“วิทวัส” ลงพื้นที่ตรวจดอนเมือง ยังพบขายอาหาร เครื่องดื่ม ราคาแพง เมนูผัดไทยกุ้งสุดราคาสุดโหด 235 บาท ร้านอาหารเลี่ยงขายน้ำแร่ แทนน้ำดื่มธรรมดา ขณะที่เบอร์เกอร์ - กาแฟ ปรับราคาอยู่ในเกณฑ์ เผยเตรียมถก รมช.คมนาคม - ผู้บริหาร ทอท. 31 ม.ค. นี้ เล็งวางหลักการทำสัญญาสัมปทานรอบใหม่ปี 63 หวังไม่เกิดปัญหาซ้ำรอย พร้อมลุยสุวรรณภูมิพรุ่งนี้ต่อ
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะได้ลงพื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาราคาอาหารและเครื่องดื่มแพง โดยมี นาวาอากาศโท สุธีรวัมน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง และ นายสุทัศน์ สุวรรณผ่องใส ผอ.ฝ่ายการพาณิชย์ การเงินและบัญชี ท่าอากาศยานดอนเมือง ร่วมตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้ ก่อนการลงพื้นที่ของคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจราคาสินค้า ว่า มีการจำหน่ายสูงเกินกว่าที่ ทอท. ได้ทำสัญญากับเอกชนที่เข้ามาเช่าพื้นที่ขายหรือไม่ คือ สูงเกินกว่าร้อยละ 20 ของราคาสินค้าประเภทเดียวกันที่ขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และพบว่า มีอยู่จำนวนหลายรายการที่ราคาสูงเกินกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันที่ขายในห้างสยามพารากอน ทำให้ พล.อ.วิทวัส และคณะต้องการที่จะมาตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้ก็ยังคงพบว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะนำน้ำดื่มธรรมดามาจำหน่าย โดยจำหน่ายเป็นน้ำแร่แทนมีราคาตั้งแต่ 30 - 45 บาท แต่ในร้านสะดวกซื้อมีการวางขายน้ำดื่ม และมีการปรับอัตราลงเหลือขวดลละ 10 บาท ขณะที่กาแฟสด หรือ เบอร์เกอร์ แบรนด์ดังก็พบว่ามีการปรับราคาลงอยู่ในเกณฑ์ที่สัญญากำหนด ส่วนอาหารปรุงสำเร็จ อย่างเช่น ผัดไทยเส้นจันท์กุ้งสด ของร้านเบเกอรี่ชื่อดัง พบว่า ขายในห้างสรรพสินค้าภายนอกราคา 185 บาท แต่ในสนามบินดอนเมืองราคาสูงถึง 235 บาท หรือสูงกว่า 50% โดยผู้ตรวจฯก็ได้แจ้งให้กับทางผู้จัดการร้านทราบว่าตั้งราคาสินค้าเกินกว่าสัญญาที่ทำกับ ทอท. ขอให้มีการแก้ไข ซึ่งผู้บริหารทอท.ที่ร่วมคณะก็รับปากที่จะเข้ามาดูแล
ภายหลังการลงพื้นที่ พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจเคยลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้ามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 59 เมื่อพบว่าราคาสินค้าแพงเกินกว่าที่กำหนดในสัญญาก็ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลแก้ไข การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นติดตามการแก้ไข ซึ่งก็บพบว่ามีการปรับปรุงเแก้ไขไปบางแล้ว อย่าง น้ำดื่ม ก็มีราคาไม่เกิน 10 บาท แต่ก็มีอีกหลายร้านที่ไม่นำน้ำดื่มธรรมดามาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ส่วนราคาอาหารพบว่ามีการปรับลงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น เหลือที่เกินร้อยละ 20 ไม่มาก และจากการพูดคุยทางร้านก็มีท่าทีที่พร้อมจะแก้ไข และ ทอท. ก็พร้อมจะช่วยทำความเข้าใจกับร้านค้า และกวดขันในการตรวจสอบ ซึ่งก็จะทำให้ปัญหาเรื่องชื่อเสียงของ ทอท. ค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้ต้องการที่จะเอาผิดกับการปล่อยให้เกิดการขายสินค้าเกินราคาที่กำหนดในสัญญา แต่หวังให้เกิดการแก้ไข โดยในวันที่ 31 ม.ค. ก็จะมีการหารือกับทางผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ผู้บริหาร ทอท. อธิบดีกรมการค้าภายใน สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของระยะเวลาในการแก้ไข มาตราการควบคุมที่ ทอท. ต้องเอาใจใส่ และเรื่องสัมปทานรอบใหม่ที่ ทอท. จะต้องทำกับเอกชนในปี 63 ว่า ควรมีการวางหลักเกณฑ์อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายอย่างที่เคยเกิดมาแล้ว ส่วนที่มีการนำเรื่องดังกล่าวไปร้องต่อ ปปท. ก็เห็นว่าองค์กรอิสระควรต้องร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งปัญหาดังกล่าวผู้ตรวจฯเห็นว่าสามารถที่จะแก้ไขได้ จึงได้ขอความร่วมมือ แต่ถ้าหน่วยงานนั้นไม่แก้ไข หรือก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ทางปปท. ก็มีอำนาจที่จะเข้ามาตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) เวลา 09.30 น. พล.อ.วิทวัส และคณะ ก็จะลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรวจความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งจะต้องมีราคาไม่สูงเกินกว่าร้อยละ 25 ของสินคัาประเภทเดียวกันที่จำหน่ายในห้องสรรพสินค้าชั้นนำ