลข สุ่มตัวเลขขึ้นมาแล้วแล้วก็โทร.ออก เพราะฉะนั้นเราก็โทร. ตั้งแต่ 01 จนถึง 09 มีเป็น 1,000 หลัก ล้านเบอร์นะครับ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกครับว่า ไอ้เบอร์ที่เราสุ่มขึ้นมาตั้งแต่เบอร์ 01 จนถึง 09 ซึ่งมันมีเป็นสิบหลัก นึกออกไหมครับว่าเลขเยอะมากนะครับ เบอร์ไหนเปิดใช้แล้ว เบอร์ไหนไม่เปิดใช้ เบอร์ไหนเป็นของใคร ผมไม่รู้ เราใช้คอมพิวเตอร์สุ่มขึ้นมา พอสุ่มขึ้นมาเสร็จ เราก็โทร.ออกไป เพื่อจะดูว่ามีคนรับสายไหม ซึ่งบางเบอร์ก็จะบอกว่า หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ก็เป็นอย่างนั้นซะเป็นส่วนมาก แล้วพอโทร.ไป เขาตอบรับบ้าง เขาไม่รับบ้าง ถ้าเขาตอบรับเราก็บอกเขาว่า นิด้าโพลโทร.มานะ เราอยากจะขอเชิญท่านมาเป็นตัวอย่างหลักใน Master Sample เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ขอรบกวนถามว่าท่านอยู่จังหวัดอะไร อายุเท่าไหร่ ระดับการศึกษา เป็นอย่างไรนะครับ อะไรอย่างนี้ ซึ่งเราโทร.ออกไปเป็นสิบๆ ล้านเบอร์ เพื่อที่จะได้ Master Sample แค่สัก 2 แสนกว่า ใช้เวลาเป็น 10 ปี นะครับ แล้วเบอร์ที่โทร.ออกไปก็มาจากสุ่ม มันสุ่มตั้งแต่ 01 แล้วก็ 0 ไปอีกจนถึงหลักที่สิบ แล้วก็ 09 แล้วก็ 9 ไปอีกจนถึงหลักที่สิบ นะครับ นึกออกไหมครับ เพราะฉะนั้นมันคลุมทุกเบอร์ แล้วก็สุ่มขึ้นมาแล้วก็โทร.ไป นะครับ พอเราได้ Master Sample มา เราก็ต้องมาสุ่ม Master Sample จาก 2 แสนกว่า ซึ่งก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์สุ่มขึ้นมา เพราะฉะนั้นมันไม่มีแบบ Cherry picking มันสุ่มจริงๆ แล้วมันก็ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ ถามว่า ถ้ามันจะเอียงนิดหน่อยมีไหม ก็โทรศัพท์มือถือ ก็คือว่าจะต้องเป็นคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ทุกวันนี้นะครับ รุ่นอากง อาม่า ยังเล่นไลน์เลย เพราะฉะนั้น Coverate เราในแง่ของความครอบคลุมประชากรดี แล้วเราก็สุ่มตัวอย่าง กำหนดขนาดตัวอย่างที่สุ่มตามหลักสถิติ ขนาดตัวอย่างก็คือที่เราจะเก็บแต่ละครั้งมากน้อยแค่ไหน ไม่ได้สำคัญเลยว่า ไม่สำคัญเท่ากับว่าเราสุ่มอย่างทั่วถึงจริงๆ นะครับ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าไปซื้อส้มเข่งหนึ่ง ถ้าเก็บจากข้างหน้าเข่งออกมา เราก็จะได้ส้มสวยเลย แต่ก้นเข่งมันเน่า การสุ่มที่ดีไม่ได้เก็บมาครึ่งเข่ง แต่เอาเฉพาะด้านบน ต้องล้วงลงไปถึงก้นเข่งอย่างสุ่มๆ เพราะฉะนั้น Sample Size ขนาดตัวอย่างเล็กหรือน้อยไม่สำคัญ และนิด้าโพลนะใช้คอมพิวเทอร์สุ่มเลยนะ และตอนโทรไปเก็บข้อมูลเจ้าหน้าที่เราก็ถูกดักฟัง โดยสิ่งที่เรียกว่า Data Quality Control ดักฟัง บันทึกเทปเช็กข้อมูลว่าโทรไปเบอร์นี้จริงไหม สิ่งที่อยู่ในเทปกับสิ่งที่บันทึกตรงกันไหม เราทำละเอียดมากเลย และใช้ความพยายามอย่างมากที่สุด น้องๆ ส่วนใหญ่ที่โทรเป็นน้อง ป.ตรี ที่รามคำแหงเรามีเป็นร้อยนะครับก็โทรกันทั้งวันทั้งคืนและทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เพราะฉะนั้นผมยังยืนยันว่า ขนาดตัวอย่างและเทคนิกในการสุ่มตัวอย่างและวิธีการในการได้มาข้อมูลของนิด้าโพลเป็นไปอย่างมีมาตรฐานวิชาการ จะหาว่าผมคุยผมคิดว่าไม่มีโพลที่ไหนในประเทศไทยที่ทำอย่างนี้ รัดกุมรอบครอบขนาดนี้ แต่ระเบียบวิธีวิจัย ที่รัดกุมแค่ไหนก็ตามถ้าหากเจอการแทรกแซงทางเสรีภาพทางวิชาการแล้ว ผมว่ามันจบครับ มันพัง เพราะฉะนั้นผมเมื่อเจออย่างนี้ผมก็ไม่สามารถจะยอมรับได้ ผมก็ต้องลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนทางวิชาการของผม
กิตติชัย - อาจารย์ครับในแง่ของการสุ่มตัวอย่าง เรายืนยันว่าเรามีมาตรฐานทางวิชาการที่เชื่อถือได้เป็นอย่างมาก แต่ในแง่ของที่เราไปสอบถามความคิดเห็น เราจะทำอย่างไรให้คำถามที่เราไปถามเขา มีความเหมาะสมหรือ ไม่อคติ ไม่ชี้นำจนเกินไป
อานนท์ - คำถามมันก็ไม่ชี้นำหรอกครับ ก็ถามทั่วๆ ไป ตามที่สัมคมคิดเห็นถามว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะถามคำถามชี้นำก็ได้ แต่คนตอบเขาก็มีสิทธิปฏิเสธ คำถามก็มาจากนักข่าวมาจากหนังสือพิมพ์ มาจากโซเชียลมีเดีย ผมก็ไปรับฟังความเห็นอย่างไม่เป็นทางการจาก ที่นู้น ที่นี้ ที่นั้น ผมก็เอามาเรียบเรียง แล้วก็มีช่วยกันกลั่นกรองกับน้องๆ ในด้านโพลในห้องส่วนใหญ่ ถ้าเอาคำถามผมจริงๆ แรงกว่านี้อีก น้องๆ ในนิด้าโพลใช้คำเรียกว่าอะไรนะ ใช้คำว่าพรมน้ำเย็นให้ผมแล้ว คุณโก้จะรู้นิสัยผมว่าผมพูดตรงขนาดไหน คือน้องๆ เขาจะทำงานหนักเพื่อให้คำถามผมเบาลง อันนี้ผมก็ต้องขอบคุณน้องๆ เขานะ แต่คำถามเราก็ต้องพยายามสะท้อนภาพสังคม ว่าสังคมคิดยังไง ก็ออกมาในคำถามอย่างนั้นนะครับ
กิตติชัย - ทันทีที่เกิดเรื่อง อาจารย์ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนในทีม ว่ากลุ่มตัวอย่างหรือน้องๆ ที่เป็นคนโทรไปไม่ครับ ว่าเขารู้สึกอย่างไร
อานนท์ - น้องๆ พอผมรู้เรื่องนี้ปุ๊บภายใน 2 นาที ผมก็บอกกับน้องๆ เลยว่าผมขอลาออกทันทีผมไม่สามารถทำงานในสภาพการณ์อย่างนี้ได้ เพราะผมไม่มีหน้าที่จะไปตอบว่าคนที่ตอบคำถามผมแล้วทำไมโพลไม่ออก ผมไม่มีหน้าที่จะไปตอบน้องๆ ในทีมว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ แล้วเขาทำงานเหนื่อยมาขนาดนี้แล้วระงับการออกของเขา ผมละอายแก่ใจ ในขณะเดียวกันก็ละอายแก่ใจแก่ตัวเองว่า ถ้าผมทำงานแล้วปราศจากเสรีภาพทางการทำงานปราศจากเรื่องของความซื่อตรงทางวิชาการผมคิดว่าผมไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป เพราะผมมีหน้าที่ของโพลสาธารณะอย่างนิด้าโพลก็คือสะท้อนความคิดเห็นต่อประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับประชาชนเลย แต่ถ้าประชาชนบอกมาอย่างนั้น หน้าที่ผมมีอยู่อย่างเดียวคือนำเสนออย่างซื่อตรง ผมไม่สามารถจะบิดเบือนใคร ความคิดเห็นของประชาชนเพื่อใคร คนใดคนหนึ่ง หรือเพื่อไปรับใช้อำนาจของใครผมทำเช่นนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะฉะนั้นน้องในทีมเขาก็ช็อกไปอยู่ระดับหนึง คือเขาก็ช้อก ผมเข้าไปเพื่อไปปรับปรุงไปเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ส่งน้องๆ ไปเรียนแอนิเมชัน ว่าเราจะเปลี่ยนวิธี press release เราส่งวันอาทิตย์บ่าย ซึ่งจริงๆมันช้าไปนักข่าวเขียนไม่ทันเรากลับมาส่งวันเสาร์ไหม และเขาก็ตั้งใจทำเร่งวงจรให้มันทันจนเราสามารถออกได้ตั้งแต่วันศุกร์ ทั้งที่ปกติเราออกวันอาทิตย์บ่าย ผมเห็นความพยายามของน้องๆ ในทีมแล้วผมเลยรู้สึกว่าผมคงทำหน้าที่นี้ต่อไปไม่ได้ เขาเร่งจากที่เคยออกวันอาทิตย์มาออกศุกร์บ่ายได้ ไอ้ผลอันที่เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบ คสช.นั้น ปกติมันต้องออกวันอาทิตย์บ่าย นี้เขาทำงานหนักมาก มาออกศุกร์บ่าย เพื่อให้ทันเพราะปกติเสาร์อาทิตย์มันจะไม่ค่อยมีข่าว ถ้าเราใส่ไปศุกร์บ่ายหรือเสาร์เช้า นักข่าวเขาจะมีเวลารีไรท์หรือทำภาพประกอบไปอะไร ผมบอกว่ามันเป็น bad timing เป็นเวลาที่เหมาะ ผมก็ปรับ ปรับด้วยความตั้งใจดี นิด้าโพลทำ press release แบบทื่อๆ ก็คือส่งไปโต๊ะข่าวตรงกลางไม่ได้ส่งไปโต๊ะสังคมโต๊ะเศรษฐกิจโต๊ะการเมืองแล้วเราก็ไม่มีชื่อนักข่าวด้วยนะ คือเรามีเบอร์กลาง
กิตติชัย - เขาจะดูหรือเปล่าก็ไม่รู้
อานนท์ - แล้วเขาจะรู้หรือเปล่าก็ไม่รู้ คือนิด้าโพลทำงานแบบทื่อๆ นักวิชาการทื่อๆ มาตลอดผมถึงบอกว่าเด่วเราลองมาปรับสิว่าเราทำ press release ให้ดีขึ้น ก็จะรู้จักนักข่าวมากขึ้น เราว่าจะมีไลน์นักข่าว เราน่าจะถามนักข่าวนะ ว่าคิดว่าประเด็นไหนเป็นสิ่งที่ควรถาม ผมก็พยายามปรับอันนี้ก็พยายามคุยกับน้องๆ ในทีม น้องในทีมก็ช็อกเหมือนกันกับการที่ผมออก แต่ว่าผมก็อยู่ต่อไม่ได้จริงๆ ถ้ามันไม่มีเสรีภาพ ทางวิชาการไม่มีความซื่อตรงทางวิชาการไม่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมผมอยู่ไม่ได้จริงๆ
กิตติชัย - อาจารย์ครับแล้วมีใครติดต่อมาคุยอะไรกับอาจารย์บ้างไหมครับ
อานนท์ - ก็มีครับ ผู้หลักผู้ใหญ่ให้กำลังใจ อาจารย์หลายท่านในนิด้าก็ให้กำลังใจผม สังคมก็มีบ้างที่มาด่า เช่น บอกทำไมยังเชียร์ คสช. ผมก็บอกเอ้ย ถ้าเขาไม่เข้ามาน่าจะตายกลางถนนกันเกลื่อนแล้ว ยังไม่จบจำนำข้าวก็ไปไม่ถึงไหน แต่ผมก็ไม่ได้เลียทหาร ผมใช้คำนี้เลยนะผมถือว่าถ้าทหารทำไม่ถูกผมก็มีสิทธิท้วงติงประชาชนก็มีสิทธิที่จะท้วงติง เราให้เขาเข้ามาทำหน้าที่ ถ้าเขาทำหน้าที่ดีเราก็ให้เขาทำต่อไป ถ้าเขาทำไม่ดีก็เป็นอีกเรื่องหนึงประชาชนเขาก็มีสิทธิที่จะส่งเสียงได้ ผมว่าผมเป็น libero มากกว่าใครบนโลกนี้ละมั้ง คราวนี้เอาไปตีบ้างให้กำลังใจมันก็เยอะนะครับการที่เราอยู่ในที่สาธารณะผมก็ตกใจไม่คิดว่าเรื่องมันจะใหญ่โตขนาดนี้ คือผมคิดว่า ผมได้ทำหน้าที่ของนักวิชาการอย่างถูกต้อง สุจริต ซื่อตรง นะครับ แล้วก็กล้าหาญ เพราะงั้นผมไม่ได้เสียดายตำแหน่ง อย่างผมรับตำแหน่งในนิด้า ตำแหน่งบริหารทั้งหลาย ผมไม่รับเงินเดือน เพราะว่า ผมไม่รับเงินเดือนตำแหน่งพวกนั้นเพราะผมถือว่ามันเป็นงานการเมือง ผมเชื่อว่าการเมืองเป็นเรื่องของความเสียสละ ผมศรัทธาท่านพุทธทาสฯ ท่านว่าอย่างนั้น ว่าการเมืองเป็นเรื่องของการเสียสละ ไม่เห็นแก่พวกพ้อง ไม่เห็นแก่ใคร ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์นะครับ ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย ตำแหน่งพวกนี้มาแล้วก็ไป แต่เงินเดือนที่สอนหนังสือยังรับนะครับ ยังต้องกิน ต้องใช้ ผมก็ทำแบบนี้มาโดยตลอด เพราะฉะนั้นคือการที่ถูกแทรกแซงเสรีภาพทางวิชาการอย่างนี้ แล้วก็ผมไม่ได้แคร์เรื่องเงินอยู่แล้ว จะไม่รับอยู่แล้วนะครับ ผมก็ไม่ยี่หระ แล้วก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น กล้าที่จะแสดงจุดยืนของตัวเอง
กิตติชัย - จนถึงเวลานี้ ขออนุญาตห้าม มุมมองที่อาจารย์มีต่อรัฐบาล คสช. เปลี่ยนเลยไหมครับ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อานนท์ - คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกี่ยวกับ คสช. นะ ต้องอธิบายอย่างนี้ก่อน คสช. ไม่ได้มาเซ็นเซอร์ผม ไม่ได้มาสั่งนิด้า ในความรู้สึกผมอันนี้เป็นเรื่อง Self-censorship หรือการเซ็นเซอร์ตัวเองนะครับ มุมมองที่มีต่อ คสช. ผมว่า ผมเป็นห่วงนะครับ เป็นห่วงว่าน้องรักพี่ แล้วพี่รักน้องรึเปล่า แล้วก็ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมรักและห่วงลุงตู่มากเลยนะคัรบ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ผมก็เคารพลุงตู่นะครับ แต่ว่าลุงตู่ต้องคิดแล้วว่าจะทำยังไงต่อ จะเรือล่มไปทั้งหมดไหม หรืออะไร คือผมไปรับฟังเสียงประชาชนมาให้แล้ว ท่านรัฐบาลจะคิดปรับ ครม. ไหม หรือว่าจะทำอย่างไรให้มีเหตุมีผล คือน้ำพยุงเรือได้ฉันใด น้ำก็ล่มเรือได้ฉันนั้น ผมมองรัฐบาลด้วยความรักและเป็นห่วงอย่างยิ่ง
กิตติชัย - อาจารย์ครับ ขออนุญาตถามในมุมที่กว้างขึ้น พอดีเนื่องจากอาจารย์เป็นนักสถิติด้วย ทำโพลเองด้วย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักอื่นเขามีโพลเรื่องของการเลือกตั้ง และผู้สื่อข่าวเอาประเด็นนี้ไปถามกับโฆษกรัฐบาล โฆษกรัฐบาลก็มีท่าทีที่เหมือนกับว่าไม่ค่อยที่อยากจะรับฟังโพลเท่าไหร่ อาจารย์ห่วงประเด็นนี้ไหมครับ
อานนท์ - คืออย่างนี้นะครับ ผมก็พอเข้าใจเสธ.ไก่อู คืออันนี้ก็พูดตรงๆ โพลในประเทศไทยหลายก็ แหม ไม่ควรพูดแล้วเพราะอยู่ในฐานะ ผอ.นิด้าโพลแล้ว แต่จริงอาจควรพูดก็ได้ เพราะไม่ได้อยู่ใน ผอ.นิด้าโพลแล้ว พูดในฐานะนักวิชาการด้านสถิติล่ะกัน โพลหลายอันทำ ก็ไม่ได้ทำอย่างที่นิด้าโพลทำแบบรัดกุมสุ่มตัวอย่างแบบรัดกุมที่สุดขณะนี้ ไปเก็บจากใครก็ไม่รู้ แล้วก็ถามอะไรก็ไม่รู้แหล่ะ หรือว่ามีอะไรแทรกแซงรึเปล่า ขณะนิด้าโพลซึ่งอย่างนี้ เรียกว่ายืนหยัด มั่นคง มากอย่างผมยังเจอเลย ผมก็ไม่รู้ว่าโพลอื่นจะเจอไหม มันก็อาจเป็นไปได้เหมือนกันนะครับ ทีท่านรองอธิการฯ โทรมาบอกผมว่าแล้วถ้าเกิด ผอ.นิด้าโพล รับเงินนักการเมืองล่ะ เผอิญไอ้ผม เงินในนิด้าผมยังไม่เอาเลย แล้วจะให้ผมไปเอาเงินนักการเมืองโสโครกเนี่ย ขออภัยใช้คำแรง ผมก็คงไม่ทำหรอกครับ แต่ผมไม่รู้ว่าโพลอื่นรับไหม เพราะฉะนั้นผมก็เข้าใจท่าทีของ เสธ.ไก่อู นะ แล้วก็เข้าใจโพลบ้าๆ บอๆ ก็มีเช่น ผลโพลธุดงค์ธรรมชัย อะไรล่ะ
กิตติชัย - เห็นด้วยหรือไม่
อานนท์ - เห็นด้วยหรือไม่นะ ร่าเริงมีความสุข แช่มชื่น คำถามนี้ choice นี้เอียงไปแบบบวกหมดเลย ไม่มีคำถามลบเลย เสร็จแล้วก็เก็บไอ้ที่กราบตีนข้างๆ ดอกดาวเรือง มันพลาดได้ตั้งแต่ตัว choice พลาดได้ตั้งแต่ ผิดพลาดคลาดเคลื่อนตั้งแต่ตัว choice ที่ถาม พลาดได้ตั้งแต่สุ่มตัวอย่าง เพราะฉะนั้นเสธ.ไก่อู เขาก็มีสิทธิ์ ผมเสียดายที่ผมไม่ได้ทำใน ผอ.นิด้าโพล ต่อ ผมทำ ผมก็คงทำเรื่องเลือกตั้งต่อ เผอิญว่าเลือกตั้งยังไม่ร้อนเท่ากับเรื่องนาฬิกากับป.ป.ช. ผมแพลนไว้แล้ว เพราะผมสนใจเรื่องเลือกตั้ง แต่เผอิญว่าก็ไม่เป็นไร ผมไม่ทำโพล ผมก็อยู่ในฐานะนักวิชาการทำเรื่องอื่นได้
กิตติชัย - อาจารย์ครับ ขอรบกวนเป็นคำถามสุดท้าย อาจารย์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสังคมควรจะได้เรียนรู้อะไรจากนั้น
อานนท์ - โอเค สิ่งที่สังคมควรจะได้เรียนรู้ ผมว่าเรื่องที่สำคัญที่สุด Self-censorship ของสถาบันอุดมศึกษา เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะยอมรับได้ ในสถาบันอุดมศึกษาเรามีสีนู้น สีนี้ กระทั่งอาจารย์ในคณะผมมีเสื้อแดง สีแดงเเลยนะในนิด้าเนี่ย ท่ามกลางสีเหลืองจัดเลยในนิด้า แต่ว่าผมก็ respect ในความเห็นทางการเมือง เราก็ เขาคิดยังไงเราก็ซื่อสัตย์กับเขาเหมือนกัน เราก็ต้องให้เกียรติเขา ยิ่งสถาบันอุดมศึกษาซึ่งจะต้องชี้นำทางการเมือง หรือจะต้องชี้นำสังคม แล้วถ้าเกิดสถาบันอุดมศึกษาไม่เข้มแข็งพอแล้ว Self-censorship แบบนี้อีก ประเทศไทยจะไปทางไหนรอดครับ ถ้าเกิดสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะต้องเป็นหลักทางปัญญาของสังคม ต้องเป็น wisdom for change มี Self-censorship ต่อไปนิด้าจะเหลืออะไร เหตุผลเดียวที่ผมลุกขึ้นมาเรื่องนี้ก็คือ ผมรู้สึกว่าอันนี้คือการทำร้ายนิด้า นิด้าจะเป็น wisdom for change ได้ ต้องมีเสรีภาพทางวิชาการ ต้องไม่มี Self-censorship ในนิด้า เพระาฉะนั้นผมยอมรับในเรื่องนี้ไม่ได้เลยครับ สังคมไทยจะต้องเรียนรู้เรื่องนี้ล่ะครับ
กิตติชัย - ณ เวลานี้ ถ้าผู้บริหารสถาบันมาคุย มาบอกให้อยู่ต่อ
อานนท์ - อ้อ ไม่อยู่แล้วล่ะครับ เพราะว่าคือคนเราจะทำงานด้วยกันนี่นะครับ ต้องมี trust หรือว่ามีความไว้ใจกัน ถ้าเขาต้องเช็คผม ขณะระแวงว่าผมจะไปรับเงินจากนักการเมืองโสโครกเนี่ยนะครับ ผมคงไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ผมจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อผมมีเสรีภาพทางวิชาการ มีการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แล้วก็มีความไว้ใจซึ่งกันและกัน ผมค่อนข้างเป็นคนถือตัว เย่อหยิ่ง จริงๆ เป็นคนสบายๆ นะ แต่หมายความว่าเรื่องที่ผมรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องหลักการและเหตุผลแล้วเนี่ย เวลาผมดื้อ ผมไม่ยอมเนี่ย ผมก็ตามนั้น ผมยึดหลักตามนั้น แล้วผมก็ไม่เคยกลัวใครด้วยนะครับ
กิตติชัย - วันนี้ขอบคุณอาจารย์ เป็นกำลังใจให้อาจารย์ด้วยครับ
อานนท์ - ขอบคุณพระคุณครับ สวัสดีครับ
กิตติชัย - ขอบคุณครับอาจารย์ครับ วันนี้เราก็ได้รับฟังมุมมองของอาจารย์ด็อกเตอร์อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือว่านิด้า ที่ล่าสุดอาจารย์เซ็นใบลาออกแล้วนะครับ จากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ต้องติดตามกันต่อไปครับ หลังจากนี้นิด้าโพลจะมีใครมาลงตำแหน่งนี้ และจะมีทิศทางอย่างไร จะมีโพลการเมืองเข้มข้นให้เราติดตามกันอีกหรือไม่ เป็นประเด็นที่ต้องดูกันยาวๆ ครับ วันนี้ผมและอาจารย์อานนท์ ลาผู้ชมไปก่อนครับ สวัสดีครับ